บุกเมืองช้าง ค้นหาผู้มีบุญมาบวช

ในช่วงนี้ ถ้าคุณเดินทางไปภาคใต้ คุณจะได้ยินเสียงที่ลอยมาแต่ไกลว่า “บวชม่าย...บวชม่าย” ถ้าคุณไปเที่ยวทางภาคเหนือ คุณก็จะได้ยินเสียงในความหมายทำนองเดียวกันว่า “บวชไหมเจ้า มาบวชโตยกั๋นก่อเจ้า” และถ้าคุณเดินทางมาแถวๆภาคอีสาน คุณก็จะได้ยินว่า “บวชบ่...บวชบ่ มาบวชนำกันเด้อค่ะ” เนื่องจากว่ากระแสการชวนบวชตอนนี้ ได้แผ่กระจายไปทุกทิศทั่วไทยแล้ว เรียกได้ว่า “ถ้าคุณไม่รู้จัก ถ้าคุณไม่เคยบวช คงบอกได้คำเดียวว่า เชยมาก”

โดยเฉพาะตอนนี้ กองทัพสไบแก้วแห่งเมืองช้างสาร จังหวัดสุรินทร์ ก็คึกคักครื้นเครง สร้างความตื่นตะลึงทั่วทั้งเมือง เมื่อเหล่าทหารหญิงจักรพรรดิแห่งความดี ขอสวมหัวใจโคตรเพชร ยกทัพเดินขบวนชวนบวช บุกทะลุทะลวงเข้าทุกตรอกซอกซอย ทุ่มเททำหน้าที่กันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง บุกทั้งภาคพื้นชุมชนควบคู่ไปกับหน่วยงานราชการต่างๆ โดยมี พระสมพงษ์ ยโสทโร นำทีมในการออกทำหน้าที่ชวนบวชไปตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วทั้งจังหวัดสุรินทร์

อีกทั้งเรื่องที่สร้างความอัศจรรย์ใจอย่างสุดๆ คือ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ เนื่องจากทันทีที่ ดร.ธนภัทร โสวภาค รองอธิการบดี ได้ทราบข่าวโครงการบวชอุบาสิกาแก้ว ท่านก็เกิดความคิดขึ้นมาทันที กล่าวคือ ทุกๆปีทางมหาวิทยาลัยจะมีการจัดรับน้องใหม่ เสียงบประมาณไปมหาศาล แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็แค่ความสนุกอย่างไม่มีสาระ ดังนั้น ในปีนี้ ท่านจึงปรับเปลี่ยนการรับน้องเป็นแบบคนรุ่นใหม่ (new generation) คือ รับน้องใหม่ด้วยการชวนน้องมาบวช เปลี่ยนจากร้องเล่นเต้นรำ มาเป็นสวดมนต์นั่งสมาธิ เปลี่ยนจากดื่มเหล้า มาดื่มน้ำปานะ เอาบุญใหญ่ก่อนเปิดเรียน ดร.ธนภัทรกล่าวว่า “โครงการดีๆแบบนี้ ผมสนับสนุนเต็มที่ครับ” พร้อมกับส่งนักศึกษาน้องใหม่ กว่า 800 คน เข้าอบรมอุบาสิกาแก้วรุ่นนี้ และไม่เพียงเท่านั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนกว่า 9 โรงเรียน ยังได้ส่งนักเรียนเข้ามาสมทบบวชในครั้งนี้อีกหลายร้อยคนด้วย

ดร.ธนภัทร โสวภาค รองอธิการบดี

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์

นอกจากนี้ ที่จังหวัดสุรินทร์ยังมีการจัดโครงการฟื้นฟูศีลธรรมในชุมชน โดยมีชุมชนเข้าร่วมกว่า 109 ชุมชน ซึ่งมีชาวบ้านร้อยกว่าคนมาปฏิบัติธรรม สวดมนต์นั่งสมาธิร่วมกันที่ศาลากลางหมู่บ้านของแต่ละหมู่บ้าน ดังนั้น พอมีโครงการบวช ก็สามารถกระจายข่าวชวนบวชได้ทันที จากฐานกิจกรรมชุมชนที่หนาแน่น ควบคู่กับความมีวิสัยทัศของผู้บริหารสถานศึกษา จึงทำให้ตอนนี้ จังหวัดสุรินทร์มียอดใบสมัครบวชทะลุเป้าไปแล้วกว่าหนึ่งพันคน ซึ่งการปิดรับสมัครบวชในครั้งนี้ สามารถยืนยันยอดคนบวชต้องถึงสองพันคนอย่างแน่นอน

ชาวบ้านร้อยกว่าคน มาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิร่วมกันเป็นประจำ

ไม่เพียงเท่านี้ เมืองช้างสารแห่งนี้ยังมียอดหญิงพลังช้างที่ทำหน้าที่ชวนบวช ชนิดเอาช้างมาฉุดก็หยุดไม่อยู่ อย่าง กัลฯปรวง บุญเทพ อายุ 49 ปี โดยทุกวัน กัลฯปรวงจะออกไปชวนบวชพร้อมทีมอุบาสิกาแก้วรุ่นพี่ ชวนกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เคยท้อ บางวันไม่มีรถ กัลฯปรวงก็ไม่สนใจ จูงรถจักรยานสีแดงคู่ใจ ถีบชวนบวชไปเรื่อยตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสองทุ่ม รวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร กลางแดดจ้า แต่หัวใจของกัลฯปรวงก็ยังคงแข็งแกร่ง...ไม่มีหยุดพักเลย บางวันจักรยานพัง แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เดินออกไปชวนบวชด้วยหัวใจที่มีแต่คำว่า “ต้องได้ ต้องได้ ต้องชวนคนบวชให้ได้ เราจะต้องฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้ได้” ตอนนี้กัลฯปรวงชวนบวชได้แล้วกว่า 50 คน และตั้งใจไว้ว่าจะชวนให้ได้ 100 คน

กัลฯปรวง บุญเทพ พร้อมจักรยานสีแดงคู่ใจ

“ชวนบวชถึงไหนถึงกัน”

ผู้นำบุญจังหวัดสุรินทร์ ก็ขอฝากบอกผู้นำบุญจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศว่า “ใกล้แล้วนะ ใกล้ปิดรับสมัครบวชอุบาสิกาแก้วกันแล้วนะ ใครก็ตามที่ยังไม่ได้ออกทำหน้าที่ ให้รีบออกไปทำกันได้แล้ว ขอเพียงเรามีหัวใจเป็นดวงเดียวกับคุณครูไม่ใหญ่ แล้วก้าวออกไปทำหน้าให้ได้ทุกวัน เริ่มต้นกันตั้งแต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป พระพุทธศาสนาจะฟื้นฟูได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกๆคน”