ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 9 พฤษภาคม 2556
กรณีศึกษา คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 13
 
  
 
 
คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 13
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ที่ออกอากาศทางช่อง DMC
 
 ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
        
        เมื่อพวกโจรป่าได้เดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็ได้มานั่งล้อมวงประชุมกัน เพื่อทำการแบ่งทรัพย์สมบัติที่ได้มากันตามปรกติในสไตล์โจรๆ แต่เนื่องจาก ตั้งแต่ที่ตัวเธอหรือนายทหารราชองค์รักษ์หนุ่มรูปหล่อในหลายๆ พุทธันดรก่อนๆ นู้น ได้ส่งชาวเมืองจำแลงหรือลูกน้องนายทหารของตัวเธอในภพชาตินั้น ซึ่งในตอนนี้ได้แอบแฝงเข้าไปอยู่ร่วมในกลุ่มโจรป่า เข้าไปยั่วยุและทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจกันในกลุ่มโจร พวกโจรก็เกิดความระหองระแหง และมีการแบ่งกันเป็นก๊กเป็นเหล่า อีกทั้งแต่ละคนก็มีแต่ความโลภ อยากที่จะได้สมบัติในส่วนของตัวเอง ไม่เพียงแค่นั้น ในระยะหลังๆ ที่มีการแบ่งสมบัติกัน พวกโจรต่างก็เกิดการเขม่นกัน ในเรื่องของการแอบงุบงิบ หรือฮุบสมบัติใส่กระเป๋าตัวเองตลอดเวลา
 
พวกโจรป่าได้มานั่งล้อมวงประชุมกันเพื่อทำการแบ่งทรัพย์สมบัติ
พวกโจรป่าได้มานั่งล้อมวงประชุมกันเพื่อทำการแบ่งทรัพย์สมบัติ
 
 
        และจากจุดอ่อนของพวกโจรดังที่ได้กล่าวไปแล้วนี่เอง จึงทำให้ทันทีที่ชาวเมืองจำแลงหรือนายทหารลูกน้องของตัวลูก ที่ตอนนี้ปลอมตัวมาเป็นโจรป่า ได้จังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ตัวเขาจึงได้แอบรำพึงกับเพื่อนโจรที่มีนิสัยชอบเอะอะโวยวาย ในทำนองที่ว่า มีคนในกลุ่มเราบางคนแอบอุ๊บอิ๊บขโมยถุงทองคำไป โดยไม่ได้เอาออกมาแบ่งกันในที่ประชุม
 
นายทหารลูกน้องของตัวลูกได้แอบรำพึงกับเพื่อนโจรที่มีนิสัยชอบเอะอะโวยวาย
นายทหารลูกน้องของตัวลูกได้แอบรำพึงกับเพื่อนโจรที่มีนิสัยชอบเอะอะโวยวาย
 
        ทันทีที่เพื่อนโจรที่มีนิสัยชอบเอะอะโวยวาย ได้ยินชาวเมืองจำแลงหรือนายทหารที่ตอนนี้ปลอมตัวมาเป็นโจรป่า พูดกระซิบกระซาบเช่นนั้นแล้ว ตัวเขาก็เกิดความรู้สึกโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก แล้วเพื่อนโจรที่มีนิสัยชอบเอะอะโวยวายคนนั้น ก็ไม่รอช้าได้ออกหน้าประกาศกร้าว เพื่อหาตัวโจรที่แอบอุ๊บอิ๊บขโมยถุงทองเอาไว้คนเดียวในทันที
 
        และเมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงจุดนี้ ชาวเมืองจำแลงหรือนายทหาร ที่ตอนนี้ปลอมตัวมาเป็นโจรป่า ก็ยิ่งผสมโรงด้วยการขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ ออกมา เพื่อเป็นการช่วยสาดน้ำมันเข้ากองไฟ ให้เรื่องดังกล่าวลุกลามใหญ่โตมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก แล้วในที่สุดกลุ่มโจรที่ต่างคนต่างก็มีปัญหากันอยู่แล้ว ก็เริ่มเกิดการโต้เถียง, ด่าทอ จนถึงขั้นลุกขึ้นมาลงไม้ลงมือชกต่อย และหยิบอาวุธขึ้นมาทำร้ายกันแบบที่ไม่มีใครฟังใครเลยทีเดียว
 
ในที่สุดกลุ่มโจรก็หยิบอาวุธขึ้นมาทำร้ายกันแบบไม่มีใครฟังใคร
ในที่สุดกลุ่มโจรก็หยิบอาวุธขึ้นมาทำร้ายกันแบบไม่มีใครฟังใคร
 
        เมื่อการต่อสู้ระหว่างพวกโจรกันเอง เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น แล้วก็มากขึ้น ชาวเมืองจำแลงหรือนายทหารที่ตอนนี้ปลอมตัวมาเป็นโจรป่า ก็รีบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ พร้อมกับส่งสัญญาณให้กับตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น รับทราบในทันที
 
นายทหารหนุ่มได้สั่งการให้นายทหารชุดที่ซุ่มปิดล้อมหมู่บ้านพวกโจร
นายทหารหนุ่มได้สั่งการให้นายทหารชุดที่ซุ่มปิดล้อมหมู่บ้านพวกโจร
 
        ทันทีที่ตัวเธอได้เห็นสัญญาณที่ส่งมาเช่นนั้น ตัวเธอจึงไม่รอช้า ได้สั่งการให้นายทหารชุดที่ซุ่มปิดล้อมหมู่บ้านพวกโจรทำการจุดคบเพลิง พร้อมกับยิงธนูไฟเข้าไปโจมตีและเผาที่พักของพวกโจร
 
        จากนั้นตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ก็ได้นำกองกำลังทหารที่มีฝีมือระดับเทพเรียกป๋ากลุ่มใหญ่ บุกเข้าไปจัดการและจับกุมตัวพวกโจรป่าในทันที แล้วในที่สุด การซุ่มโจมตีพวกโจรป่าด้วยการใช้แผนทำลายความสามัคคีในครั้งนี้ ก็ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ด้วยการใช้ยุทธวิธีที่เรียกว่า ยุให้แตกแล้วก็ทำการเชือดนิ่มๆ
 
ในที่สุดก็สามารถรวบตัวพวกโจรป่ามาได้ทั้งหมด
ในที่สุดก็สามารถรวบตัวพวกโจรป่ามาได้ทั้งหมด
 
        โดยที่หัวหน้าโจรยังไม่ทันรู้ตัวเลย โดยตัวเธอและทีมงานทุกคน สามารถรวบตัวพวกโจรป่ามาได้ทั้งหมด แบบยกรังอย่างถอนรากถอนโคนเลยนั่นเอง ซึ่งการปราบปรามพวกโจรป่าในครั้งนี้ ก็ได้นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่พวกชาวบ้าน ที่อยู่บริเวณตะเข็บชายแดนของแคว้น
 
        เมื่อตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้นำข่าวความสำเร็จในการปราบปรามพวกโจรป่า ซึ่งเป็นข่าวที่น่ายินดีนี้ ไปรายงานให้ท่านเจ้าเมืองได้รับทราบแล้ว ท่านเจ้าเมืองก็รู้สึกปลื้มปีติดีใจเป็นอย่างมาก แล้วท่านเจ้าเมืองผู้ใจปั้ม ก็ได้สั่งการให้จัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จครั้งนี้อย่างใหญ่โตเลยทีเดียว
 
ท่านเจ้าเมืองรู้สึกปลื้มปีติดีใจเป็นอย่างมาก
ท่านเจ้าเมืองรู้สึกปลื้มปีติดีใจเป็นอย่างมาก
 
        ไม่เพียงแค่นั้น ด้วยความดีใจอย่างสุดๆ ของท่านเจ้าเมืองนี่เอง จึงทำให้ตัวท่านถึงกับเอ่ยปากบอกกับนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ในทำนองที่ว่า ถ้าหากตัวเขามีความปรารถนาหรือประสงค์สิ่งใดในเมืองแห่งนี้ ก็ขอให้ตัวเธอได้เอ่ยปากบอกถึงความปรารถนานั้นมาได้เลย
 
        ทันทีที่ตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้ยินท่านเจ้าเมืองกล่าวเช่นนั้น ตัวเธอก็ได้หวนย้อนกลับมาคิดถึงความปรารถนา ที่ยังคงค้างคาอยู่ภายในหัวใจของเธอ แล้วในที่สุด ตัวเธอก็ไม่รอช้าได้เอ่ยปากขอกับท่านเจ้าเมือง ถึงสิ่งที่ตัวเธอปรารถนาและต้องการในทันที
 
นายทหารหนุ่มจึงเอ่ยปากขอลูกสาวของท่านเจ้าเมืองมาเป็นคู่ครอง
นายทหารหนุ่มจึงเอ่ยปากขอลูกสาวของท่านเจ้าเมืองมาเป็นคู่ครอง
 
        ซึ่งสิ่งที่ตัวเธอต้องการนั้นก็คือ ตัวเธออยากจะได้ลูกสาวแสนสวยของท่านเจ้าเมืองมาเป็นคู่ครองนั่นเอง หรือพูดง่ายๆว่า ทอง ถ้าจะให้มีค่าและคุณประโยชน์ได้ มันต้องเอามาหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อจะดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน
 
        ทันทีที่ท่านเจ้าเมืองได้ยินคำตอบจากตัวเธอ หรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้นเช่นนี้ ตัวท่านก็ถึงกับตกตะลึงและอึ้งไปเป็นอย่างมาก ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ ตัวท่านไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า นายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น จะอาจหาญกล้ามาขอลูกสาวแสนสวยของท่าน ผู้เป็นเสมือนแก้วตาดวงใจและทุกสิ่งทุกอย่างของท่าน เป็นรางวัลในการปราบปรามพวกโจรป่าเช่นนี้
 
ท่านเจ้าเมืองถึงกับตกตะลึงและอึ้งไปเป็นอย่างมาก
ท่านเจ้าเมืองถึงกับตกตะลึงและอึ้งไปเป็นอย่างมาก
 
        และเมื่อท่านเจ้าเมืองยังรู้สึกไม่พร้อม ที่จะยกลูกสาวแสนสวยของตัวท่านให้กับนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ตัวท่านจึงได้ทำการต่อรองกับตัวเธอในทำนองที่ว่า การที่ตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้มาขอลูกสาวสุดรักกับตัวท่านอย่างกะทันหันแบบนี้ ตัวท่านก็คงจะยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะเรื่องของการแต่งงานนั้น มันเป็นเรื่องของหัวใจ ที่จะต้องยินยอมและพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย จะให้ไปบังคับกันนั้นมันก็กระไรอยู่ แต่ถ้าหากนายทหารหนุ่มรูปหล่อ จะขอเปลี่ยนรางวัลเป็นอย่างอื่น เช่น บ้านช่อง ที่ดิน หรือแก้วแหวนเงินทอง หรือของมีค่า เป็นต้น ตัวท่านก็สามารถที่จะจัดหาเป็นรางวัลให้แก่นายทหารหนุ่ม ณ ตอนนี้ได้เลย
 
        เมื่อตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้ยินคำตอบจากท่านเจ้าเมือง ที่กล่าวแบบแบ่งรับแบ่งสู้เช่นนั้นแล้ว แม้ว่าตัวเธอในภพชาตินั้น จะเข้าอกเข้าใจในความรู้สึกของท่านเจ้าเมืองเป็นอย่างดีก็ตาม แต่ถึงกระนั้น ตัวเธอก็ยังคงยืนยันและยืนกรานกับท่านเจ้าเมืองว่า “ในชีวิตของเธอ ก็มีแต่เพียงลูกสาวของท่านเจ้าเมืองเท่านั้น ที่ตัวเธอรักและปรารถนา ซึ่งถ้าหากท่านเจ้าเมืองยอมยกลูกสาวแสนสวยของท่านให้กับตัวเธอ ตัวเธอก็จะรัก, ดูแลและมอบความจริงใจให้กับลูกสาวของท่านเจ้าเมืองแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป ชีวิตของเธอจะขาดลูกสาวของท่านเจ้าเมืองไปไม่ได้ เพราะหล่อนคือสุดหัวใจของตัวเธอ
 
นายทหารหนุ่มยังคงยืนกรานกับท่านเจ้าเมืองว่าจะรักและดูแลเธอตลอดไป
นายทหารหนุ่มยังคงยืนกรานกับท่านเจ้าเมืองว่าจะรักและดูแลเธอตลอดไป
 
        ทันทีที่ท่านเจ้าเมืองได้รับคำยืนยันและยืนกรานจากตัวเธอ หรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น อย่างนี้ แบบนี้ ตัวท่านก็เกิดความรู้สึกอึดอัดใจ และไม่รู้ว่าจะปฏิเสธหรือขอคืนคำที่ตัวท่านได้กล่าวออกไปแล้วอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านเจ้าเมืองจึงได้แต่ขอเวลาผัดผ่อนในเรื่องดังกล่าวนี้กับตัวเธอ หรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้นไปก่อน ซึ่งตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ก็ยินยอมน้อมรับที่จะรอรับฟังคำตอบจากท่านเจ้าเมือง
 
ท่านเจ้าเมืองรู้สึกอึดอัดใจและไม่รู้ว่าจะขอคืนคำที่ตัวท่านได้กล่าวออกไปอย่างไร
ท่านเจ้าเมืองรู้สึกอึดอัดใจและไม่รู้ว่าจะขอคืนคำที่ตัวท่านได้กล่าวออกไปอย่างไร
 
        แต่ในระหว่างที่ตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น กำลังจะเดินทางกลับไปยังที่พัก ซึ่งตั้งอยู่ภายในหัวเมืองดังกล่าวอยู่นั้น ตัวเธอก็ได้ครุ่นคิดและรู้สึกเป็นกังวลอยู่ลึกๆ ภายในใจว่า “การที่ท่านเจ้าเมืองจะยกลูกสาวสุดที่รักของท่าน ให้กับตัวเธอนั้น คงจะเป็นไปได้ยากหรือไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างแน่นอน”
 
นายทหารหนุ่มคิดหาวิธีการที่จะครอบครองลูกสาวท่านเจ้าเมืองแบบมัดมือชก
นายทหารหนุ่มคิดหาวิธีการที่จะครอบครองลูกสาวท่านเจ้าเมืองแบบมัดมือชก
 
        และเมื่อตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น คิดไม่ตกกับเรื่องอนาคตของความรักเช่นนี้ ในที่สุดตัวเธอจึงถูกอกุศลเข้าสิงจิตให้คิดวางแผน และหาวิธีการที่จะครอบครองลูกสาวของท่านเจ้าเมืองแบบมัดมือชกเลยนั่นเอง และแล้ว ตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ก็สามารถคิดแผนการที่จะครอบครองนางในฝันได้สำเร็จ ถึงแม้วิธีนี้มันจะเสี่ยงเพราะเล่นกับของสูงก็ตาม
 
        ส่วนว่า แผนการดังกล่าวจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร และจะสำเร็จดังที่ตัวเธอคาดการณ์วางแผนเอาไว้หรือไม่ อย่างไรนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในวันถัดไป  
 
 
รับชมวิดีโอ
 
[[videodmc==45059]]
 
 
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

     บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

     "วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20130509-คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา-ตอนที่-13_LEFT.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 20:26
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv