ปวาเก่อญอ ตะวันบนดอย ตอน พลังใจสู้สายฝน
 
    กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่เคารพยิ่ง กระผม พระพิศาลประชานุกูล อาศรมธรรมจาริกแม่สลิดหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตากครับ
 
 
    ก่อนอื่น กระผมขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และขออนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรทั่วโลกเป็นอย่างยิ่งครับ ที่ได้เมตตาส่งเครื่องอุปโภคบริโภค มาร่วมบุญการขุดถนน อีกหนึ่งคันรถสิบล้อในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นคันที่3 แล้วครับ โดยมี นายแพทย์พรชัย พิญญพงษ์ และกัลยาณมิตรจังหวัดตาก มาเป็นผู้แทนมอบ ทำให้พี่น้องชาวปวาเก่อญอยิ่งทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการขุดถนนกันอย่างเต็มที่ครับ ในสัปดาห์นี้กระผมจะขอถวายรายงานความคืบหน้าของการขุด ถนนพุทธวิถี ครับ
 
 
    ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ ที่เราพี่น้องชาวปวาเก่อญอทุกคนรอคอยครับ เพราะเป็นวันที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เมตตาให้ผู้แทน คือ ท่านพระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญฺโญ และกัลยาณมิตร พลอากาศเอกวีระวุธ ลวะเปารยะ พร้อมทั้งคณะสงฆ์และกัลยาณมิตรอีกกว่า 30ท่าน มาเป็นผู้แทนเดินทางมาประกอบ พิธีมหามงคลลงจอบสุดท้าย เปิดถนนพุทธวิถีสายที่สอง ครับ
 
    พร้อมกันนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตา มอบจอบเงินจอบทองมหามงคล เพื่อนำมาใช้ในพิธีด้วย กระผมและคณะมีความรู้สึกปีติใจเป็นอย่างยิ่ง ในความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่มีต่อคณะพระธรรมจาริก และชาวปวาเก่อญอเสมอมา กระทั่งในที่สุดเราสามารถเชื่อมถนนพุทธวิถีกับถนนที่ทางการขุดได้เป็นที่เรียบร้อย ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีพี่น้องชาวปวาเก่อญอ 300กว่าคน เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมลงจอบสุดท้ายเปิดถนนพุทธวิถี สายที่สองนี้ รายละเอียดของภาพงานวันชิตังเม กระผมจะอนุญาตกราบถวายรายงานในคราวต่อไปนะครับ
 
 
    สำหรับในจดหมายฉบับนี้ กระผมขออนุญาตกราบถวายรายงานย้อนกลับไปต่อจากคราวที่ผ่านมาครับ คือ ในช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์  ณ บริเวณขุดถนนประมาณกิโลเมตรที่9-10 ได้มีสถานการณ์ที่เราไม่คาดฝันเกิดขึ้น คือ เกิดพายุฝนหลงฤดู มาทดสอบกำลังใจของพี่น้องชาวปวาเก่อญอ แต่สายฝนนั้นไม่ได้เป็นปัญหา เราชาวปวาเก่อญอยังคงมาขุดถนนตามปกติครับ แม้บางครั้งฝนจะตกหนักกระทั่งช่างภาพจาก DMC บอกว่า กล้องพังไม่สามารถบันทึกภาพได้ เพราะอากาศชื้นมาก ต้องลงจากดอยเพื่อมาติดต่อขอกล้องขึ้นไปถ่ายใหม่
 
 
    เพื่อให้พี่น้องชาวปวาเก่อญอที่มาขุดถนนได้รับบุญเต็มที่ กระผมจึงได้ให้พระธรรมจาริกที่มาช่วยดูแลการขุดถนน ได้นำพี่น้องชาวปวาเก่อญอสวดมนต์ นั่งสมาธิ เป็นประจำทุกวัน แม้ในวันฝนตกพี่น้องชาวปวาเก่อญอยังคงมาสวดมนต์ นั่งสมาธิกัน ท่ามกลางสายฝน แต่จะกระจายตัวเป็นจุดๆตามเพิงหลังคาใบไม้บ้าง ใต้เต็นท์กลางที่เป็นที่พักของพระธรรมจาริกบ้าง ใต้ร่มไม้บ้าง
 
 
 
    ซึ่งการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้หลายๆคนได้พบความสงบสุขภายใน และมีเด็กสาวคนหนึ่งที่มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี คือ นางสาวพอใจ สาธิตบุญ เธอเล่าให้ฟังว่า นั่งสมาธิแล้วใจสงบมีความสุข เธอทำใจเฉยๆ แล้วเห็นดวงจันทร์สว่างใส ขึ้นมา เห็นแล้วมีความสุขมาก
 
 
 
    หลายท่านสงสัยว่า แล้วกระผมทราบว่าเส้นทางที่จะขุดนั้นเป็นทางไหน เส้นทางที่ขุดนั้นได้ท่านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทีโปะคี ท่านชื่อว่า คาพอ วนารสี เป็นผู้กำหนดเส้นทางครับ โดยใช้เส้นทางเดินเท้าที่ชาวบ้านเดินตามปกติ มาขยายเส้นทางให้กว้างขึ้น กระผมและทีมงานจึงได้ให้ท่าน นำไปสำรวจพื้นที่โดยรอบของเส้นทาง
 
 
 
