เบื้องหลังภาพแห่งความสำเร็จ
ณ วัดหนองเครือตาปา
 
    วัดหนองเครือตาปา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมานานเกือบ 100ปีแล้ว แต่เดิมวัดหนองเครือตาปาแห่งนี้ ถือว่าเป็นศูนย์กลางของชุมชน ที่มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาทำบุญกันอยู่เสมอ แต่ด้วยเหตุที่ว่าพื้นที่แห่งนี้อยู่ห่างไกลจากความศิวิไลซ์ ชาวบ้านจึงพากันอพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่แถวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เหลือไว้แต่เพียงวัดหนองเครือตาปาที่เกือบจะกลายเป็นวัดร้าง แต่กฐินสัมฤทธิ์ครั้งนี้ เปรียบเสมือนประกายไฟ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความสว่างไสว ที่ทำให้วัดที่เกือบจะร้างกลับกลายมาเป็นวัดรุ่งอีกครั้งหนึ่ง
 
    พระมหาสุชาติ ปภสฺสโร พุทธบุตรวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ท่านเล่าว่า “สภาพวัดหนองเครือตาปา ที่เราเห็นในวันงานทอดกฐินสัมฤทธิ์นั้น ราวกับว่าได้ถูกเนรมิตขึ้นมา เพราะแต่เดิมวัดดูรกร้าง และถ้าใครเห็นก็อาจจะคิดไปได้ว่าไม่ใช่วัด แต่ด้วยความเมตตาของ พระเดชพระคุณพระธรรมปิฏก เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี...
 
    ที่พอท่านได้ทราบข่าวว่าจะมีพิธีทอดกฐินสัมฤทธิ์ที่วัดหนองเครือตาปาแห่งนี้ ท่านก็เมตตาเดินทางมาดูพื้นที่การจัดงานด้วยตัวท่านเอง และเป็นเจ้าภาพในการเนรมิตวัดแห่งนี้ให้กลายเป็นวัดรุ่งด้วยปัจจัยส่วนตัวของท่าน ทั้งถางทาง ทำถนน และนำเต็นท์มาลง รวมแล้วมูลค่ากว่า 100,000บาท และท่านยังได้ร่วมบุญกฐินกับน้องแพรวเป็นจำนวนเงิน 10,000บาทอีกด้วย”
 
    พระเดชพระคุณพระธรรมปิฏก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี ได้มอบหมายให้พระมหาสุชาติ พาคนกว่า 20คน มาพัฒนาพื้นที่ที่วัดหนองเครือตาปาแห่งนี้ ครั้งแรกที่ได้เห็นสภาพวัดก็มีคนถามว่า “ใครเป็นคนเลือกวัดนี้นะ” เพราะจากสภาพของวัดที่เห็น ไม่เหลือความเป็นวัดอยู่เลย ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีใครคิดเลยว่า จะสามารถเนรมิตวัดแห่งนี้ให้กลายเป็นวัดรุ่งได้ แต่ด้วยความเมตตาจากท่านเจ้าคณะจังหวัด และด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกๆคน วัดหนองเครือตาปาแห่งนี้จึงกลายเป็นวัดรุ่งอีกครั้ง ด้วยเวลาเพียงไม่ถึง 1วัน
 
    เมื่อถึงวันงานทอดกฐินสัมฤทธิ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เห็นในวัดหนองเครือตาปาแห่งนี้ จึงทำให้ทุกคนรู้ซึ้ง และเข้าใจว่าทำไมเราจึงต้องช่วยกันไม่ให้มีกฐินตกค้าง เพราะว่าวัดที่ไม่มีกฐิน ก็คล้ายกับวัดร้าง ที่ไม่มีคนเข้าไปทำนุบำรุงและดูแล ไม่มีพุทธศาสนิกชนเข้าไปทำบุญ กฐินสัมฤทธิ์จึงเป็นเสมือนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เหมือนแสงตะวันที่ส่องสว่างให้ทุกคนได้เห็นถึงคุณค่า และความสำคัญของวัดในชุมชนของตน
 
    พระมหาสุชาติกล่าวว่า “ถ้าไม่มีกฐินสัมฤทธิ์ในครั้งนี้ พวกเราก็คงจะไม่มีโอกาสได้มาพัฒนาวัดหนองเครือตาปาแห่งนี้ ต้องขอขอบพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยมากๆ ที่เห็นความสำคัญ และเลือกวัดหนองเครือตาปาแห่งนี้ ทำให้ญาติโยม และชาวบ้านในละแวกนี้ได้หวนกลับมาที่วัดแห่งนี้อีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนานเป็น 10ปี เหตุการณ์ในวันนี้ จะทำให้บ้าน วัด และโรงเรียน กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง และทุกคนก็ตั้งใจกันแล้วว่า จะไม่ปล่อยให้วัดหนองเครือตาปาแห่งนี้กลายเป็นวัดร้างอย่างแน่นอน”
 
Scoop พิเศษ กฐินวัดหนองเครือตาปา
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/Thailand_Ariya_Kathina_5.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 20:24
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv