แม้ขณะนี้ ระดับน้ำที่โอบรอบอำเภอคลองหลวงจะกำลังไต่ระดับเพิ่มสูงขึ้นแบบวินาทีต่อวินาที แต่ก็ไม่อาจสั่นคลอนพลังใจของลูกพระธัมฯให้ถดถอยหรือหวั่นไหวได้เลย ยิ่งกระแสน้ำไหลบ่ามามากเท่าไหร่ บรรดาลูกพระธัมฯทั้งหลายต่างยิ่งพากันมุ่งตรงสู่วัดพระธรรมกาย อำเภอคลองหลวง มากขึ้นเท่านั้น ในวินาทีนี้ไม่มีใครยอมอยู่เฉยๆ ขนาดบางคนบ้านของตนถูกน้ำท่วมไปแล้ว ก็ยังอดรนทนไม่ไหว ยอมวางทุกสิ่ง ทิ้งบ้าน ทะยานเข้าวัด เพื่อมาช่วยกันปกป้องรักษาวัด และช่วยพี่น้องชาวคลองหลวงไม่ให้ถูกน้ำท่วม
ณ เวลานี้ ลูกพระธัมฯทั้งภาคนครหลวง 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, ภาคภูธรทั้งภาคเหนือ, ภาคใต้, ภาคอีสาน, ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก รวมแล้วหลายพันชีวิต ได้กระจายไปตามจุดต่างๆ ทั้งในวัดและนอกวัด ช่วยกันบรรจุและลำเลียงกระสอบทราย เพื่อนำไปเสริมแนวคันดินกั้นน้ำกันตลอดทั้งวันทั้งคืน แม้แดดจะแผดเผา หรือสายฝนจะกระหน่ำจนเปียกแฉะอย่างไรก็ไม่มีใครยอมถอย ยังคงร่วมแรงร่วมใจกันบรรจุกระสอบทราย จนภูเขาทรายหดหายไปในพริบตา ตัวอย่างเช่น จุดบรรจุกระสอบทรายหน้าโบสถ์วัดพระธรรมกาย ได้ทำสถิติการบรรจุกระสอบทรายได้อย่างรวดเร็ว กล่าวคือ สามารถบรรจุทรายปริมาณ 8 คันรถพ่วง 6 ล้อ ใส่กระสอบพร้อมใช้งาน ได้หมดเกลี้ยงภายในวันเดียวเท่านั้น
ลูกพระธัมฯ พันธุ์สู้ไม่ถอย ณ จุดบรรจุกระสอบทรายหน้าโบสถ์ วัดพระธรรมกาย
จุดบรรจุกระสอบทรายสะพานแสงตะวัน
“พวกเราจะสู้จนกว่าน้ำจะลด”
จุดบรรจุกระสอบทรายปทุมเจดีย์
จุดบรรจุกระสอบทรายอาคารแจ่มจันทร์
ตัวแทนลูกพระธัมฯท่านหนึ่งเล่าว่า “พี่มาช่วยบรรจุระสอบทรายได้ 4 วันแล้วค่ะ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ตีห้า พอตอนเก้าโมงเช้าก็ออกมาที่วัดอีก ได้นอนแค่วันละ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ แต่ไม่เหนื่อยเลย เกิดมาก็ไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ และเพื่อนๆลูกพระธัมฯที่มาช่วยกัน ก็มีทั้งคนในระดับเจ้าของกิจการ ระดับผู้จัดการบริษัทหลายๆบริษัท เช่น ผู้จัดการบริษัทขนมปังโกลด์เบรด ก็ยกทีมกันมาบรรจุกระสอบทรายตั้งสิบคนค่ะ สำนักพิมพ์เอ็มไอเอส (MIS) ก็พาพนักงานในบริษัทมาช่วยอีก 30 กว่าคน อีกทั้งบางท่านที่ปกติอยู่บ้านเป็นคุณนาย แทบไม่ต้องทำอะไรเองเลย แต่ก็ยอมทิ้งความสบาย มาจับพลั่ว ตักทราย และแบกถุงทรายด้วยตนเอง ซึ่งทรายแต่ละกระสอบที่ต้องแบกส่งต่อๆกัน หนักประมาณ 12-20 กิโลกรัมค่ะ พี่เห็นหลายท่านทำกันจนมือแตก เจ็บมือ เจ็บแขน ปวดหลังไปหมด แต่พอมองเห็นแนวกระสอบทรายที่พวกเราได้ช่วยกันทำ เรียงรายปกป้องวัด ปกป้องอำเภอคลองหลวง และพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ให้รอดพ้นจากภัยน้ำท่วม ทำให้พวกเรามีความสุขมากๆเลยค่ะ พี่อยากให้ลูกพระธัมฯทุกคนสู้ๆ ถ้าเราทำ เราก็จะชนะ ถึงเหนื่อยแค่ไหนเราก็ไม่รู้สึกว่าเราจะแพ้ค่ะ”
![พลังลูกพระธัมฯ กู้วิกฤตน้ำท่วมอำเภอคลองหลวง พลังลูกพระธัมฯ กู้วิกฤตน้ำท่วมอำเภอคลองหลวง](https://images.dmc.tv/www/images/ScoopUpdate/Dream08/D541018/N541024p6.jpg)
จุดบรรจุกระสอบทราย บริเวณวงเวียน ป้อม 6
ณ คลองระพีพัฒน์ “พวกเรายืนยันที่จะช่วยกันยันกระแสน้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง”
ในขณะนี้ พระธรรมทายาทในโครงการหนึ่งแสนรูปทั่วไทย รุ่นเข้าพรรษา จากศูนย์อบรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้มาประจำการอยู่ที่วัดพระธรรมกายแล้วเช่นกัน โดยหลังจากที่ได้เดินธุดงค์ธรรมชัย ไปพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่งสำเร็จลุล่วงด้วยดีแล้ว พระธรรมทายาทกว่า 40 รูป ต่างไม่ยอมหยุดพัก ขอออกเดินทางมาพิทักษ์รักษาวัด และกอบกู้วิกฤตน้ำท่วมที่อำเภอคลองหลวงในทันที โดยได้มาสมทบกับตัวแทนคณะสงฆ์จากอีกหลายๆจังหวัด และพระธรรมทายาทจากอีกหลายๆศูนย์อบรม เพื่อช่วยกอบกู้สถานการณ์น้ำให้ดีขึ้น
พระภิกษุ สามเณร ก็มาร่วมด้วช่วยกันอย่างสุดกำลัง
พระภิกษุ สามเณร พร้อมปกป้องทุกคนให้พ้นจากมวลน้ำจำนวนมหาศาล
ท่านพระครูประโชติ พรหมวรคุณ เจ้าคณะตำบลวังตะเคียน-ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า “พออาตมาทราบข่าว ก็ช่วยประชาสัมพันธ์ออกรายการวิทยุ FM. 103.75 MHz ในทันที แล้วยังโทรศัพท์ไปนิมนต์พระสงฆ์และญาติโยมที่รู้จักให้มาช่วยกันอีกด้วย พอมาถึงแล้วได้เห็นญาติโยมของวัดพระธรรมกายช่วยกันอย่างแข็งขัน รู้สึกปลื้มจริงๆ นี่แหละเขาถึงบอกว่า แม้กายจะเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นเทวดา อาตมาขอชื่นชมอนุโมทานาบุญกับทุกคนด้วย และขอฝากถ้อยคำไปถึงหลวงพ่อธัมมชโยว่า “หลวงพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย เดี๋ยวกระผมจะไปตามคนให้มาช่วยกันอีกเยอะๆครับ”
ครั้งนี้ ขอสู้เพื่อปกป้องพระศาสนา และพี่น้องประชาชน
พลังของกองทัพธรรม ไม่มีวันหยุดพัก
จนถึง ณ วันนี้ เป็นเวลาหลายคืนแล้ว ที่ทีมงานกองทัพธรรม ร่วมแรงร่วมใจกันบรรจุกระสอบทราย แบกกระสอบทราย จนถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง และโต้รุ่ง ซึ่งพระภิกษุ, สามเณร ทุกรูปต่างบอกว่า “งานนี้ขอลุยแหลก แล้วโลกจะได้รู้ว่า มวลน้ำมหาศาล จะต้องแพ้พลังน้ำใจคน”