    เราได้ออกเดินเท้า ขึ้นลงดอยไปได้ประมาณชั่วโมงครึ่ง ประมาณกิโลเมตรที่13-14 ต้องหยุดเดินเพราะ เราได้พบสิ่งที่ไม่คาดว่าจะได้พบเห็น คือ ต้นฝิ่นที่มีคนแอบมาปลูกไว้ บนเนื้อที่ประมาณหนึ่งไร่เศษ เป็นต้นที่ยังไม่โตนัก ทีมงานเราจึงทำการบันทึกภาพไว้ ต่อมาเมื่อเราขุดถนนไปถึงจุดนี้ปรากฏว่า ต้นฝิ่นเหล่านี้ถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว ทราบมาว่าเจ้าของเลิกปลูกครับ ซึ่งนี่ก็เป็นผลดีที่ถนนไปถึงครับ
 
 
 
    ถนนที่ขุดไปเชื่อมต่อกับถนนจากอำเภออมก๋อยนั้น เนื่องจากทีมงานเราเร่งเวลาจะให้ทันกำหนดหนึ่งเดือนและพี่น้องชาวปวาเก่อญอ จะต้องไปทำไร่ จึงทำให้ถนนที่เราขุดมานั้น เป็นเพียงถนนลำลอง มีความกว้างประมาณ 3-4เมตร เพียงแค่ให้รถเพียงหนึ่งคัน ผ่านไปได้เท่านั้น
 
    ส่วนการขยายถนนนั้น เนื่องจากช่วงนี้ชาวปวาเก่อญอจะทำไร่กันครับ หากทำไร่เสร็จ ก็จะมาลุยเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น 100คนหรือ 1,000คนก็ได้ เพราะทุกคนมีใจที่จะมาช่วยกันขุดถนนอยู่แล้ว ขอเพียงแค่มีรถรับส่งก็ O.K. แล้วครับ เพราะว่าระยะทางจากบ้านมาถึงที่ขุดถนนก็ราวๆ 30-40กิโลดอย บางคนก็กว่า 60กิโลดอย ถ้าเดินมาก็ใช้เวลา 3-4วันกว่าจะมาถึงครับ แต่ถ้ามีรถรับส่ง ชาวปวาเก่อญอสู้เต็มที่ ถึงไหนถึงกันครับ
 
    เมื่อเร็วๆนี้ได้มีกัลยาณมิตรจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับชมภาพการขุดถนน จึงอยากมาชมด้วยตนเอง กัลยาณมิตรท่านนั้นได้มาเล่าให้กระผมฟังว่า เขาได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปบนดอย เพื่อจะไปยังจุดขุดถนน แต่ขับไปไม่ถึงครึ่งทาง ต้องเปลี่ยนใจ
 
เขาเล่าว่า “ผมมองไปทางซ้ายก็เหว ทางขวาก็เหว มีแต่ต้นหญ้าเป็นแผงกั้น เลยเปลี่ยนใจขอ กลับดีกว่า แต่เมื่อจะกลับก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะขับมอเตอร์ไซค์ลงดอยได้หรือไม่ ในที่สุดจึงได้ให้พี่น้องชาวไทยภูเขา ที่ขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นลงดอยเป็นปกติมาช่วยขับให้ จึงลงจากดอยมาได้ครับ”
 
    สุดท้ายนี้ กระผมอยากจะกราบเรียนว่า ถ้าไม่ได้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ  ถนนเส้นนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะอีกซักกี่สิบปีถึงจะสร้างเสร็จ กระผมยังจำได้ ในตอนแรกๆที่กระผมชวนชาวบ้านมาขุดถนน
 
ชาวบ้านบอกว่า “จะทำได้หรือ...หลวงพ่อจะหาอาหารจากไหนมาเลี้ยงพวกเรา”
กระผมก็ตอบไปว่า “เดี๋ยวหลวงพ่อธัมฺมชโยจะมาช่วยพวกเราทำถนน”
เขาก็บอกว่า “จะมาจริงๆหรือ”
 
    ที่ชาวบ้านถามเช่นนี้ก็เพราะว่า ในสมัยที่กระผมทำถนน 100กว่ากิโลเมตรที่ผ่านมา กว่ากระผมจะหาอาหารมาเลี้ยงชาวบ้านที่ทำถนนได้ ต้องใช้เวลาเป็นแรมปี หลายๆปี เก็บเล็กผสมน้อยมาเรื่อยๆ กว่าจะได้มาซักหนึ่งคันรถก็แสนจะลำบาก บางครั้งกระผมบอกบุญไปปีนี้ กว่าของจะมาก็ปีหน้า บางคนก็บอกว่า “เอาไว้ก่อนเศรษฐกิจไม่ดี”
 
    แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เมตตานำมาให้พวกเราจริงๆ เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็นำมาให้ตั้ง 3คันรถสิบล้อแล้วครับ กระผมและพระธรรมจาริกพร้อมทั้งพี่น้องชาวปวาเก่อญอ รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากจริงๆครับ เหนือที่จะพรรณนามา ณ ที่นี้ได้ ที่ได้เมตตาช่วยเหลือชาวดอยอย่างพวกเรา
 
    กระผมไม่เพียงแต่จะขอหยัดสู้ ยืนเคียงคู่ชาวปาเก่อญอสร้างถนนให้สำเร็จเท่านั้น แต่จะขอเผยแผ่พระพุทธศาสนา นำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สู่ใจชาวดอยทุกคนครับ
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ
 
พระพิศาลประชานุกูล
อาศรมธรรมจาริกแม่สลิดหลวง
อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
 

Scoop พิเศษ ตะวันบนดอย ตอน พลังใจสู้สายฝน
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/Thailand_Pwageryor_05.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 16:34
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv