ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557
ชวนบวชโครงการสามเณรต้นแบบสู่ AECตอน เรื่องอะไรจะสำคัญเท่าการชวนบวชเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
ลูกชื่อสิริพร ศิลาทรินทร์ อายุ 65 ปี หรือใครๆก็เรียกว่า “ครูใฝ” เจ้าค่ะ ลูกเป็นข้าราชการบำนาญปลดเกษียณแล้ว แต่ไม่ยอมเกษียณการทำความดีนะคะ จึงเข้ามาเป็นครูอาสาช่วยงานพระพุทธศาสนา ประสานงานเขตการศึกษาเขต1จ.ประจวบคีรีขันธ์ค่ะกัลฯสิริพร ศิลาทรินทร์ครูอาสา เพื่องานฟื้นฟูศีลธรรมโลกหลวงพ่อคะ พอลูกพระธัมฯประจวบคีรีขันธ์รู้ว่าจะมีโครงการบวช พวกเราก็เริ่มวางแผนงานลงพื้นที่กันล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงต้นปีค่ะ ด้วยการทำหนังสือแจ้งข่าวไปตามหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยเป้าหมายแรกที่ทีมงานเลือก คือการแจ้งข่าวไปยังโรงเรียนดีศรีตำบล 44โรง โรงเรียนในฝันอีก 22 โรง โดยครูอาสา 1 คน ต้องรับผิดชอบประมาณ 10 โรงเรียนค่ะเพราะพวกเราคิดว่า เด็กจะมีโอกาสบวชได้นั้น ก็ต้องอาศัยครูค่ะซึ่งก่อนจะลงพื้นที่ เราต้องเตรียมธรรมาวุธให้พร้อม ต้องคิดให้รอบคอบ วางแผนกันให้ชัด โดยจะโทรนัดหมายให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยย่ำเท้าลงพื้นที่ เพราะลักษณะพื้นที่ของจังหวัดประจวบฯ มีความยาวต่างจากจังหวัดอื่น ถ้าประสานงานผิดพลาดก็จะเสียเวลาเงินตรา ไปอย่างเปล่าประโยชน์ค่ะเมื่อได้ประสานแต่ละโรงเรียนแล้ว ทีมงานก็จะให้ทางโรงเรียนช่วยคาดการณ์ว่าน่าจะมีเด็กสนใจสมัครบวชสักกี่คน หลังจากนั้นจึงตามเข้าไปเจาะถึงตัวเด็กแต่ละโรงเรียนทุกครั้งลูกและทีมงานต้องอธิบายให้เด็กๆเข้าใจ ว่าเราบวชไปเพื่ออะไร เช่น ผู้บวชจะได้ศึกษาธรรมะ ได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ได้มีโอกาสทำความดีอย่างที่ลูกผู้ชายควรจะทำ ซึ่งโอกาสที่จะได้บวชแบบนี้ต้องเป็นลูกผู้ชายเท่านั้นนะคะ แล้วลูกก็จะเอาภาพโครงการบวช 1 แสนรูปให้เด็กๆดู เขาก็ตื่นเต้นกันใหญ่เลยค่ะและถ้าเด็กเขียนใบสมัครแล้วเราจะต้องให้เขาเอาใบสมัครไปให้พ่อแม่ที่บ้านเซ็น แล้วทีมงานจึงค่อยตามมาเก็บใบสมัคร คือกว่าจะจบกระบวนการตั้งแต่แจ้งข่าว เข้าไปชวน จนเก็บใบสมัคร ไปถึงการตามรักษา และรักษายอด ทีมงานก็ต้องติดต่อ ติดตามเยี่ยมเยียน และชมเชียร์เด็กๆแต่ละโรงเรียนไม่ต่ำกว่า 4 - 5 ครั้งค่ะบางทีเด็กสนใจเขียนใบสมัคร แต่ผู้ปกครองยังไม่เซ็นอนุญาต เราก็ไม่ยอมแพ้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของพระอาจารย์ที่จะต้องเข้าไปชี้แจงเปิดใจผู้ปกครองต่อไปค่ะหลวงพ่อคะ จังหวัดประจวบฯเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการเมืองแรงค่ะเพราะฉะนั้นพวกเราจึงต้องทำงานกันเป็นทีมค่ะ บางแห่งที่อิงการเมืองจัดๆ ก็จะไม่ค่อยสนใจโครงการของเรา แต่ทางเดียวที่ทีมงานทำได้ คือต้องตื้อที่จะอธิบาย ตื้อที่จะพูดให้เขาเข้าใจ แล้วต้องชัดเจนกันไปเลยว่าโครงการนี้เราทำเพื่อบุญล้วนๆ เพื่อเยาวชนล้วนๆซึ่งเวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ลูกจะพูดแบบชัดๆว่าโครงการนี้ทำเพื่อคืนเยาวชนที่ดีให้กับแผ่นดิน ถ้าคุณคิดอยากให้ลูกศิษย์เป็นคนดีคุณต้องร่วมสนับสนุน ถ้าเด็กได้มาบวชสักคน เขาจะได้ฝึกทำความดี มีความอ่อนน้อม มีคุณธรรม และกลับไปต่อยอดความดีในโรงเรียน ขยายไปสู่สังคม ถ้าทุกคนมีศีลธรรม ความขัดแย้งก็จะหมดไปหลวงพ่อคะ กว่าทีมงานจะผ่านเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการชวนบวชไปได้ ทุกคนต้องมีความอดทนเป็นที่ตั้ง ต้องใช้สมาธิ ใช้พลังภายใน ซึ่งสุดท้ายก็สามารถแก้ได้ทุกปัญหาค่ะ แล้วที่ประจวบฯเราก็ทำงานเป็นทีมค่ะ โรงเรียนไหนเขตไหนต้องการความช่วยเหลือ พวกเราก็พร้อมลุยไปช่วยกันค่ะ ทำให้ตอนนี้ได้ยอดผู้สมัครแบบเน็ทๆ 170 คนแล้วค่ะ และยังคงย่ำชวนบวชไปเรื่อยๆจนกว่าจะปิดรับสมัครค่ะผลแห่งความปลื้มใจของทีมงานลูกพระธัมฯจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ลูกและทีมงาน ทำหน้าที่กันทุกลมหายใจ สมัยก่อนตอนรับราชการยังมีวันเสาร์-อาทิตย์ แต่พอมาทำงานกับหลวงพ่อไม่มีวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืนแต่ชีวิตมีคุณค่ามากลูกภูมิใจมากค่ะที่ได้เป็นหนึ่งในโครงการของหลวงพ่อ และมีส่วนในความสำเร็จของทุกโครงการ ซึ่งหลวงพ่อทั้งสองมีวิสัยทัศน์อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะคิดโปรเจคไหนออกมา ก็ทำได้สำเร็จทุกโครงการ ซึ่งลูกตั้งใจที่จะใช้ความรู้ที่มี ใช้เวลาชีวิตที่เหลืออยู่สร้างคุณความดีให้ได้มากๆ จะช่วยหลวงพ่อขยายงานพระพุทธศาสนาให้ดีที่สุดค่ะ ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆกัลยาณมิตรให้ออกไปชวนบวชกันเยอะๆนะคะ ถ้าลูกพระธัมฯรวมใจไม่ว่าภารกิจใดๆต้องสำเร็จค่ะ
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20140322-ชวนบวชสามเณรต้นแบบสู่-AEC-ตอน-เรื่องอะไรจะสำคัญเท่าการชวนบวช.html
เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567 07:18
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv