ตักบาตรพระ ทุ่งธารตะวัน

และแล้ว วันที่ชาวโลกรอคอยก็ได้มาถึง เมื่อพิธีตักบาตรพระ 11,000กว่ารูป ได้เกิดขึ้น ณ ทุ่งธารตะวัน จังหวัดลพบุรี เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2551 ที่ผ่านมา และต้องบอกว่าพิธีตักบาตรครั้งนี้ เป็นพิธีตักบาตรที่ทุกคนทั่วโลกต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย เพราะเป็นพิธีตักบาตรครั้งแรกของโลกที่เกิดขึ้น ณ ทุ่งธารตะวัน แถมยังมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น ณ ทุ่งธารตะวันแห่งนี้อีกด้วย นั่นก็คือ ต้นทานตะวันที่เล็กที่สุดในโลก (มีความสูงเพียง 1คืบ) ซึ่งสามารถผลิกลีบแย้มบาน อวดสีเหลืองทองอร่ามสู้แสงตะวัน ให้ผู้มีบุญจำนวนมากได้เห็นกันแบบไม่มีเขินอายกันเลย

งานนี้ก็ต้องบอกว่า ปลื้มกันสุดๆทั้งพระทั้งโยม เพราะพุทธบุตรจำนวน 11,000กว่ารูป ทั้งฝ่ายมหานิกายและฝ่ายธรรมยุต ท่านได้เดินทางมาเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว จาก 10กว่าจังหวัด พร้อมใจกันเดินทางมาเป็นเนื้อนาบุญในงานตักบาตรครั้งนี้ จนทำให้เก้าอี้ที่เตรียมไว้กว่าหมื่นตัว ถึงกับไม่พอรองรับ ต้องปูซาแลนเพิ่ม เพื่อเป็นพื้นที่นั่งให้กับพุทธบุตรกันเลยทีเดียว

ส่วนผู้มีบุญก็ไม่น้อยหน้า เดินทางกันกันมาแบบสว่างฟ้าสว่างดิน บางท่านเดินทางมาจับจองพื้นที่นั่งกันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังหลับใหล ไก่ยังไม่โห่กันเลยทีเดียว ไม่ถึงตีห้าผู้มีบุญก็มาจับจองพื้นที่นั่งกันเต็มแล้ว ทั้งพุทธบุตรและญาติโยมต่างเดินทางกันมาแบบไม่ขาดสาย หลั่งไหลกันมาแบบเยอะมากๆ เยอะขนาดที่ว่ารถติดเป็นระยะทางยาวถึงหนึ่งโยชน์ (16กิโลเมตร)

แม้แต่ ประธานจัดงานตักบาตร คู่พระคู่นางอย่าง ดร.กฤษฎา และ คุณทัศนีย์ จ่างใจมนต์ ท่านยังสละรถเบนซ์คันงาม โบกมอเตอร์ไซค์รับจ้างรีบบึ่งมาร่วมงานตักบาตรกันเลย และงานนี้ ดร.K (ดร.กฤษฎา) ถึงกับอึ้ง...ทึ่ง นึกไม่ถึงเลยทีเดียวว่า ที่ดินซึ่งท่านได้ถวายให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จะได้กลับกลายมาเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ต่างหลั่งไหลมาตักตวงบุญในวันนี้กันอย่างล้นหลาม ทำให้ท่านทั้งปลื้มทั้งปีติใจเป็นอย่างมาก ภาพงานในวันนี้ ทำให้ท่านพูดได้คำเดียวว่า “สุดคุ้มจริงๆ ครับ”

ทางด้านประธานฝ่ายสงฆ์ พระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ท่านก็ปลื้มสุดๆไม่แพ้กัน ได้กล่าวถึงวันประวัติศาสตร์วันนี้ว่า “ตั้งแต่อาตมาเกิดมาจนอายุ 71ปี วันนี้เป็นวันที่อาตมามีความสุขที่สุด เป็นวันที่อาตมาปลื้มใจและประทับใจจริงๆ บอกได้เลยว่าเกิดมาแล้วไม่เสียชาติเกิด และต้องขอขอบคุณคุณครูไม่ใหญ่ที่ท่านได้คอยเป็นกำลังใจ และให้การสนับสนุนจนวันนี้เป็นจริงขึ้นมาได้”

ภาพงานตักบาตรในวันนี้ เป็นภาพที่ทั้งพุทธบุตรและผู้มีบุญจำนวนกว่าครึ่งแสน ที่มาจากทุกสารทิศทั่วไทย จากเหนือจรดใต้ต่างก็ไม่พลาดที่จะมาร่วมงานในครั้งนี้ บางท่านมาจากจังหวัดนราธิวาส บางท่านมาจากจังหวัดเชียงใหม่ ทุกท่านที่มาร่วมงานตักบาตรในครั้งนี้ ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มางานนี้คุ้มจริงๆ ปลื้มใจมากๆ ไม่เคยเห็นงานตักบาตรท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวัน ที่มีทั้งพระทั้งโยมมาร่วมงานตักบาตรกันได้เยอะขนาดนี้ เห็นแล้วก็ปลื้ม แถมบรรยากาศยังเป็นใจ อากาศเย็นสบายมากๆ ไม่ร้อนเลยแม้แต่น้อย

ยังมีหลายต่อหลายท่านเรียกร้องมาว่า ถ้าจัดงานตักบาตรอย่างที่ทุ่งธารตะวันนี้อีกเมื่อไร ให้บอกเลย จะไม่พลาดอย่างแน่นอน มาแล้วสุขทั้งกายทั้งใจ สุดคุ้มจริงๆ

หลังจากที่ปลื้มกับพิธีตักบาตรในช่วงเช้าไปแล้ว ก็ไปปลื้มกันต่อกับพิธีมุทิตาสักการะแด่ พระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และ พระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เนื่องในวาระที่ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ โดยมี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ มาเป็นประธานในพิธี ซึ่งสมเด็จฯวัดปากน้ำภาษีเจริญ...ท่านได้กล่าวความในใจว่า...

งานวันนี้ ท่านชื่นใจมากๆ ที่ได้เห็นพุทธบุตรจำนวนเป็นหมื่นๆรูป หรือนับไปนับมาก็หลายๆหมื่นรูปในวันนี้ และท่านยังบอกอีกว่า ท่านไม่ได้ชื่นใจแค่งานตรงนี้ แต่ท่านชื่นใจตั้งแต่ที่ถนนข้างนอกโน้นแล้ว เพราะว่ารถติดมาก ซึ่งการที่รถติดแบบนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า วัดพระธรรมกายจัดงานที่ไหน ก็ล้วนเป็นงานใหญ่หมด จัดงานเล็กไม่เป็น จัดงานเล็กไม่ได้ต้องจัดใหญ่ และก็ขออนุโมทนากับวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่ได้จัดงานในครั้งนี้

ซึ่งงานมุทิตาสักการะในครั้งนี้เรียกได้ว่า สุดคุ้มคูณสองจริงๆ และสุดคุ้มคูณสาม ก็เริ่มต้นขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นพิธีมุทิตาสักการะแล้ว นักชิมทั่วประเทศก็ได้อิ่มอร่อยกันสุดๆกับร้านอาหารเลิศรส ที่นำมาออกร้าน 30กว่าร้าน และอีกหนึ่งสีสันของการออกร้านในวันนี้ก็คือ ส้มตำครกยักษ์ ที่อวดฝีไม้ลายมือการตำกันแบบมันสุดขีด แถมยังแซ่บอีหลีอีกต่างหาก เรียกได้ว่างานนี้กินไปย่อยไป เพราะเสร็จจากร้านนี้ก็เดินไปต่อร้านโน้น ทั้งของคาวของหวานมีให้เลือกกันแบบไม่ซ้ำ

พออิ่มอร่อยกับอาหารมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มเข้าสู่สุดคุ้มคูณสี่กันเลย นั่นก็คือ พิธีทอดผ้าป่าขยายธรรมสภา โดยมี พระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และ พระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นประธานสงฆ์ งานนี้เรียกได้ว่า Alert…กันสุดๆ ญาติโยมได้ร่วมกันมุทิตาสักการะท่านเจ้าคณะจังหวัดทั้งสองรูป ทีมงานแอบเห็นพระเดชพระคุณทั้งสอง ท่านนั่งอมยิ้มกันตลอดทั้งงานเลย ทำให้ญาติโยมได้เห็นแล้วก็ถึงกับยิ้มไม่หุบเช่นกัน

หลังจากนั้น ก็เข้าสู่ช่วงสุดคุ้มคูณห้า นั่นก็คือ ช่วงบุคคลยุคต้นวิชชา ศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯทั้ง 4รูป รุ่นเต้าหู้ยี้...มะละกอดอง เปิดใจถ่ายทอดเรื่องราวสมัยที่ท่านได้อยู่กับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ทุกคนต่างตั้งใจฟังกันแบบกันแบบหูผึ่งกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเก็บทุกรายละเอียดไม่ให้มีการตกหล่นเลยแม้แต่น้อย

ปิดท้ายด้วย ไฮไลท์สุดคุ้มคูณหกของงาน คือ พิธีปล่อยโคมลอยดอกฟ้าทานตะวัน ซึ่งพิธีในภาคค่ำนี้สวยงาม อลังการมากๆ ทุกคนล้วนบอกว่า ดีใจมากๆที่ได้อยู่ร่วมงานถึงช่วงเวลานี้ เพราะว่าตั้งแต่ไปร่วมงานปล่อยโคมลอยมา ไม่เคยเห็นโคมลอยที่ไหนสวยงามเท่าโคมลอยดอกฟ้าทานตะวัน ภาพของโคมลอยสีเหลืองเรืองรอง ลอยเด่นอร่ามทั่วท้องทุ่งดอกทานตะวัน เป็นภาพบรรยากาศที่สวยมากๆ แถมยังมีพลุจำนวนมากหลากหลายสีสัน ที่ช่วยแต่งแต้มท้องฟ้าขับความงามของโคมลอยให้งดงามติดตา ตรึงใจ ไม่มีวันลืมเลือน ซึ่งใครไม่ได้มาในวันนี้หรืออยู่ไม่ถึงช่วงเวลานี้ ก็อยากจะบอกว่า แหม..เสียดายจัง