เสร็จสิ้นลงไปแล้วอย่างอบอุ่น สำหรับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งสำคัญ ท่ามกลางความปลื้มปีติของเหล่านักสร้างบารมีพันธุ์แท้ที่มาเอาบุญจนล้นห้องประชุม SPD 7 สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย เวลาแห่งประวัติศาสตร์เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว) เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี ภาพแห่งความร่วมมือกันอย่างสมานฉันท์ทางวิชาการของวัดพระธรรมกายกับองค์กรชั้นนำต่างๆก็ค่อยๆถูกนำมาฉายซ้ำผ่านวีดีทัศน์ ตอกย้ำมโนปณิธานแห่งการสร้างคนดีที่วัดพระธรรมกายไม่เคยหยุดเลยแม้แต่วันเดียว ก่อนที่ตัวแทนจากสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกทั้ง 3 สถาบันจะลุกขึ้นกล่าวแสดงความยินดี และร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับวัดพระธรรมกาย เพื่อค้นคว้าวิจัยคำสอนพุทธศาสนายุคดั้งเดิม ในหัวข้อ “พระพุทธศาสนาเถรวาท: ความต่อเนื่องและความหลากหลาย” ต่อหน้าสักขีพยานทั้งที่เกาะติดอยู่ในห้องประชุม และรับชมการถ่ายทอดสดผ่านดีเอ็มซี (DMC) ไปทั่วโลก
พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ (รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย) ตัวแทนวัดพระธรรมกาย
ลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการ ระหว่าววัดพระธรรมกายกับ 3 สถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก
จากซ้าย ศาสตราจารย์ไบรอัน บ๊อกกิ้ง (มหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก), ด๊อกเตอร์ จิลเลียน เอวิสัน (มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด), ศาสตราจารย์ ซิงซอง เหยา (มหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์คอลเลจ)
กัลฯบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ผู้แทนวัดพระธรรมกาย กล่าวต้อนรับ
ศาสตราจารย์ไบรอัน บ๊อกกิ้ง จากมหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก (University College Cork) ประเทศไอร์แลนด์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาอยู่ตรงนี้ เราเคยมีความเข้าใจพระพุทธศาสนาเถรวาทบนพื้นฐานความรู้ทางตะวันตก ซึ่งเป็นเพียงมุมมองแคบๆที่ได้จากตำรา จึงยากที่จะเข้าใจว่าการปฏิบัติสมาธิแบบเถรวาทจริงๆนั้นเป็นอย่างไร แต่ทุนที่วัดพระธรรมกายมอบให้ครั้งนี้จะทำให้เราได้มองย้อนกลับไปยังประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของเถรวาท ได้ศึกษาวิธีการปฏิบัติสมาธิ และสามารถพัฒนาความเข้าใจถึงประวัติการสอนสมาธิของฝ่ายเถรวาทได้กว้างขึ้น”
ศาสตราจารย์ไบรอัน บ๊อกกิ้ง จากมหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก
ด๊อกเตอร์ จิลเลียน เอวิสัน จากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด (University of Oxford) กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของหอสมุดโบเดลี่ยน (Bodleian Library) ดิฉันรู้สึกยินดี และขอขอบคุณมูลนิธิธรรมกายเป็นอย่างยิ่ง เพราะโครงการนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์อันมหาศาลต่อทั้งหอสมุด, นักวิชาการ และนักปฏิบัติชาวพุทธ หอสมุดของเราได้รวบรวมคัมภีร์และคำสอนต่างๆทางพระพุทธศาสนา มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2145 ถึงกระนั้นก็ดี มรดกธรรมอันล้ำค่าทางพระพุทธศาสนาเถรวาทเหล่านี้ กลับไม่ได้มีโอกาสเผยแผ่ไปสู่ผู้รู้, ผู้ปฏิบัติ มากเท่าที่ควร เนื่องจากไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่าย ต้องขอขอบคุณในความกรุณาของมูลนิธิธรรมกาย เพราะโครงการนี้จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ เราจะสามารถนัดพบปะผู้เชี่ยวชาญ ผู้มากไปด้วยประสบการณ์และความรู้ต่างๆ มาร่วมกันค้นคว้าวิจัยคำสอนดั้งเดิมเหล่านี้ได้”
ด๊อกเตอร์ จิลเลียน เอวิสัน จากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด
ศาสตราจารย์ ซิงซอง เหยา จากมหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์คอลเลจ (King's College London) กล่าวว่า “นี่คือการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ผมเห็นประโยชน์อย่างน้อยๆตอนนี้ก็ 3 ข้อแล้ว กล่าวคือ ประการแรก จะก่อให้เกิดการศึกษาพระพุทธศาสนาในเชิงวิชาการระดับโลกเลยทีเดียว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่โลกควรจะได้รู้จักพระพุทธศาสนา ได้เข้าใจในคำสอนแบบเถรวาท, ประการที่สอง จะเป็นการประชาสัมพันธ์การเรียนการสอนพระพุทธศาสนาให้เกิดขึ้นในหมู่นักเรียน นักศึกษาและคนทั่วไป และประการที่สาม จะคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ในเรื่องของศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการพูดคุยกันระหว่างพุทธ, คริสต์, ยิว และอิสลาม ซึ่งสำคัญมากต่อสันติภาพโลกในสภาวะปัจจุบัน”
ศาสตราจารย์ ซิงซอง เหยา จากมหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์คอลเลจ
ณ วันนี้ รอยปากกาเล็กๆจากคนเพียงไม่กี่คน กำลังจะนำทางไปสู่ร่องรอยอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ ประดุจเดินทางผ่านกาลเวลาเพื่อไปให้ถึงคำสอนอันแท้จริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นหนทางแห่งสันติสุขภายในที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพโลก
********************************
ข้อมูลเบื้องต้น 3 สถาบันชั้นนำของโลกที่ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการในครั้งนี้
มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford) เริ่มการเรียนการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ.1639 หรือเมื่อ 915 ปีที่แล้ว เป็นผู้นำทางการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาในตะวันตก จนสามารถจัดให้มีการสอนด้านภาษาบาลีและสันสกฤต นักวิชาการทั้งในยุโรปและเอเชียที่มีชื่อเสียงจำนวนมากได้ร่ำเรียนมาจากที่นี่ โดยมีหอสมุดโบเดลี่ยน (Bodleian Library) แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเป็นแหล่งรวบรวมคัมภีร์พระพุทธศาสนาที่สำคัญอย่างยิ่ง
มหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์คอลเลจ (King's College London) เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่า มีความโดดเด่นในหลายสาขา ทั้งด้านการแพทย์, วิทยาศาสตร์, ปรัชญา และมีประวัติอันยาวนานในด้านการค้นคว้าวิจัยด้านนานาศาสนา และในอดีตก็เคยมีการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาด้วยเช่นกัน แต่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาได้ปิดตัวลง เนื่องจากขาดผู้ชำนาญและผู้สนับสนุนการสอนพระพุทธศาสนา จนกระทั่งขณะนี้ เมื่อคณะทำงานวิจัยจาก 3 สถาบันได้รวมตัวกันเพื่อศึกษาวิจัยภายใต้โครงการนี้ ก็เท่ากับได้นำวิชาพระพุทธศาสนากลับคืนสู่การเรียนการสอนในสถาบันแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง
มหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก (University College Cork) ประเทศไอร์แลนด์ มีคณาจารย์คณะการศึกษาด้านศาสนาเป็นผู้นำในการแสวงหาความร่วมมือในระดับนานาชาติ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกา |
บทความที่เกี่ยวข้องกับบรรยากาศ พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการ ระหว่างวัดพระธรรมกาย
กับ 3 สถาบันชั้นนำของโลก