ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557
 
สรุปประเด็นร.ร.อนุบาลฯ วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 


คุณครูไม่ใหญ่ :


supervisor มาเข้าโรงเรียนอนุบาลฯ


•    โลกขาด supervisor เหมือนโลกขาดดวงตะวัน ต้องให้ผู้มีแสงสว่างไปชวนคนทำความดี ลูก supervisor ปลื้มไหมลูก  สุดยอดเลยลูก supervisor ชวนสอบทางก้าวหน้าทั่วประเทศ

ตักบาตรจังหวัดระนอง


•    ตักบาตร 2 แผ่นดิน จากพม่ามาเยอะแยะเลย มารวมกันเนื้อนาบุญในไทย เป็นเรือนพัน เพราะฉะนั้นผู้มีบุญทั้งหลายทั้งชาวไทยพม่า ต้องมาเยอะๆนะ โดยเฉพาะชาวพม่าที่อยู่ในไทยไปเอาบุญใหญ่เลยน วันที่ 16 มีนาคม ที่จะถึงนี้
 
)

ตักบาตรสามแผ่นดิน อ.แม่สาย จ.เชียงราย


•    วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม ตักบาตร 3 แผ่นดิน  พระ 10,000 รูป ที่เชียงราย ผู้มีบุญทั้งหลายไปตักบาตรกันเต๊อะ โอกาสที่จะได้ตักบาตรล้านนี้หายาก ตั้งแต่สร้างชาติมาจะมียุคนี้แหละ ที่เราจัดโครงการตักบาตรพระมา กว่าเราจะไปจัดบาตรให้ครบหมื่นคงคงซี้ก่อน โอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดี ทำในช่วงที่เรายังแข็งแรง เนื้อนาบุญยังมีและยังมาอยู่ เครื่องไทยธรรมที่เราจะได้นำไปเหลือเลี้ยงพุทธบุตร 4 ชายแดนภาคใต้ เราได้บุญหลายต่อ และได้รักษาพระพุทธศาสนาด้วย ทำที่ท่านได้ที่เรา เพราะเราเกิดมาสร้างบารมีเราก็ต้องสร้างบารมีให้เต็มที่

ชวนบวชโครงการสามเณรต้นแบบสู่ AEC ตอน เด็กจะดีถ้ามีศีลธรรมนำทาง


•    คุณครูมลิวัลย์  บุญล้น สอนภาษาไทย อยู่โรงเรียนวัดยายร่ม เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร  เล่าว่าในปี 2549 เครียดกับเรื่องครอบครัว จึงมีเพื่อนครูชวนให้ดู DMC แต่ก็ดูได้ไม่เท่าไหร่ก็เลิกดู เพราะตอนนั้นดูอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เห็นพิธีกรใส่ชุดขาว และทั้งช่องมีแต่เรื่องบุญ จนกระทั่งไปยินลูกสาว 2 คน พูดจาเลียนแบบฉากเลิฟซีนตามละครโทรทัศน์ ก็ตกใจ แล้วนึกถึงช่อง DMC จึงเปิดช่องนี้ให้ลูกๆ ดูทุกวัน ซึ่งลูกก็ชอบร้องเพลงบารมี 10 ทัศ รู้จักกราบเท้าแม่ก่อนนอนทุกคืน รู้จักเอาบุญมาฝากแถมเป็นคนสอนให้แม่พูดคำว่าสาธุ และชอบมาเป็นอาสาสมัครรับบุญที่วัดพระธรรมกาย และตัวเองก็ได้รู้หน้าที่ที่แท้จริงของการเป็นครู โดยมีคุณครูไม่ใหญ่ คุณครูไม่เล็ก เป็นต้นบุญต้นแบบ ว่าครูคือให้แสงสว่าง จึงเริ่มทำหน้าที่ชวนเด็กนักเรียนมาวัดพระธรรมกาย และไปทำกิจกรรมทุกวันพระที่วัดยายร่ม และชวนเด็กนักเรียนเข้าร่วมบวชโครงการสามเณร AEC ซึ่งมีนักเรียนสมัคร 60 คน อีกทั้งยังชวนเด็กๆ บวชที่วัดยายร่มด้วย  เด็กนักเรียนจะส่งเฟสบุ๊ค ถึงคุณครูก่อนนอน “ครูครับหลับในอู่ทะเลบุญนะครับ  ผมเอาบุญนั่งสมาธิก่อนนอนมาฝาก” และยังได้ชวนนักเรียนร่วมทำบุญหล่อทองคุณยายอีกด้วย
 
ครูมลิวัลย์  บุญล้น
คุณครูผู้ประสานงานโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก

•    คุณครูไม่ใหญ่ขยายความของบารมี 10 ทัศ ...บารมี 10 ทัศ สั่งสมมาเพื่อให้ใจของเราใสสะอาดบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น จะค่อยๆ ละกิเลส 3 ตระกูล เราลองไปทบทวนดู ลองไปนึกๆ ดูนะ เช่นทานบารมี  ถ้าเราให้  กิเลสโลภะนี้จะลดลงและค่อยๆหมดไป ทีละนิดแล้วจิตจะสดใสบริสุทธิ์จากกิเลสตระกูลนี้ เป็นต้น  กิเลสมีทั้งหยาบและละเอียด ก็เรียกชื่อแตกต่างกันไป แต่ก็ยังเป็นกิเลส 3 ตระกูลนี้  เช่น หยาบที่สุดก็เรียก อวิชชา พยาบาท มิจฉาทิฏฐิ  3 อันเหมือนกัน แล้วก็มา โลภะ โทสะ โมหะ  ราคะ โทสะ โมหะ  ถ้าละเอียดเพิ่มขึ้นก็ กามราคานุสัย ปาฏิคานุสัย อวิชชานุสัย ฯลฯ  ถ้าละเอียดเพิ่มขึ้น ก็ยัง 3  ตระกูลนี้ คือ สังโยชน์ เบื้องต่ำ เบื้องสูง ก็ 3 ตระกูลนี้   บารมี 10 ทัศจะทำให้จิตบริสุทธิ์ห่างจากกิเลส 3 ตระกูลนี้  เราลองไปทบทวนดู ลองไปวิเคราะห์ดู  ลองนึกดูว่า เช่น อุเบกขานี้ ทำให้เราห่างจากกิเลสตระกูลไหนนะ เช่น ปล่อยวาง ไม่ยินดียินร้าย  ทั้งรักทั้งชัง อะไรอย่างนี้ เฉยมีแต่เฉยๆ อย่างเดียวนี้ได้อะไร ห่างจากกิเลสตระกูลไหนบ้าง  เราจะเห็นเลยว่า โอ... ยิ่งนึกยิ่งปลื้ม มีความสุขมากเลย ลองไปวิเคราะห์ดู

•    คุณครูไม่ใหญ่ได้กล่าวถึงการเป็นครูว่า เป็นครูเบื่อไม่ได้นะเบื่อก็ต้องมา นักเรียนเบื่อไหม ครูไม่ใหญ่ไม่เบื่ออยู่แล้ว เบื่อน่ะนักเรียน เพราะว่านักเรียนไม่ค่อยมา อย่าเบื่อที่เป็นผู้ให้แสงสว่างเลย  ครูไม่ใหญ่เบื่อเวลาป่วย ความแก่ ความเจ็บ ความป่วย ไม่ควรจะมีนะ อาชีพครูคืออาชีพของพระโพธิสัตว์ ใช่แล้วจะพระบรมศาสดาของเราเป็นพระเจ้าจักรพรรดิได้ตั้งหลายครั้ง เป็นพระราชาหลายครั้ง  แต่ท่านก็เบื่อ แต่พอมาเป็นผู้ให้แสงสว่างยังไม่เบื่อเลย ขนาดท่านอยู่กลางทะเลอยากเป็นครูเลย ดูความปรารถนาอย่างเป็นครูของท่านอย่างแรงกล้า ทำสารพัด ยอมตัดแขน ตัดขา เยอะแยะเลย เพราะอยากเป็นอย่างเดียว คืออยากเป็นพระบรมครูสอนวิชชาชีวิตให้มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายหมดกิเลส ให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง สอนวิชชา 3  วิชชา 8 อภิญญา 6 ปฏิสัมภิทาญาณ 4  อะไรอีกเยอะแยะเลยไปหาอ่านดู ดูสิท่านตั้งความปรารถนาขนาดนั้นเลย เพื่อจะได้เป็นพระบรมครู  เห็นความมุ่งมั่นอยากจะเป็นครูของท่านไหม  กลางทะเลเลยเนาะ แสดงว่าผู้ให้สแสงสง่สงเส้นทางนี้ยิ่งใหญ่มากประดุจดวงตะวันไม่ได้ มนุษย์ขาดดวงตะวันไม่ได เด็กนักเรียนก็จาดครูไม่ได้  ให้ปลื้มที่เราเป็นครู ถ้าไม่ปลื้มก็ขาดทุน เราควรจะขาดทุนหรือกำไรชีวิต  ปลื้มวันละเล็กละน้อย ภูมิใจก็จะปลื้ม เบื่อก็ไม่ปลื้ม ก็ขาดทุน เข้าห้องไปเห็นเด็กเขาจะเป็นยังไงก็ปลื้มว่าเราได้ทำหน้าที่แล้ว เดินตามรอยพระศาสดา

•    คุณครูไม่ใหญ่บอกว่าเด็กไม่ได้ดื้อ เด็กไม่ได้ดื้อนะเพราะว่าเด็กเขาอยากฟังอะไรที่ต่างไปจากเดิม ถ้าพูดแบบนี้เขาไม่อยากฟังเราเปลี่ยนวิธีพูดไปจนกว่าเขาจะอยาก วิธีนั้น วิธีนี้  แล้วผู้แสวงหาก็จะพบวิธีที่จะสอนให้เด็กไม่ดื้อเด็กไม่เบื่อ

•    การที่ได้ชวนเด็กๆ มาบวชสามเณร AEC คุณครูไม่ใหญ่บอกว่า บวชตอนนี้ดีนะ ยังแข็งแรง ใจยังใสๆ นั่งสมาธิได้ง่าย เข้าถึงพระในตัวได้ง่าย ครูหรือผู้ปกคอรงที่พามาจะได้บุญเยอะเลย สักวันเราจะต้องบวชครั้งละ 1 ล้านให้ได้  ล้านคนเดินธุดงค์ มหัศจรรย์นะ นึกแล้วปลื้มไหม นี่สำคัญนะ คือเด็กมีอยู่แล้ว พระพุทธศาสนาก็มี พระอุปัชฌาย์ก็มี วัดก็มี เด็กล้านนึง ผู้ปกครองด้วย รวมเป็น 3 ล้าน อะไรดีๆ จะเกิดขึ้นและเข้าสู่กระแสเศรษฐกิจด้วย ผู้ที่ขายอาหารใส่บาตร ไปถึงผู้ผลิต ถึงท้องไร่ท้องนา ถึงคนขายปุ๋ย และมวลรวมทั้งล้านคน ใส่บาตรที่ได้เป็นล้านๆ บาท เอาไปบำรุงประเทศชาติ นี่ไง AEC  ถ้าแท้จริงต้องบวชล้านนึง เศรษฐกิจถึงจะสะพัดเลย  

•    คุณครูไม่ใหญ่ให้กำลังใจในการชวนบวชว่า มันคุ้ม แม้จะเจออุปสรรคแต่มันคุ้ม อะไรที่คุ้มลุยมันไปเลย
 


 พระครูสมุห์สุวิทย์ สุวิชชาโภ :


•    เป็นช่วงที่เล่าประวัติคุณยาย วันนี้เป็นภาคที่ 3 ตอนที่4 แต่เป็นช่วงที่อยู่บ้านหลังเล็กจะสร้างบ้านหลังใหญ่ คราวนี้แล้วเล่าถึงบ้านหลังเล็ก การปักหลักของหลวงพ่อ คือการมาเรียนกับคุณยาย หลักวิชชาจนจบถึงมโนปณิธานของหลวงปู่ได้ถ่ายทอดมาถึงหลวงพ่อ จนถึงจุดที่เริ่มพร้อม พอมาถึงจุดนี้การขยายก็เกิดขึ้น มี 2 เรื่อง 1.เรื่องสถานที่ 2. เรื่องทีมงาน เหมือนเป็นล็อคบุญว่าเป็นเรื่องงานที่จะทำต่อ

•    บ้านหลังเล็กเต็มล้น และมีความจำเป็นต้องขยาย จะมีการสร้างบ้านหลังใหญ่เกิดขึ้นต่อมาเรียกบ้านธรรมประสิทธิ์ ความจำเป็นนี้เหมือนจะเริ่มต้นจากบ้านหลังเล็ก เลยทำให้มีความจำเป็นต้องสร้างบ้านหลังใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังเล็ก 100 กว่าเมตร อยู่บนถนนสายเดียวกัน

•    แผ่นดินวัดปากน้ำทิศเหนือจะจรดคลองบางหลวง ซึ่งถ้าหากจากริมตลิ่งของคลองเข้ามาซัก 30-40 เมตรจะมีถนนสายเล็ก บ้านหลังเล็กจะอยู่ทางตะวันออก ตะวันตกจะสุดที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ตอนนั้นเราไปขอสมเด็จ (เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) พอท่านอนุญาตก็ไปติดต่อพระครูญาณปรีชา ขณะนั้นท่านเป็นรองเจ้าอาวาสให้ท่านช่วยสร้าง ต่อมาท่านได้เป็นพระราชโมลี เป็นเจ้าอาวาสวัดราชโอรส ท่านบอกพอรู้ว่าจะเป็นบ้านที่รองรับการปฏิบัติธรรมท่านทำเต็มที่ไม้ทุกแผ่นคัดหมด ส่วนชื่อธรรมประสิทธิ์หลวงพ่อเล็ก พระภาวนาโกศลท่านตั้งให้ บ้านนี้เกิดขึ้นมาได้จากการรวมปัจจัยจากลูกศิษย์ของคุณยาย ซึ่งหนึ่งในทีมงานที่ร่วมสร้างด้วยคือหลวงพ่อของเรา

•    ท่านบอกว่าก่อนจะสร้าง คุณยายได้บอกว่าใครก็ตามที่ได้สร้างบ้านหลังนี้ ตะปูสักตัวกระดานซักแผ่นจะได้บุญยิ่งใหญ่ หลวงพ่อตอนนั้นท่านบอกว่าสตางค์ในกระเป๋ามีนิดเดียว ท่านเลยงดอาหารกลางวันและสะสมได้จำนวนหนึ่ง ประมาณ 100 บาท ท่านบอกว่าท่านอธิษฐานอยู่นานลย ฉันก็ลืมถามว่าท่านอธิษฐานว่าอะไร ฉันเข้าใจว่าแนวทางที่เราจะก้าวเดินกันต่อไปนี่แหละ ก็มีเด็กไปได้คำอธิษฐานมาไม่แน่ใจว่าตรงไหม ชอบใจข้อหนึ่งว่า ขอให้ได้สายสมบัติเพื่อจะได้สร้างบารมีตลอดไป ชาติใดเมื่อสายสมบัติเกิดขึ้น อย่าให้ใจมีความตระหนี่เลย ขอให้ใจมีความยินดีที่จะได้สร้างโภคสมบัติที่จะได้สร้างบารมีต่อๆ ไป พอเห็นก็เลยถูกใจ เพราะคนเราทำบุญแล้วก็ตระหนี่ในสิ่งที่สร้าง แต่ใจของหลวงพ่อไม่มีตรงนี้ ทำให้ท่านได้สร้างบุญต่อเนื่องต่อมาอย่างอัศจรรย์ ใครก็ตามอุตส่าห์เก็บสตางค์มาด้วยความลำบาก ตั้งใจสร้างจะเอาบุญใหญ่ ก็ขอให้เป็นสิ่งที่ได้เกื้อหนุนเอามาใช้ประโยชน์สร้างบารมีได้เรื่อยๆ

•    ฉันตอนที่ไปถึงบ้านธรรมประสิทธิ์เห็นใบปวารณา ว่าสร้างบ้านหลังนี้จำนวน 50,000 กว่าบาท และขอสร้างถวายวัดปากน้ำ คุณยายขออาศัยสร้างบารมีต่อ เห็นแล้วก็ชื่นใจ หลวงพ่อเราปักหลักสร้าง งานชิ้นแรกที่ท่านเริ่มสร้างคือชิ้นนี้ เป็นชิ้นที่สำคัญ บ้านทั้ง 2 หลัง เป็นบ้านที่เกิดขึ้นมาให้เราได้สร้างบารมีจนถึงทุกวันนี้ เป็นการปักหลักที่สำคัญมาก ปักหลักจนแน่น ต้องมีหมู่คณะต้องแน่นพอที่จะเดินหน้าสร้างบารมีโดยไม่กลัวลำบาก

•    บ้านธรรมประสิทธิ์สร้างมาสุดถนนสายนี้ ด้านตะวันตก ตรงข้างหน้าจะมีรั้ว เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ฉันคะเนความกว้างประมาณ 6 - 7 เมตร ยาวลึก 10 กว่าเมตร แต่ 2 ชั้น ข้างหน้าจะมีระเบียงเอาไว้นั่งพักผ่อน ท้ายจะทำห้องเล็กๆ 2 ห้อง คือห้องน้ำ และห้องทานข้าว     ชั้นบนพื้นไม้ บันไดขึ้นอยู่หน้าห้องน้ำ ใช้เป็นที่บูชาข้าวพระ หลวงพ่อใช้คำว่ามีพื้นที่ใหญ่กว่าบ้านหลังเล็กหลายเท่า และเป็นที่รวมสมาชิก ที่ค่อยๆ รวม เพิ่มขึ้นๆๆ

•    หลวงพ่อบอกทุกครั้งที่นึกถึงบ้านธรรมประสิทธิ์ท่านจะปลื้มในบุญที่ท่านได้ทำ เพราะเป็นงานชิ้นแรกที่ได้ทำและทำเพื่อคุณยาย

•    อีกประเด็กหนึ่งคือทีมงาน เพราะว่าต้องควบคู่กันไป เมื่อคราวที่แล้วพูดถึงเรื่องนี้ คือได้ครูไม่เล็ก เพราะในละเอียดคุณยายกับหลวงพ่อตามได้ แต่ข้างนอกครูไม่เล็กต้องทำ ครูไม่เล็กเรียนเกษตรรุ่น 20 ครูไม่ใหญ่รุ่น 23 ฉันรุ่น 27 ครูไม่เล็กท่านมาพบครุไม่ใหญ่ 2509 ก็ถูกใจ จนได้มาพบคุณยาย ตอนต้นปี2510 พอพบยายท่านก็สำนึกในพระคุณยายของยายว่าสามารถทำให้ท่านก้าวสู่หนทางที่ถูกต้องได้ คือการปฏิบัติธรรม ท่านก็ทุ่มชีวิตกับเส้นทางนี้

•    ครูไม่เล็กพอมาถึง พ.ศ. 2510 พวกเกษตรหลายท่านก็ตามมา ฉันพอได้เห็นตอนมาถึงบ้านธรรมประสิทธิ์ ในที่เห็นภาพคือท่านก็พาน้องมาทั้งบ้านเลย ในจำนวนนี้ก็พาน้องชาย น้องท่านคนหนึ่งต่อมาได้บวชถวายชีวิตและอยู่ในหมู่คณะของพวกเรา คือพระครูปลัดฐิตสุทโธ ก่อนที่จะมาเล่าครั้งนี้ซักเดือนหนึ่งได้ถามท่าน จึงได้ทราบตอนที่ท่านไปถึงบ้านหลังเล็กสัก 2-3 ครั้ง ก็ได้ย้ายมาบ้านหลังใหญ่ ตอนนั้นท่านวัยรุ่นอยู่ ท่านมาเป็นกำลังหลังให้หมู่คณะของเรา อาวุโสลำดับ 2 เลยนะ

•    อีกท่านหนึ่งคือพระครูปลัดวันชัย ท่านเป็นศิษย์คุณยายทองสุข  ฉันก็ไปถามท่าน ก่อนท่านลาโลก สร้างบารมีมาไม่เคยถาม พอป่วยหนักค่อยไปถาม ถามเรื่องบ้านหลังเล็ก เพราะท่านไปตั้งแต่ 8 - 9 ขวบ ท่านบอกว่าเข้าไปนั่งได้ต้องเป็นเด็ก คงเย็นสบาย ท่านบอกนั่งได้แต่ยืนไม่ได้ แล้วก็สร้างบารมีมาตลอด จนบวชและเป็นพระผู้ใหญ่

•    ส่วนฉันมาไม่ทันบ้านหลังเล็ก เข้าเกษตรปีพ.ศ. 2510 ขอเล่าประวัติจะได้เห็นบรรยากาศ ฉันเข้าเกษตรเดือนมิถุนายน ยอมรับตามตรงว่าเรื่องการปฏิบัติธรรมไม่อยู่ในใจเลย แต่พอเรียนไปซัก 2 เดือน ก็มีกัลฯท่านหนึ่งมาชวน ท่านใฝ่รู้ เรียบร้อย ท่านรู้ข่าวมาว่า มีรุ่นพี่อยู่ 2 ท่าน ปฏิบัติธรรมและเก่งมาก ก็มาถามว่าสนใจไหม ตั้งแต่เล็กจนโต ถึงเวลานั้นถึงได้คิดได้ และก็บอกว่าถ้ามีธรรมะนะไม่ต้องกลัวผีแล้ว พวกทรงเจ้าก็ไม่ต้องกลัว ก็รู้สึกสนใจ เขาเลยชวนไปหาพี่ทั้ง 2 คน ไม่รู้เขาไปหาก่อนหน้านี้ยัง และก็นัดหมาย  พี่ทั้ง 2 อยู่ที่คอกวัว ชื่อก็บอกแล้วว่าเลี้ยงวัวอยู่ ครูไม่เล็กพักที่นั่นและชวนครูไม่ใหญ่ไปพักด้วย

•    พอจะไปหารุ่นพี่ทั้งสอง  เพื่อนคนนี้ก็รู้ว่าพี่คนที่เป็นรุ่นน้องที่เป็นครู แต่พี่ที่เป็นรุ่นพี่เป็นลูกศิษย์ เราก็อื้ม เราไปพบแล้วเราจะได้แสดงออกถูก วันที่ไปพบก็อยู่ทั้ง 2 ท่าน ตอนค่ำ ตอนไหว้เราก็ไหว้ครูไม่ใหญ่ก่อน เพราะเพื่อนบอกมาก่อนแล้วว่าท่านเป็นครู แล้วเพื่อนก็บอกว่าสนใจที่จะมาปฏิบัติธรรมครับ ครูไม่ใหญ่ก็อื้ม ช่วงนั้นท่านยกให้เป็นหน้าที่ของครูไม่เล็ก ท่านก็บอกครูไม่เล็กว่าให้ช่วยสอนน้องที ครูไม่เล็กท่านก็สอน คนที่สอนฉันคนแรกคือครูไม่เล็กเลย ฉันก็ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกศิษย์คนโตของท่านรึเปล่า แต่เพื่อนน่าจะเป็นคนโตกว่าฉัน

