ต้นกล้าแห่งธรรมงอกงาม ณ เมืองพร้าว

วัดแม่ปั๋ง อยู่ใกล้ๆ วัดดอยแม่ปั๋ง ของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ศูนย์อบรมพระธรรมทายาทหนึ่งแสนรูปเข้าพรรษาประจำ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ในอดีตกว่า 4 ปีที่ผ่านมา วัดแม่ปั๋งแห่งนี้ตกอยู่ภาวะใกล้ร้าง เนื่องจากพุทธบุตรที่ดูแลอยู่เดิมมรณภาพจากไป และชาวบ้านได้อาราธนาแบบขอฉันทานุมัดมือชก พุทธบุตรเพื่อนสหธรรมิกผู้ตั้งใจจะมาเยี่ยมไข้เพื่อนสหธรรมิกผู้จากไป ทำให้ทั้งวัดมีพระภิกษุอยู่เพียงรูปเดียว เนื่องจากท่านเป็นผู้สูงวัย จึงไม่สามารถพัฒนาวัดได้มากนัก วัดจึงทรุดโทรมไร้การพัฒนา และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านอย่างเต็มที่ ชาวบ้านจึงนิมนต์ท่านอยู่ประจำวัดไม่ต้องออกบิณฑบาตแล้วนำภัตตาหารมาถวายที่วัด ส่งผลให้ชาวบ้านแห่งนี้ไม่ได้ทำบุญใส่บาตรมานานกว่า 4 ปี

พุทธบริษัททั้งสี่ มาพร้อมใจกันจุดประทีปเวียนเทียน ถวายเป็นพุทธบูชาทุกวันพระ

กระทั่งต้นเดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2554 ที่ผ่านมา พระอาจารย์ กล้าธรรม โชติสิปฺโป หัวหน้าศูนย์อบรมพระธรรมทายาทอำเภอพร้าว ได้รับการแนะนำจากหลวงพ่อพระครูสังฆรักษ์ศตายุ ให้มาช่วยฟื้นฟูวัดแห่งนี้ พระอาจารย์พร้อมทั้งทีมงานจึงเดินทางมายังวัดแห่งนี้ เมื่อแรกมาถึงพบว่าวัดรกมาก ท่านจึงนำทีมงานพัฒนาให้กลับคืนสู่บุญสถานอันศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ชาวบ้านเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงได้มาช่วยพัฒนาวัด ซึ่งทำให้พบว่าวัดแห่งนี้ล้วนอุดมไปด้วยสัตว์นานาชนิด ทั้งมด ปลวก แมงมุม แมลงสาบ หนู และงู พระอาจารย์พร้อมทั้งชาวบ้าน จึงได้ช่วยกันทำบุญพิเศษปล่อยสรรพสัตว์ต่างๆ เหล่านี้ออกไปจากเสนาสนะของสงฆ์ เพื่อให้วัดแห่งนี้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง ท่านได้นำวิธีการตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ ได้เมตตาสั่งสอนมาใช้ โดยดำรงตนให้น่ากราบไหว้ พร้อมทั้งสั่งสอนชาวบ้าน จัดบุญพิธีเป็นประจำ และในทุกวันพระท่านจะนำสาธุชนบำเพ็ญทาน รักษาศีล สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และจุดประทีปเวียนเทียนรอบองค์พระเจดีย์ เป็นประจำทุกวันแม้ในวันที่ฝนตก

จากวันพระแรกที่มีสาธุชนมาบำเพ็ญบุญเพียง 4 คน เมื่อสาธุชนได้เห็นข้อวัตรปฏิบัติอันงดงามและสม่ำเสมอของพระอาจารย์ จึงชักชวนกันมาบำเพ็ญบุญจนล้นศาลาวัด ไม่เพียงเท่านั้นพระอาจารย์และทีมงานได้ชักชวนชายแท้แมนๆ ผู้มีบุญแห่งอำเภอพร้าว ให้มาร่วมบรรพชาอุปสมบทเข้าพรรษาหนึ่งแสนรูป ซึ่งมีผู้มีบุญมาร่วมโครงการถึง 42 รูป ทำให้วัดแม่ปั๋งแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีพุทธบุตรมากที่สุดของอำเภอพร้าว

จากเดิมวัดอยู่ในภาวะที่ทรุดโทรมไร้การพัฒนามานานพระอาจารย์และเหล่าพระธรรมทายาท ได้นำสาธุชนแห่งวัดแม่ปั๋งมาพัฒนาให้พระเจดีย์และรั้วของวัดให้กลับมาสว่างไสว เป่งลึ้งได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งนำความอัศจรรย์มาแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อให้วัดกลับมารุ่งเรืองเต็มที่ พระอาจารย์และทีมงานได้เดินทางไปเทศน์สอนแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ปั๋งในทุกสัปดาห์ ทำให้เด็กนักเรียน 80 กว่าคน อาสามาพัฒนาวัดในทุกวันศุกร์ ในที่สุดเมื่อออกพรรษา เยาวชนเหล่านั้นได้ชักชวนสาธุชนมาร่วมทอดกฐินได้ปัจจัยเข้าพัฒนาวัดแห่งนี้ได้ถึง 60,000 บาท

สาธุชนชุดประวัติศาสตร์ 4 คนแรกที่มาวัด จากวันพระแรกที่พระอาจารย์มาพัฒนาวัดแห่งนี้

ตลอดระยะเวลา กว่า 10 เดือนที่ผ่านมา วัดแม่ปั๋งแห่งนี้ได้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ได้ด้วยเพราะความร่วมแรงร่วมใจกันของพุทธบริษัททั้งสี่ พระอาจารย์ท่านกล่าวว่า แรงบันดาลใจที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ท่านสามารถมาฟื้นฟูวัดใกล้ร้างแห่งนี้ให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองได้อีกครั้ง เพราะได้รับกำลังใจอันสูงสุด เมื่อได้เห็นรอยยิ้มและได้ฟังธรรมจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ และพระอาจารย์ได้ฝากข้อความถึงพระธรรมทายาทและชายแมนๆผู้มีบุญว่า ขณะนี้วัดร้างและวัดใกล้ร้างมีอยู่มากมายทั่วแผ่นดินไทย ขอเชิญทุกท่านมาเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่จะช่วยกันกอบกู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง มาบวชกันเถอะครับ