แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
ในช่วงที่โยมพ่อของลูกกำลังจะเสียชีวิต ในตอนนั้นท่านยังไม่มีสติรู้ตัว ดังนั้น เมื่อลมหายใจสุดท้ายของท่านได้หมดไป กายละเอียดของโยมพ่อของลูกจึงได้หลุดออกมายืนอยู่ข้างๆกายหยาบด้วยอาการที่มึนๆงงๆ และยังไม่รู้สึกตัวว่าตนเองได้ตายไปแล้ว เมื่อกายละเอียดของโยมพ่อของลูกได้หลุดออกมาจากกายหยาบแล้ว ความรู้สึกเจ็บปวดต่างๆอันเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บที่มารุมเร้าตัวท่านอยู่ก็ได้จางหายไป ซึ่งเป็นผลทำให้ท่านรู้สึกสบายตัวขึ้น แต่ถึงกระนั้น ท่านก็ยังไม่รู้สึกตัวว่าตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว
กายละเอียดของโยมพ่อของลูกได้หลุดออกมายืนอยู่ข้างๆกายหยาบ ด้วยอาการที่มึนๆงงๆ
จริงๆแล้วโยมพ่อของลูกยังไม่หมดอายุขัย แต่ที่ท่านต้องมาเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควรด้วยวัยเพียง 63 ปี ทั้งนี้ก็เป็นเพราะวิบากกรรมเก่าที่ท่านได้เคยทำผิดทำพลาดไว้ในอดีตชาติ ได้มาตัดรอนอายุขัยของท่าน ส่วนสาเหตุที่ทำให้วิบากกรรมเก่าในอดีตและวิบากกรรมใหม่ในภพชาติปัจจุบัน ยังไม่ดึงดูดให้โยมพ่อของลูกไปสู่อบาย ทั้งนี้ก็เป็นเพราะสาเหตุใหญ่ๆ 2 ประการ กล่าวคือ
ประการที่ 1. โยมพ่อของลูกยังไม่หมดอายุขัย
ประการที่ 2. บุญ (ได้แก่บุญที่ท่านได้เคยทำบุญตามประเพณี และบุญที่พระลูกชายของท่านได้บวชเข้ามาสร้างบารมีอยู่เขตใน รวมทั้งบุญที่พระลูกชายได้ทำให้ท่านในช่วงที่ตัวท่านยังมีชีวิตอยู่ เป็นต้น) กับบาป (ที่ท่านได้เคยดื่มเหล้า, เข้าบ่อนไก่ ในภพชาติปัจจุบัน) กำลังชิงช่วงและช่วงชิงกันอยู่
ด้วยสาเหตุทั้ง 2 ประการดังกล่าว จึงทำให้เมื่อโยมพ่อของลูกเสียชีวิตไปแล้ว ท่านจึงยังไม่ไปอบายในทันที
ในช่วงเวลานี้ บุญกับบาปของโยมพ่อของลูกกำลังชิงช่วงและช่วงชิงกันอยู่
ในช่วงแรกๆที่โยมพ่อของลูกเสียชีวิต กายละเอียดของท่านได้วนเวียนไปในสถานที่ต่างๆ ตามกิจวัตรกิจกรรมที่ท่านคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือสถานที่ที่ท่านชอบไป ซึ่งก็คือ บ่อนไก่ นั่นเอง ส่วนว่า...เหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร โยมพ่อของลูกจะรู้สึกตัวเมื่อไหร่ว่าตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว และท่านจะได้ไปอยู่ที่ไหน โปรดติดตามตอนต่อไป
ในช่วงแรกๆที่โยมพ่อของลูกเสียชีวิต กายละเอียดของท่านได้วนเวียน
ไปในสถานที่ที่ท่านชอบไป ซึ่งก็คือ บ่อนไก่ นั่นเอง