•    พอกลับไปถึงหอพัก ก็ยินดี ตกกลางคืนเราก็นั่งสมาธิ รุ่นพี่ในห้องก็งงๆ เพื่อนคนนี้ก็มาบอกว่าจะพาไปหายาย เพราะว่ายายเป็นครูของครูไม่ใหญ่อีกที เราก็อื้มได้ไป ถึงเวลาเงื่อนไขมันก็หมดไปเอง แล้วก็สิ่งหนึ่งถ้าจำไม่ผิด เวลาไล่เลี่ยกันมีวารสารออกมาเล่มหนึ่ง ในหนังสือมีเรื่องผจญมารคนเขียนชื่อ เผด็จ ผ่องสวัสดิ์ ทั้งเล่มดังเรื่องนี้ หลายคนอ่านจะชอบ ฉันได้อ่านก่อนจะสร้างวัด ปกสีเขียว ครูไม่เล็กท่านเขียน ถ้าเรื่องออกมาในปีพ.ศ. 2510 แสดงว่าท่านเขียนได้ไม่นาน เพราะว่าอ่านแล้วใจจะเริ่มจรดเรื่องที่เราจะมาปฏิบัติธรรม ไม่นานมีโอกาสบอกท่านว่าเพราะหนังสือเล่มนี้ทำให้คนมาปฏิบัติธรรมได้ดี อย่างน้อยรุ่นฉันได้อ่านก็รู้สึกมีคุณค่า เลยมีกำลังใจที่จะมากราบยาย เพื่อนที่ชวนขออนุญาตหลวงพ่อ เพื่อนคนนี้เขารู้จังหวะ ใฝ่รู้ เราก็ยินดีตามมาพบยาย ไม่แน่ใจว่าปลายปีพ.ศ. 2510 หรือ ต้นปีพ.ศ. 2511   เพราะใกล้วันเกิดยาย
 

•    เขาก็พาไปถึงประตู ก็เห็นบ้านธรรมประสิทธิ์ วันที่พบกันครั้งแรกท่านไม่ได้อยู่บนบ้าน มีสนามหญ้า... ตรงต้นจันผาปลูกอยู่ข้างรั้ว คุณยายคงไปดูว่าปลูกแล้วเรียบร้อยไหม ท่านก็คงไปดู  เพื่อนก็พาเข้าไป เพื่อนก็แนะนำตัว  คุณยายท่านก็ลุกขึ้นหันมาดู ท่านก็รับไหว้ ฉันเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่สุกใส เหตุการณ์วันนั้นฉันจำได้คลุมเครือ แต่จำยายตอนหันมาจำได้แม่น คือดวงตาที่สุกใสของยาย จำได้ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ถ้าใครเคยอ่านประวัติหลวงพ่อ ท่านก็เห็นดวงตาคู่นี้  ซึ่งจำแม่น รู้สึกว่าตาคู่นี้คือดวงตาที่มีความจริงใจ มีพอที่เราจะเอาใจไปวางกับท่านได้ และรู้สึกว่าท่านคือครูของเรา ฉันจะไม่ค่อยได้พูด แต่ได้เพื่อนดีมาก คุณยายก็ชวนขึ้นบนบ้าน เลยไปกราบยายเพราะความรู้สึกว่ายายเป็นครูเกิดขึ้นแล้ว

•    จำได้ว่าท่านไม่ค่อยซักประวัติหรอก แต่ท่านมอง วันนั้นเริ่มนั่งธรรมะกับยายครั้งแรก ยายคงรู้ว่านั่งไม่ได้นาน เพราะว่ามันเมื่อย ท่านคงรู้ พอท่านบอกว่าพักเราก็พัก แล้วก็ดูว่ามีใครมาไหม แล้วก็ลากลับ ยายบอกว่ากลับไปแล้วไปนั่งที่หอพัก สมัยนั้นการที่จะมาหายาย บ้านธรรมประสิทธิ์ไม่กำหนดเวลานั่ง ตอนเย็นจะมีคนมาเยอะ สมาชิกที่เสร็จจากงานจะมาหายายรอบเย็น 2 ทุ่มก็กลับ

•    พอกลับไปที่เกษตรใจก็นึกถึงยาย ก็ไปนั่งสมาธิอีก ทีนี้ขึ้นอยู่ว่าใครว่างตอนไหน ตารางเรียนเราเป็นอย่างไร ตอนหลังก็เริ่มต่างจากเพื่อน เอาใครว่างอยากมานั่งก็มา ฉันจำได้ว่าตอนจัดตารางเรียนฉันจะให้ช่วงบ่ายว่าง สัก 2 วัน บางทีวันเสาร์ก็เรียน คำนวณสัปดาห์หนึ่งไปนั่งกับยายได้ 3 วัน ตอนเดินทางไปนั่งรถเมล์ 3 ทอด  สมัยนั้นรถติดตรงสะพานควาย และสะพานพุทธ สมัยนั้นรถเมล์หลากหลายสี สมัยไปบ้านธรรมประสิทธิ์ใหม่ๆได้เป็นนร.ดีเด่นปานกลาง และก็โดดเด่นปานกลาง

•    เวลาขึ้นรถเมล์จะโดนสอนให้ใจเริ่มจรด 072  เที่ยวขาไปรถเมล์จะแน่น ไม่ได้นั่ง ขณะยืนก็ฝึกจรดใจ  รุ่นพี่ก็สอนกันมาว่า เมื่อก้าวจากรถเมล์เรื่องต่างๆ ต้องทิ้งเลย พอทิ้ง ใจก็เคลียร์ แล้วเดินเข้าไปก็ผ่านตลาด ก็ไม่สนใจเดินเข้าไปเรื่อย ก่อนเดินเข้าวัดก็ผ่านสะพานไม้เข้าไป ถึงจะเดินอ้อมมาที่บ้านธรรมประสิทธิ์ มาถึงก็จะไปกราบยาย ยายจะอยู่ชั้นล่าง ยายจะอยู่มุมบ้าน หลังยายจะมีตู้เล็กๆ ใบหนึ่ง ข้างๆจะมีขวดวางเรียง แต่พอยายรู้ว่าศิษย์มาท่านพร้อมที่จะรับกราบ พอไปถึงเราก็หันขวากราบยาย ทำจนชิน ยายท่านก็มอง จึงโดนสอนมาว่าลงจากรถเมล์ให้ทิ้งหมดเพราะว่าท่านมีอะไรทัก ก็ทักตอนนั้น เราก็ทำใจมาละ พร้อม พอกราบยายเสร็จ ส่วนใหญ่ยายจะให้ไปนั่งชั้นบน ถ้าเมื่อยก็ลงมาพักได้ ไม่มีกำหนดเวลา บางทีครูไม่เล็กนั่งรวด 2 - 3 ชั่วโมง ท่านยอดเยี่ยมมาก

•    สมาชิกที่มานั่งรอบเย็น ถึง 2 ทุ่ม ก็กลับ ใจก็จรด ทำอย่างนี้จนคุ้น ถ้าวันไหนหลวงพ่อท่านมา ที่นั่งของยายที่ข้างหลังมีตู้ ที่นั่งของหลวงพ่อจะมีเสาอยู่ต้นหนึ่ง แต่ไม่ใช่เสาหัวด้วนนะ เพราะว่านั้นของบ้านหลังเล็ก แต่นี้เสามีหัว ท่านมาท่านจะนั่งใกล้ๆ คุณยาย เพราะจะต่อละเอียดกัน เสียงคุณยายท่านเบาแต่ชัดในตัว พอรอบเย็นท่านจะให้สมาชิกมานั่งด้วย ตอนหลวงพ่อนั่งด้วย คุณยายท่านจะให้หลวงพ่อนำ หากคุณยายนำบางครั้งท่านก็เปิดเทปของคุณยายทองสุข

•    ฉันไปหายายตลอดหลายปี ภาพที่เห็นคือจะเห็นยายตรงที่ท่านอยู่ พื้นที่ที่ท่านใช้ไม่ใหญ่เลย 3 - 4 ตารางเมตร มากี่ครั้งท่านก็อยู่ตรงนั้น สิ่งที่อยู่ในประวัติ ยายท่านใช้ตรงนี้รับแขก สอนธรรมะ นั่งหลับตา และเป็นที่นอน แต่ไปพบท่านจะไม่มีความรู้สึกเลยว่าตรงนั้นเป็นที่นอน ฉันเคยเจอครั้งหนึ่ง 2 ทุ่มก็กลับ แต่พอดีลืมของ ก็ไปบอกยายว่าลืมของ ยายเปิดประตูเราก็เข้าไปเอาของและมองไปที่คุณยายท่านอยู่ ท่านกำลังให้หลานกางมุ้งเตรียมนอน ไม่ต้องแปลกใจเลยนี้คือความปกติของยาย

•    นึกถึงตอนที่ยายอยู่กับหลวงปู่ นั่งกลางวัน 6 ชม. กลางคืน 6 ชม. กลางคืนท่านต้องตื่นนอนก่อนเที่ยงคืน ท่านคุ้นกับการนอนหัวค่ำและตื่นกลางดึก ตอนที่อยู่กับหลวงปู่ ท่านทำภารกิจ ความสะอาด บริหารขันธ์ก็ทำเรียบร้อยแล้วก็พักหัวค่ำ ยายท่านนอนเต็มที่ 3 - 4 ชั่วโมง ใจท่านจรดกับธรรมะที่หลวงปู่สอน จนเป็นหัวหน้าเวร ท่านทำจนเป็นปกติ ไปนั่งแล้วไม่ง่วง ท่านถึงนั่งรวดเดียว สิ่งนี้เป็นปกติที่ท่านทำ

•    สมัยที่อยู่บ้านธรรมประสิทธิ์ หลวงปู่ละสังขารแล้ว คุณยายก็ตื่นมากลางดึกนั่งสมาธิ อยู่ที่วัดพระธรรมกายก็ตื่นซักตี 2 - 3 เพราะอายุมากขึ้น สังขารกำลังน้อย แต่ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ก็สักตีหนึ่ง   ตรงนั้นเป็นทั้งที่รับแขก ที่นั่งธรรมะ พื้นที่ 3 - 4 ตารางเมตรของยาย ท่านไม่รู้สึกคับแคบเลย เพราะใจยายเหมือนอยู่โลกที่กว้างตลอด มักน้อย สันโดษ ยินดีในที่สงัด คือคุณยาย

•    คุณยายท่านมักน้อย  ท่านไม่ยินดีในชื่อเสียงเลย ครูไม่ใหญ่บอกยายเหมือนมีอารมณ์เดียว คืออารมณ์นิ่งๆ ยายจะมักน้อยไม่มีของฟุ่มเฟือยที่จะต้องเสียเวลาดูแล ถ้าทำได้จะมีเวลาทำหยุดนิ่งมากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ยายหงุดหงิดจึงไม่มีเลย เพราะยายมักน้อย แม้ผ้าที่ท่านใช้จะเก่าแต่สะอาด ชุดใหม่พี่เข่งพยายามหามาให้ ยายจะเอามาใช้ตอนต้นเดือน ยายถึงไม่ต้องไปแสวงหาอย่างอื่นเลย ลูกศิษย์พร้อมที่จะให้ท่าน แต่ท่านใช้ของที่เคยใช้

•    ยินดีในที่สงัด ก็คือความสงบ ซึ่งอยู่ที่072 ถ้าใจยายอยู่ที่072 ใจยายจะสงบอยู่ที่ 072 กายสงบ สิ่งรอบข้างก็สงบไปหมด ยายจะอยู่ตรงที่แคบนั้นจึงเหมือนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ได้ ฟังแล้วก็ตรอง แต่ทั้งหมดจะไปด้วยกันหมด ตัวหลักอยู่ที่ใจหยุดที่ 072 และคุณสมบัติเหล่านี้จะตามมา

•    ที่ต้องเล่าเรื่องนี้นี้คือ ไอดอล ของลูกศิษย์ทั้งหมด เพราะฉันก็อยากทำได้ ยายจะไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ ยายไม่เปลืองเวลากับสิ่งเหล่านั้น ถ้าดีก็เลือกเอานะ ฉันอยู่กับยายหลายปี เวลานึกถึงยาย จะนึกได้ทั้งเรื่องความเย็น และความอบอุ่น วันนี้พิเศษหน่อยนะ 4 ทุ่ม ที่จริงเตรียมมาเยอะ มีประโยชน์ต่อพวกเรา ถ้าข้ามไปจะขาดไป เพราะวิถีชีวิตของยาย ฟังแล้วจะค่อยๆ นึกออก ปักหลักหมู่คณะ ที่สำคัญที่สุดต้อง ทั้งนิ่งทั้งแน่น ถึงจะสร้างหมู่คณะที่นิ่งและแน่น เดินหน้าต่อไปได้

•    ก็ขอให้ธรรมะที่สว่างไสวได้บังเกิดขึ้นที่กลางกายของพวกเรา ขอให้ใจของเราเป็นใจที่สงบนิ่งสนิทที่ 072 ขอให้ได้เป็นผู้สร้างบารมีตลอดหนทาง ให้ทุกท่านธรรมะสว่างไสวทุกท่านนะจ๊ะ

•    รูปยายรูปนี้ถ่ายที่วัดเรา ถ้าดูตามภาพถ่ายที่อาคารดาวดึงส์ โต๊ะหมู่คือชุดที่ให้มาตั้งแต่สำนักงานหลังเขียน คะเนอายุยาย 70 ปี ภาพนี้คือภาพที่เห็นตั้งแต่บ้านธรรมประสิทธิ์ ยายนั่งหลังตรง นั่งนิ่งเหมือนนั่งไปนานเท่าไหร่ก็ได้ ยายยังนั่งหลังตรงหลังพิงอากาศ ท่านนั่งท่านนี้ตลอด เหมือนนั่งไปแล้วไม่ต้องขยับ เบาะเอามาจากบ้านธรรมประสิทธิ์ เบาะพี่เข่งทำให้ ยายเอาติดตัวมาด้วย ตอนปี พ.ศ. 2518 อายุ 66 ท่านก็ยังใช้มาตลอด นั่งแล้วอย่าพิง พิงแล้วจะเคย  ฉันกว่าจะหลุดจากเสาได้ก็นาน ภาพนี้ใครชอบจำไว้ให้ดีจะได้เป็นแบบอย่าง
 
ชวนบวชโครงการสามเณรต้นแบบสู่ AEC ตอน เด็กจะดีถ้ามีศีลธรรมนำทาง
 
[[videodmc==47126]]

****************************************
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20140312-สรุปประเด็นร.ร.อนุบาลฯ-วันพุธที่-12-มีนาคม-2557.html
เมื่อ 30 มิถุนายน 2567 23:14
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv