ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 13 พฤษภาคม 2556
กรณีศึกษา คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 16
 
  
 
 
คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 16
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ที่ออกอากาศทางช่อง DMC
 
 ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
        สำหรับภารกิจสำคัญข้อที่สองนั้น เนื่องจากพระราชา ผู้ปกครองแคว้นที่ตัวเธอในภพชาตินั้นอาศัยอยู่ ทรงมีพระราชหฤทัยที่ยิ่งใหญ่คือ พระองค์ทรงมีความปรารถนาอยากที่จะทำให้โลกในยุคนั้น เต็มไปด้วยคนดีมีศีลธรรม โดยปราศจากคนภัยคนพาลและโจรผู้ร้ายทั้งหลาย เป็นต้น เพื่อที่ทุกคนในโลกจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก
 
พระราชาปรารถนาจะให้โลกในยุคนั้นเต็มไปด้วยคนดีมีศีลธรรม
พระราชาปรารถนาจะให้โลกในยุคนั้นเต็มไปด้วยคนดีมีศีลธรรม
 
        ซึ่งโลกในยุคนั้น ทั้งขันธโลก, อากาศโลก, สัตว์โลก หรือทั้งคน, สัตว์, ดินอากาศฟ้า, และสภาพแวดล้อมทุกอย่าง จะดีกว่าโลกในยุคปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังดีไม่เท่ากับโลกในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่น คนในยุคนั้น จะมีอายุขัยและความแข็งแรงที่มากกว่าคนในยุคปัจจุบันนี้ แต่ก็ไม่ยืนยาวและแข็งแรงเท่ากับคนในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ฯ ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ คนในยุคนั้นจะมีศีลธรรมมากกว่าคนในยุคปัจจุบันนี้ แต่อย่างไรก็ตามโลกในยุคนั้น ก็ยังมีคนภัยคนพาลและมีโจรผู้ร้ายอยู่ เพียงแต่พวกคนภัยคนพาลและโจรผู้ร้ายเหล่านั้น จะไม่โหดร้ายใจจืดใจดำ และมีจำนวนที่เยอะแยะมากมายเหมือนอย่างโลกในยุคปัจจุบันนี้ เป็นต้น
 
        และด้วยความที่พระราชาผู้ปกครองแคว้น ที่ตัวเธอในภพชาตินั้นอาศัยอยู่ ทรงมีความปรารถนาอยากที่จะสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้นี่เอง จึงทำให้พระองค์ผู้ทรงเป็นพุทธมามกะ ทรงตั้งพระทัยอย่างแรงกล้า ที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้หลักธรรมคำสอนที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา แผ่ขยายไปทั่วทั้งโลกในยุคนั้น เพื่อที่มวลมนุษยชาติทุกๆ คน จะได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เป็นเหตุเป็นผล และสามารถนำไปสู่การปฏิบัติใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะเป็นผลทำให้มวลมนุษยชาติทั้งหลาย หลุดพ้นจากความทุกข์และพบสุขได้อย่างแท้จริง
 
พระราชาทรงสนับสนุนหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาให้แผ่ขยายไปทั่วโลก
พระราชาทรงสนับสนุนหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาให้แผ่ขยายไปทั่วโลก
 
        แต่ทว่า เนื่องจากในยุคสมัยนั้น เป็นยุคที่พระพุทธศาสนาเริ่มอยู่ในช่วงที่เรียวลงไปมากแล้ว ดังนั้นหลักธรรมคำสอนดั้งเดิม ที่ถูกบันทึกและจารึกอยู่ในคัมภีร์โบราณต่างๆ จึงได้กระจัดกระจายและสูญหายไปตามกาลเวลา และด้วยเหตุดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้พระราชา ผู้มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลแบบที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ทรงจัดตั้งหน่วยฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษ หรือหน่วยสืบราชการลับขั้นเทพนี้ขึ้นมา เพื่อให้ไปสืบหาศาสนบุคคล ที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ และมีคุณธรรมคุณวิเศษในยุคนั้น พร้อมกับไปทำการรวบรวมหลักธรรมคำสอนและหลักฐานต่างๆ ทางพระพุทธศาสนาที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกในยุคนั้น ให้กลับมารวมกันใหม่อีกครั้ง เพื่อที่หลักฐานและหลักธรรมคำสอนดั้งเดิมต่างๆ เหล่านั้น จะได้เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับโลกในยุคนั้นนั่นเอง
 
หลักธรรมคำสอนดั้งเดิม ได้กระจัดกระจายและสูญหายไปตามกาลเวลา
หลักธรรมคำสอนดั้งเดิม ได้กระจัดกระจายและสูญหายไปตามกาลเวลา
 
