ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์
จากเด็กสลัม..สู่มหาเศรษฐี ด้วยวิถีบุญ
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่าสูงครับ
กระผม ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์ ปัจจุบันเป็นเจ้าของและผู้จัดการใหญ่ ห.จ.ก.เนเจอร์กิฟโปรดัคส์ ผู้ผลิตเครื่องดื่มลดความอ้วน และบำรุงสุขภาพปรุงสำเร็จ เช่น กาแฟ และโกโก้ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในท้องตลาดขณะนี้ครับ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ...จริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยอยากเปิดตัวหรอกครับ เพราะปกติผมเป็นคนเรียบง่าย ชอบอยู่อย่างสงบ แต่หากว่าเรื่องราวของผม จะเกิดประโยชน์แก่ผู้ฟัง และเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลุกฮือขึ้นมายอมรวยโคตรๆกันสักที ผมก็จำเป็นต้องยอมครับ เพราะเท่ากับว่า ผมได้ให้ธรรมทาน ซึ่งขึ้นชื่อว่า ชนะการให้ทั้งปวง
หลายคนมาเห็นความสำเร็จของผม ณ วันนี้ แทบจะไม่มีใครคาดคิดหรอกครับว่า ผมเคยเป็นผู้หนึ่งที่ผ่านความจนมาอย่างโชกโชน เพราะผมจะมาจากเด็กสลัม ที่ไม่มีอะไรเลย เคยเช่าพื้นที่แคบๆหน้าห้องส้วมอยู่กันทั้งครอบครัวมาก่อน หนำซ้ำยังต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆ ต้องกินน้ำก๊อก จนเรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่างดังเช่นวันนี้ได้ ตั้งแต่โรงงาน DK1 มูลค่า 18ล้าน โรงงาน DK2 มูลค่า 200ล้าน โรงงาน DK3 มูลค่า 500ล้าน ซึ่งยังไม่รวมบ้าน ที่ดิน รถ และทรัพย์สินอื่นๆนะครับ
อยากรู้ไหมครับว่าผมมีเคล็ดลับอย่างไร ก็เพราะนิสัยการทำบุญของผมที่ติดตัวมาตั้งแต่เล็ก คือ ชอบทำบุญจนหมดกระเป๋า ทำตั้งแต่มีเงินเพียงหนึ่งบาท จนกระทั่งปัจจุบันนี้ นิสัยนี้ก็ยังคงอยู่ อีกทั้งยังชวนทุกคนในครอบครัวให้หันมาทำแบบนี้ด้วยกัน คือ ก่อนที่ผมจะทำบุญใหญ่ทุกครั้ง ก็จะให้ภรรยาและลูกสะใภ้เอาบัญชีมาดู พอดูเสร็จ ผมก็บอกว่า “ทำหมดเลย” แล้วก็ชวนทุกคนมาอธิษฐานพร้อมกัน
ผมว่า...เวลาบุญส่งผล มันจะเป็นไปตามนิสัยการสั่งสมบุญนะครับ เช่น บางคนทำบุญยาก คิดแล้วคิดอีก เวลาได้อะไรมันก็จะยาก มีขั้นตอนมาก กว่าจะได้มา บางคนตั้งเป้าไว้ว่าจะทำเท่านี้ พอทำจริงๆก็ลดเป้า เวลาได้อะไรก็ได้น้อยกว่าที่หวัง หรือบางคนไม่ชอบชวนคนทำบุญ เวลาทุกร้อนอะไร ก็ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ
ดังนั้น เมื่อรู้เคล็ดลับตรงนี้แล้ว อยากจะให้สมบัติเกิดขึ้นกับเราแบบไหน ก็แล้วแต่เราเป็นผู้กำหนดเอง ด้วยนิสัยการทำบุญของเรานะครับ ผมว่า...เราต้องทำบุญง่ายๆ ทำก่อน ทำโดยไม่ต้องมีใครมาชวน ทำให้ถูกเนื้อนาบุญ แล้วก็ทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อทำแล้วก็ต้องปลื้ม ทำแล้วเพิ่มเป้ากว่าที่ตั้งใจไว้ไปเรื่อยๆ ตรงนี้สำคัญนะครับ
อย่าไปคิดว่าบุญนี้เราทำไปแล้ว แล้วก็พอแค่นั้น เพราะผมนี่แหละ พบว่าการเพิ่มเป้านี่มันแปลกมาก อย่างเมื่อกฐินปีที่แล้ว สร้างหลังคามหารัตนวิหารคด เบื้องต้นผมตั้งใจทำสุดกำลังด้วยเป้าจำนวนหนึ่ง แต่ต่อมาพอมีเงินเข้ามาในธุรกิจเพิ่มขึ้น ก็ตัดสินใจเพิ่มเป้าขึ้นเรื่อยๆทันที ทั้งๆที่บุญนั้นก็ทำเต็มที่ไปแล้ว และพอมีเงินเข้ามาอีกก็ทำเพิ่มอีก มากกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้เยอะมาก
พอมาปีนี้บุญส่งผล ทำให้ธุรกิจของผมเติบโตแบบพุ่งพรวดพราดเป็นทวีคูณ มากกว่าเป้าที่ตั้งใจไว้เรื่อยๆ อย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆที่ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แบบนี้ บางธุรกิจนอกจากไม่โตแล้วยังแถมเจ๊งไปเลย แต่ผมกลับโตเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ไปเรื่อยๆ จนต้องขยายโรงงานเพิ่มอีก 2โรงงาน ภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ก็เพราะอานิสงส์การเพิ่มเป้า และทำบุญจนสุดกำลังแบบนี้แหละครับ
ซึ่งนี่...ก็ใกล้วันงานทอดกฐินเข้าไปทุกทีแล้วนะครับ เป็นโค้งสุดท้ายที่เราจะได้มาทำบุญใหญ่กับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ อย่าพลาด โอกาสที่เราจะออกแบบชีวิตให้รวยนะครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์