เล่าเรื่องคุณยาย ตอน ชีวิตดีเพราะมีล็อกเกตคุณยาย

หลวงพ่อคะ..ลูกเป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่นในอานุภาพของคุณยายเหลือเกินค่ะ ที่ลูกยืนยันอย่างนี้ เพราะลูกเจออานุภาพท่านอย่างจังกับตัวเอง ก่อนที่จะรู้จักคุณยายซะอีกค่ะ ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่า..ก่อนเข้าวัดลูกทำกิจการร้านขายทอง แต่พอทำไปทำมาก็จนเอาๆ จนลูกรู้ซึ้งถึงชีวิต แต่เป็นชีวิตหนี้ค่ะ จนมีหนี้สินมากกว่า 10 ล้านบาท ตอนนั้นลูก ทั้งทุกข์ ทั้งเครียดจนอยากหนีไปบวชชี ซึ่งช่วงที่คิดๆ ว่าจะบวชนี้เองค่ะ..ลูกก็หลับฝันไปว่า..มีแม่ชีคนหนึ่งมาหา แล้วมาบอกลูกว่า.. “ให้มาทางนี้สิหนู” จากนั้นไม่นานก็มีกัลยาณมิตรชวนลูกเข้าวัดพระธรรมกาย และพอมาถึงลูกก็ทึ่งทันที เมื่อลูกเห็นรูปคุณยายอาจารย์รูปใหญ่ที่ติดอยู่ในวัด เพราะคุณยายในรูป ก็คือ แม่ชีคนที่ไปเข้าฝันตามลูกมาวัดนั่นเองค่ะ

ด้วยเหตุนี้..ลูกจึงศรัทธาเชื่อมั่นในวัดพระธรรมกายแบบไม่มีข้อกังขาใดๆ แม้ช่วงที่ลูกเข้าวัดใหม่ๆ จะเป็นช่วงที่วัดโดนโจมตีอย่างหนัก ในปีพ.ศ. 2540-2541 และที่ลูกรู้สึกดีใจไปกว่านั้น ก็คือ การมาวัดในจังหวะนี้นี่เองค่ะ ทำให้ลูกได้ทันทำบุญหล่อทองกับคุณยายองค์ที่ 1 อย่างเต็มที่เต็มกำลัง โดยเอาทองที่ร้าน และชวนญาติพี่น้องทำไปหลายบาททองเลยค่ะ เพราะลูกตระหนักดีว่า เราคือผู้ออกแบบชีวิต และนับจากนั้น..ลูกก็เอาล็อกเกตคุณยายที่เจ้าหน้าที่วัดให้ มาใส่กรอบห้อยติดตัวมาตลอดนานถึง 17 ปีแล้วค่ะ

ซึ่งนับตั้งแต่ลูกห้อยล็อกเกตคุณยาย ลูกก็สัมผัสได้ว่า..คุณยายตามคุ้มครองดูแลลูกตลอดเวลา ที่ลูกกล้ายืนยันอย่างนี้ ก็เพราะขนาดตอนที่ลูกตัดสินใจไปทำมาหากินอยู่อเมริกา ลูกตั้งใจอยากจะทำบุญเป็นประธานกองที่ศูนย์เวอร์จีเนีย ซึ่งต้องใช้เงิน 1,500 เหรียญสหรัฐฯ แต่เนื่องจากลูกมีเงินในบัญชีแค่ 700 เหรียญเท่านั้น ลูกจึงอธิษฐานขอกับล็อกเกตคุณยายว่า.. “ลูกอยากจะทำบุญครั้งนี้จริงๆ ขอให้ลูกมีเงินครบ 1,500 เหรียญ เป็นอัศจรรย์นะคะคุณยาย” และหลังจากอธิษฐานได้ไม่นาน ลูกก็พบสิ่งที่ไม่คาดฝัน คือ อยู่ๆ ก็มีเงินในบัญชีเพิ่มมาอีก 800 เหรียญ จนครบ 1,500 เหรียญ ตามที่ลูกตั้งใจอยากจะทำบุญอย่างเหลือเชื่อจริงๆ จนปัจจุบันนี้ ลูกยังไม่รู้เลยค่ะว่า..เงินนี้มาจากไหน..ใครโอนมา...และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้นนะคะ คือ หลังจากที่ลูกได้ทำบุญไปไม่นาน ลูกก็อธิษฐานขอกับล็อกเกตคุณยายเป็นประจำว่า.. “ให้ลูกเคลียร์ปัญหาหนี้สินที่เมืองไทยได้สักทีค่ะ”

จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกก็ฝันว่า..คุณยายท่านไปเยี่ยมศูนย์ที่เวอร์จีเนีย ซึ่งในฝันลูกดีใจมากค่ะ รู้สึกคุณยายไม่ทอดทิ้งลูกหลานที่อยู่ไกลถึงต่างประเทศ ซึ่งในฝันลูกรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน เพราะคุณยายยอมให้ลูกนอนหนุนตัก แล้วท่านก็เมตตาลูบหัวลูก และบอกว่า.. “ให้กลับมาอยู่เมืองไทยได้แล้ว” ซึ่งพอลูกตื่นขึ้น ก็อดประหลาดใจกับสิ่งที่ตัวเองฝันไม่ได้ แต่ลูกก็ยอมทำตามสิ่งที่คุณยายบอกในฝัน คือ กลับมาเมืองไทย ซึ่งพอกลับมา ก็พบกับจุดเปลี่ยนของชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะอยู่ๆ ที่ดินที่ลูกประกาศขายมานานเป็น 10 ปี ก็เกิดขายได้ขึ้นมา จนลูกมีเงินเคลียร์หนี้สินกับธนาคารที่เคยค้างไว้ เป็นสิบๆ ล้านบาทได้ทั้งหมด แถมมีเงินเหลือทำกิจการปลูกบ้านจัดสรรขายอีกค่ะ

จากเหตุการณ์นี้..ลูกไม่รู้จะกราบขอบพระคุณคุณยายอย่างไร เพราะรู้สึกคุณยายมีบุญคุณกับลูกมากเหลือเกิน ที่ท่านตามลูกเข้าวัด ทำให้ลูกได้เป็นต้นบุญตามญาติพี่น้องเข้าวัด และที่ปลื้มมากที่สุด ก็คือ ได้พาพระหลานชายมาบวชถวายให้เป็นลูกหลวงพ่อได้ 9 พรรษาแล้วค่ะ

และที่สำคัญ...ตั้งแต่ลูกห้อยล็อกเกตคุณยาย ก็เหมือนมีคุณยายคอยตามดูแลลูกตลอดเวลาจริงๆ และลูกมั่นใจว่า คุณยายอยู่ใกล้เรา จนตอนนี้ลูกเข้าใจแล้วค่ะว่า..ทำไมคุณยายท่านถึงเน้นย้ำกับหลวงพี่หมูว่า...เวลาไปไหนให้เอาล็อกเกตท่านติดตัวไปด้วย เพราะคุณยายท่านจะได้ตามคุ้มครองดูแลลูกหลานของท่านแบบนี้เองค่ะ

สุดท้ายนี้...ลูกว่า..นับเป็นความโชคดีของลูกหลานคุณยายยุคนี้จริงๆ ค่ะ ที่ยังเหลือล็อกเกตชุดสุดท้ายของคุณยายอยู่ เพื่อให้กับผู้ที่มาร่วมบุญหล่อทองกับคุณยาย ไว้พกติดตัว ซึ่งลูกก็ขอเป็นพยานบุคคลในการยืนยันค่ะว่า..ตั้งแต่ลูกห้อยล็อกเกตคุณยายมา 17 ปี และตามระลึกนึกถึงท่าน ท่านไม่เคยทอดทิ้งลูกเลยจริงๆ แม้ลูกจะไปอยู่ไกลถึงต่างประเทศ ท่านก็ตามคุ้มครองช่วยเหลือ แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว ท่านก็ยังตามดูแลลูก จนลูกหมดหนี้หมดสิน เหลือกินเหลือใช้ เหมือนกับที่คุณยายท่านอธิษฐานไว้กับผู้ที่มีล็อกเกตของท่าน ตามที่หลวงพี่หมูเล่าว่า.. “ข้าพเจ้าขอเติมความศักดิ์สิทธิ์ให้มีฤทธิ์มีเดช คุ้มครองป้องกันภัยให้กับลูกหลานยาย ให้มีความสวัสดีมีชัยให้ยิ่งๆ ขึ้นไป มีสมบัติมหาสมบัติเอาไว้กินไว้ใช้ ไว้ทำบุญทำทานไม่รู้จักหมดสิ้น” ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ และท้ายที่สุดนี้ ลูกกราบขอพรจากหลวงพ่อให้ลูกรวยๆ ด้วยเจ้าค่ะ...