        สำหรับภารกิจสำคัญข้อที่สามนั้น ด้วยความที่พระราชาผู้ปกครองแคว้นที่ตัวเธอในภพชาตินั้นอาศัยอยู่ ทรงมีมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ อยากที่จะให้สังคมโลกในยุคนั้น ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ผู้คนมีรูปร่างหน้าตา และภาษาที่คล้ายคลึงกันทั่วทั้งโลก อยู่ร่วมกันอย่างผาสุก ด้วยความสมัครสมานสามัคคี และมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยอาศัยหลักการให้และแบ่งปัน มากกว่าที่จะสู้รบแย่งชิงกัน เมื่อนั้นสันติภาพจะบังเกิดขึ้นแก่โลกใบนี้
 
พระราชาทรงจัดตั้งหน่วยสืบราชการลับเพื่อทำการรวบรวมข้อมูลหลักๆ ไว้
พระราชาทรงจัดตั้งหน่วยสืบราชการลับเพื่อทำการรวบรวมข้อมูลหลักๆ ไว้
 
        ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้พระองค์ผู้มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ทรงจัดตั้งหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษ หรือหน่วยสืบราชการลับขั้นเทพนี้ขึ้นมา เพื่อให้ไปทำการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานหลักๆ ของแต่ละแคว้นบนโลกในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ศาสนาและความเชื่อต่างๆ ของประชาชนในแต่ละแคว้น เป็นต้น มาเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลสำคัญ ที่จะใช้ในการเชื่อมและพัฒนาสังคมของโลกในยุคนั้นต่อไป
 
        เรียกได้ว่านโยบายหลักๆ ทั้ง 3 ประการของพระราชาพระองค์นี้ ล้วนเกิดจากวิสัยทัศน์และความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ที่พระองค์ทรงอยากที่จะเห็นมวลมนุษยชาติบนโลกในยุคนั้น มีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกบนพื้นฐานของศีลธรรมอันดีงามอย่างแท้จริง ทั้งนี้การกระทำของพระองค์ เพื่อมวลชนโดยแท้จริง
 
พระราชาทรงคัดเลือกทหารที่จะอยู่ในหน่วยเฉพาะกิจพิเศษนี้ด้วยตัวของพระองค์เอง
พระราชาทรงคัดเลือกทหารที่จะอยู่ในหน่วยเฉพาะกิจพิเศษนี้ด้วยตัวของพระองค์เอง
 
        และด้วยภารกิจที่สำคัญขนาดนี้นี่เอง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พระราชาจะต้องทรงคัดเลือก และคัดสรรนายทหารที่จะมาประจำการอยู่ใน “หน่วยฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษหน่วยนี้” ด้วยตัวของพระองค์เอง ซึ่งนายทหารแต่ละคนที่ผ่านการทดสอบและเลือกเฟ้นจากพระองค์นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นนายทหารที่มีความรู้ความสามารถ, ช่างสังเกต, ซื่อสัตย์, อดทน, และมีไหวพริบปฏิภาณที่เป็นเลิศ อีกทั้งยังมีความจงรักภักดีต่อพระองค์เป็นอย่างมาก และโดยส่วนใหญ่แล้ว นายทหารเหล่านี้ก็จะเป็นผู้ที่มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับพระองค์มาตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ และพวกเขาก็ยังเป็นเด็กแทบทั้งสิ้น หรือพูดง่ายๆ ว่า ทั้งพระราชาและบรรดานายทหารในหน่วยนี้ ก็จะมีอายุที่ไล่เลี่ยกันนั่นเอง
 
        เมื่อพระราชาทรงได้นายทหารคู่ใจมาบรรจุอยู่ใน “ทีมหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษ” ของพระองค์แล้ว พระองค์ก็จะทรงมอบหมายภารกิจสำคัญดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ให้กับนายทหารแต่ละคน โดยที่นายทหารแต่ละคนก็จะได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางคนก็ได้รับหน้าที่ให้ไปค้นหาเกี่ยวกับเรื่องยาสมุนไพร หรือบางคนก็ได้รับหน้าที่ให้ไปค้นหาเกี่ยวกับเรื่องหลักฐาน และคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น
 
พระองค์ทรงมอบหมายภารกิจสำคัญต่างๆ ให้กับนายทหารแต่ละคน
พระองค์ทรงมอบหมายภารกิจสำคัญต่างๆ ให้กับนายทหารแต่ละคน
 
        ภายหลังจากที่ทีมนายทหารหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษชุดนี้ ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญมาจากพระราชาแล้ว พวกเขาก็จะต้องทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลขั้นพื้นฐานต่างๆ ของแคว้นนั้นๆ ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง สังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งความเชื่อของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแคว้นนั้นๆ เป็นต้น
 
นายทหารหน่วยเฉพาะกิจพิเศษ ศึกษาค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ของแคว้นนั้นๆ ก่อนเดินทาง
นายทหารหน่วยเฉพาะกิจพิเศษ ศึกษาค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ของแคว้นนั้นๆ ก่อนเดินทาง
 
        และเมื่อถึงช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม พระราชาก็จะทรงรับสั่งให้ทีมนายทหารหน่วยฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษชุดนี้ แยกย้ายกันออกเดินทางไปทำภารกิจสำคัญ ที่แต่ละคนได้รับมอบหมายจากพระองค์ตามแคว้นต่างๆ ทั่วโลก งานนี้ห้ามแพร่งพราย เป็นงานลับเฉพาะสำหรับนายทหารหน่วย ฉ.ก.ที่รู้ใจพระราชาเท่านั้น

        ภายหลังจากที่ทีมนายทหารหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษชุดนี้ เดินทางไปถึงแคว้นต่างๆ ทั่วโลกแล้ว ด้วยความที่โลกในยุคนั้น เป็นยุคสมัยที่ผู้คนมีรูปร่างหน้าตา และภาษาที่คล้ายคลึงกันทั่วทั้งโลก กอปรกับบรรดานายทหารหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจชุดพิเศษแต่ละคน ก็ได้เตรียมตัวศึกษาข้อมูลพื้นฐานของแคว้นต่างๆ ที่เป็นแคว้นเป้าหมายเอาไว้เป็นอย่างดี
 
ทหารหน่วยเฉพาะกิจพิเศษได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ร่วมกับบุคคลที่มีอำนาจอย่างแนบเนียน
ทหารหน่วยเฉพาะกิจพิเศษได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ร่วมกับบุคคลที่มีอำนาจอย่างแนบเนียน
 
        ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้นายทหารแต่ละคน สามารถที่จะแทรกซึมหรือแฝงตัวเข้าไปอยู่ร่วมกับบุคคลที่มีอำนาจ หรือมีชื่อเสียงโด่งดังในแต่ละแคว้น ไม่ว่าจะเป็นพระราชา หรือเหล่าเสนาอำมาตย์ในพระราชสำนัก รวมไปถึงบรรดาพ่อค้า นายแพทย์ หรือช่างฝีมือที่มีชื่อเสียง เป็นต้น ได้อย่างแนบเนียน ราวกับว่านายทหารหน่วย ฉก.เฉพาะกิจพิเศษเหล่านั้น เป็นคนในท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในแคว้นเหล่านั้นมานานแล้วนั่นเอง
 
        และเมื่อทีมนายทหารหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษชุดนี้ สามารถแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มของบุคคลที่มีอำนาจหรือมีชื่อเสียงโด่งดังในแต่ละแคว้นได้แล้ว พวกเขาก็จะพยายามทำการสืบหาและรวบรวมข้อมูลสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจพิเศษของพระราชามาให้ได้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
 
ทีมเฉพาะกิจจะรวบรวมข้อมูลสำคัญแล้วส่งกลับมาทูลรายงานพระราชาเป็นระยะๆ
ทีมเฉพาะกิจจะรวบรวมข้อมูลสำคัญแล้วส่งกลับมาทูลรายงานพระราชาเป็นระยะๆ
 
        จากนั้นพวกเขาก็จะส่งข้อมูลสำคัญเหล่านี้ กลับมาทูลถวายรายงานให้พระราชาทรงทราบเป็นระยะๆ โดยผ่านทางนายทหารคนสนิท ที่เป็นผู้ประสานงานหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษของพระองค์ ซึ่งไม่ใช่ตัวเธอ หรือนายทหารราชองครักษ์หนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น
 
        สำหรับวิธีการที่ทีมหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษชุดนี้ ใช้ส่งข้อมูลสำคัญกลับมาทูลถวายรายงานให้พระราชาทรงทราบนั้น ก็จะมีรูปแบบที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น บางคนก็ใช้นกส่งสารในการสื่อสาร, บางคนก็จ้างม้าเร็วส่งข้อมูลข้ามแคว้น ซึ่งสัตว์เหล่านี้จะมีความแข็งแรงมากกว่าสัตว์ในยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก หรือบางคนก็จ้างให้ขบวนคาราวานไปส่งสิ่งของข้ามแคว้น แล้วเขาก็แอบซ่อนจดหมายไว้ในสิ่งของที่อยู่ในขบวนคาราวานเหล่านั้น เป็นต้น นอกจากนั้น ข้อมูลสำคัญต่างๆ ภายในจดหมายแต่ละฉบับ ยังถูกจารึกเป็นรหัสที่สลับซับซ้อน ด้วยวิธีการเฉพาะที่พิเศษกว่าการเขียนจดหมายทั่วๆ ไปอีกด้วย
 
การส่งข้อมูลสำคัญกลับมาทูลรายงานให้พระราชาทรงทราบของทีมหน่วยเฉพาะกิจ
การส่งข้อมูลสำคัญกลับมาทูลรายงานให้พระราชาทรงทราบของทีมหน่วยเฉพาะกิจ
 
        ยกตัวอย่างเช่น จดหมายบางฉบับก็จะต้องนำไปแช่ในน้ำก่อน จึงจะเห็นตัวอักษรลอยเด่นปรากฏขึ้นมา, หรือจดหมายบางฉบับ ผู้ถอดรหัสจะต้องนำจดหมายไปส่องดูกับเปลวไฟ จึงจะสามารถอ่านรหัสภายในจดหมายฉบับนั้นได้, ส่วนจดหมายบางฉบับ กว่าผู้ถอดรหัสจะสามารถอ่าน หรือรู้ถึงข้อความที่ซ้อนอยู่ภายในจดหมายฉบับนั้น ผู้ถอดรหัสก็จะต้องนำเอาฝุ่นละเอียดมาโรยลงบนกระดาษจดหมายเสียก่อน จากนั้นก็ลูบออกจึงจะทำให้ตัวอักษรที่ซ้อนอยู่บนกระดาษปรากฏชัดเกิดขึ้นมา เป็นต้น
 
จดหมายบางฉบับก็จะต้องนำไปแช่ในน้ำก่อนจึงจะเห็นตัวอักษร
จดหมายบางฉบับก็จะต้องนำไปแช่ในน้ำก่อนจึงจะเห็นตัวอักษร
 
        ซึ่งรหัสลับและระบบวิธีการที่สลับซับซ้อนเหล่านี้ ล้วนเกิดขึ้นมาจากพระอัจฉริยภาพของพระราชา ผู้มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลแบบที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครนั่นเอง ทั้งนี้เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล แม้คนภายนอกอ่านแล้วก็ต้องงงกับรหัสที่ลึกลับซับซ้อนนั้น
  
        และทันทีที่ข้อมูลลับสำคัญ ส่งตรงมาถึงมือของผู้ประสานงานหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษของพระราชา ซึ่งไม่ใช่ตัวเธอ หรือนายทหารราชองครักษ์หนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้นแล้ว ตัวเขาก็จะทำการแกะรหัส พร้อมทั้งกลั่นกรองและรวบรวมข้อมูล เพื่อกราบทูลถวายรายงานให้พระราชาทรงทราบเป็นการส่วนพระองค์ หรือพูดง่ายๆ ว่า การสนทนาข้อมูลลับพิเศษสำคัญนี้ จะมีเพียงแค่พระองค์กับนายทหารคนสนิทท่านนี้เท่านั้นที่รู้ ซึ่งที่ผ่านๆ มา นายทหารคนสนิทท่านนี้ ก็สามารถรับผิดชอบภารกิจที่พิเศษสำคัญดังกล่าวได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด
 
การสนทนาข้อมูลลับพิเศษสำคัญนี้ จะมีเพียงพระองค์กับนายทหารคนสนิทท่านนี้เท่านั้นที่รู้
การสนทนาข้อมูลลับพิเศษสำคัญนี้ จะมีเพียงพระองค์กับนายทหารคนสนิทท่านนี้เท่านั้นที่รู้
 
        จวบจนกระทั่งมาถึงในช่วงระยะหลังๆ นี้ ผู้ประสานงานหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษท่านนี้ ก็เริ่มย่อหย่อน บกพร่องในหน้าที่ และไม่เอาใจใส่ ในภารกิจที่ได้รับมอบหมายเหมือนเช่นเคย
 
ในระยะหลังๆ ผู้ประสานงานหน่วยเฉพาะกิจพิเศษท่านนี้ เริ่มบกพร่องในหน้าที่
ในระยะหลังๆ ผู้ประสานงานหน่วยเฉพาะกิจพิเศษท่านนี้ เริ่มบกพร่องในหน้าที่
 
        ส่วนว่า สาเหตุใดที่ทำให้ผู้ประสานงานหน่วย ฉ.ก.เฉพาะกิจพิเศษท่านนี้ เริ่มย่อหย่อน บกพร่องในหน้าที่ หรือฟิตน้อยลงนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในวันถัดไป
 
 
รับชมวิดีโอ
 
[[videodmc==45074]]
 
 
 
 
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

     บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

     "วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20130513-คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา-ตอนที่-16_RIGHT.html
เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567 16:13
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv