ข่าวสว่างเพื่อการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
เด็กดี V-Star สิงห์สมุทร ผสานความร่วมมือกับชุมชน
บอกโทษภัยสิ่งมึนเมา สร้างโครงการใหญ่ในอนาคต

    หลายท่านคงจะคุ้นเคยกันดี กับชื่อโรงเรียนสิงห์สมุทร จ.ชลบุรี ที่ได้สร้างชื่อเสียงด้านคุณธรรมและคว้ารางวัลต่างๆมากมาย อาทิ รางวัลโล่เกียรติยศ โครงการสอบตอบปัญหาธรรมะ “ทางก้าวหน้า” ที่ทางโรงเรียนเข้าร่วมสอบมาตั้งแต่ “ทางก้าวหน้า ครั้งที่ 2” จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 26 ปี       และล่าสุดในโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก (V-Star) เด็กดี V-Star สิงห์สมุทร  เป็นผู้นำนักเรียนทั้งโรงเรียนจำนวน 4,000 คน ทำโครงการ “บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน” กันอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายทั้งบ้าน วัด โรงเรียน และชุมชน

คุณครูสมพงษ์ หุ่นสะดี คุณครูผู้ประสานงานโครงการ  V-Star 

ร.ร.สิงห์สมุทร  จ.ชลบุรี

 

คุณครูสมพงษ์ หุ่นสะดี คุณครูผู้ประสานงานโครงการ V-Star ร.ร.สิงห์สมุทร  จ.ชลบุรี เล่าว่า “หลังจากที่ผมได้ทราบว่าหลวงพ่อมีโครงการ “บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน” ซึ่งเป็นโครงการที่ดีมากๆที่ช่วยเยาวชนได้จริง หลวงพ่อมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมากๆ เพราะว่าโครงการนี้ถ้าทำคนสองคนจะไม่มีผล ไม่มีพลัง ดังนั้นโรงเรียน V-Star ที่ทำกันทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ก็จะมีผลถึงภาพใหญ่ของประเทศ ทำให้เด็กดี V-Star พ่อแม่ ผู้ปกครอง ประชาชน ได้เห็นโทษภัยของสิ่งมึนเมา เช่น เหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาเสพติด      ผมจึงได้นำมาประชุมปรึกษาหารือกับผู้บริหาร คุณครูในหมวดสังคม และคุณครูทั้งโรงเรียน ปรากฏว่าคณะครูทุกคนเห็นด้วยกับโครงการนี้ 100 % ครับ โดยคุณครูประจำชั้นทุกห้องเรียนและครูสอนศีลธรรม ได้นำกิจกรรมนี้เข้าไปในวิชาพระพุทธศาสนา มีการวัดผล และให้คะแนน โดยให้เด็กทั้งโรงเรียนตั้งแต่ ม.1-ม.6 ประมาณ 4,000 คนได้เขียนโทษภัยของสิ่งมึนเมา มาคนละ 30-50 ข้อ รวมทั้งวิธีการแก้ไขให้บอกมาอีก คนละ 5 ข้อ และให้มีการนำเสนอหน้าชั้นเรียนทุกห้องเรียน โดยจะไม่ให้เขาเขียนคนเดียวนะครับ แต่ให้ไปปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านด้วย ให้ร่วมด้วยช่วยกัน ดังนั้นจึงมีครอบครัวประมาณ 4,000 ครอบครัว ที่ได้ร่วมกันทำกิจกรรมนี้กับลูก ทำให้โรงเรียนของเราได้จำนวนของโทษภัยของสิ่งมึนเมา ที่เป็นข้อมูลดิบจำนวนมากถึง 120,000 ข้อ ซึ่งเมื่อนำมาวิเคราะห์และตัดข้อซ้ำออก ก็น่าจะได้ไม่ต่ำกว่าร้อยข้อแน่นอนครับ

นอกจากนี้เด็กดี V-Star ทั้ง 270 คน ได้ไปขอความรู้จากผู้ใหญ่ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งเจ้าอาวาสวัดสัตหีบ วัดช่องแสมสาร วัดเขาพลอย และกราบนิมนต์ท่านเทศน์สอนเกี่ยวกับโทษภัยของสิ่งมึนเมา เช่น เหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาเสพติด ให้กับญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในวันพระ

ส่วนการเชื่อมเครือข่ายกับชุมชน เด็กดี V-Star ก็ได้ไปขอความรู้จาก อบต. เทศบาลเมืองสัตหีบและยังขอความร่วมมือกับท่านในการแจกเอกสารแบบสอบถามโทษภัยของสิ่งมึนเมา รวมทั้งวิธีแก้ไข ให้กับประชาชนในการดูแลของท่านอีกด้วย ที่สำคัญ ก็คือ การออกไปขอความรู้จากชาวบ้านในชุมชนของกลุ่มเด็กดี V-Star ที่บุกตะลุยทำหน้าที่กันเต็มที่ครับ โดยเด็กดี V-Star ได้ขอความร่วมมือจากทางโรงพยาบาลหลายแห่งของสัตหีบ เพื่อขอข้อมูลทางด้านวิชาการเรื่องโทษภัยของสิ่งมึนเมา ซึ่ง ก็ได้ความรู้กลับมากันมากมายครับ และยังได้ไปขอความรู้ จากโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ฝึกอบรมของผู้ที่ติดยาเสพติดของกองทัพเรือ เด็กดี V-Star ได้สัมภาษณ์จากคนที่ติดยาเสพติดอีกด้วย 

 

 

เหล่าเด็กดี V-Star ร.ร.สิงห์สมุทร จ.ชลบุรี กำลังกราบขอความรู้
เรื่องโทษภัยของสิ่งมึนเมา  จากท่านเจ้าอาวาสวัดในชุมชนของสัตหีบ

 

เหล่าเด็กดี V-Star  ร.ร.สิงห์สมุทร
ขอความรู้จากผู้ใหญ่ ที่องค์การบริหารส่วนตำบล

 
 

ความรู้ทางด้านวิชาการเกี่ยวกับโทษภัยของสิ่งมึนเมา ได้มาจากที่โรงพยาบาล
 ในชุมชนของสัตหีบ ที่เหล่าเด็กดี V-Star ร.ร.สิงห์มสุทร ไม่พลาดไปขอความรู้

 

 

โครงการนี้มีองค์กรหลายภาคส่วนที่ทำงานร่วมกัน และได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี หลายที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “สุดยอดๆ” เมื่อไปที่โรงพยาบาล ตอนแรกเขาก็งงๆครับ  เพราะไม่เคยเห็นโครงการแบบนี้ ต่างบอกว่าเป็นโครงการที่ดีมากๆ อยากให้ทำในประเภทประชาชนด้วย ในส่วนของอบต. ก็ชื่นชอบโครงการนี้มากๆ และอยากจะให้มีโครงการนี้ในทุกๆ อบต.ทั่วประเทศ เพราะขนาด ฟุตบอล อบต. ยังมีทุกที่เลยครับ และผลที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการนี้ อย่างน้อยก็เป็นการตอกย้ำลงไปในจิตสำนึกของคนมากมาย และทำให้มีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหลายคนที่เลิกสิ่งมึนเมาได้  อย่างน้อยๆ 4,000 ครอบครัว ก็ยังได้คิด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น มันเหมือนเป็นระเบิด ที่จุดประกายให้เกิดการตื่นตัวกันมากยิ่งขึ้น ทำไปทำมาโครงการนี้กลายเป็นโครงการที่ใหญ่มากเพราะว่าเรื่องของเหล้าบุหรี่ ยาเสพติดเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อันตรายมาก เป็นที่มาของการขาดศีลธรรม และเป็นต้นเหตุของความเสียหายทุกๆอย่าง  จริงๆแล้วโครงการนี้ควรจะเป็นเรื่องของรัฐบาล ที่จะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของบริษัทค้าสิ่งมึนเมาทั้งหลาย ซึ่งวันนี้เราก็ได้ต่อสู้กันมาพอสมควรแล้ว อย่างที่จะมีการนำบริษัทน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะในขณะนี้สิ่งมึนเมาถือเป็นปัญหาหนักหน่วงของสังคมไทย ที่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยควรหันมาช่วยกันหาแนวทางแก้ไข”

    ทางด้าน น.ส.ธันยาภรณ์  จุลศักดิ์ หรือน้องมายด์ อายุ 17 ปี ชั้น ม. 5  เด็กดี V-Star ร.ร.สิงห์สมุทร เล่าว่า “หนูเป็นคณะกรรมการชมรมV-Star Club ของโรงเรียน หนูทำโครงการบอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน โดยการไปขอความรู้จากผู้ใหญ่ในชุมชน คือ โรงพยาบาล วัด และอบต.ค่ะ ทุกๆที่   ที่หนูได้ไปขอความรู้ ก็จะให้ข้อมูลดีๆ มาทั้งนั้นเลยค่ะ ซึ่งหลายที่ก็บอกว่าจะนำไปขยายผลต่อด้วยค่ะ

น.ส.ธันยาภรณ์  จุลศักดิ์ หรือน้องมายด์ อายุ 17 ปี ชั้น ม. 5  เด็กดี V-Star  ร.ร.สิงห์สมุทร
กับโล่รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ การสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า ครั้งที่ 25

การที่หนูไปขอความรู้จากผู้ใหญ่ หนูสามารถทำให้คนเลิกดื่มเหล้าได้ด้วยนะคะ คนๆนั้น คือ คุณพ่อของหนูเอง โดยเริ่มมาจากที่ตัวหนูเองได้สอบตอบปัญหาธรรมะ“ทางก้าวหน้า” แล้วก็เข้ามาเป็นเด็กดี V-Star จนกระทั่งได้เป็นคณะกรรมการ V-Star Club จากจุดเริ่มต้นตรงนี้ ทำให้หนูมีสิ่งดีๆที่ได้จากการได้ศึกษาธรรมะไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง จนกระทั่งหนูได้รับรางวัลชนะเลิศประเภททีม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ในการสอบตอบปัญหาธรรมะ “ทางก้าวหน้า” ครั้งที่ 25 เมื่อปี พ.ศ.2550 ที่ผ่านมา เมื่อหนูได้รับรางวัล คุณพ่อของหนูก็เลิกดื่มเหล้าไปสักพักหนึ่งค่ะ เพราะพ่อเห็นคนทั้งสภาธรรมกายสากล ปรบมือให้หนู ยกย่องว่าหนูเป็นเด็กดี ต่อมาพ่อก็ยังกินอยู่บ้างค่ะ เมื่อมีโครงการบอกโทษเกินร้อยนี้ หนูก็เลยไปปรึกษากับพ่อจริงๆจังๆในเรื่องโทษของเหล้า หนูก็เริ่มต้นด้วยการขอความรู้จากพ่อก่อนค่ะ แล้วเมื่อคุณพ่อบอกมา ก็ทำให้ท่านหยุดคิดไปพักหนึ่งแล้ว    พ่อก็บอกหนูว่า “ลูกมาถามขนาดนี้แล้ว ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ดี ก็คงต้องเลิกเด็ดขาดแล้วล่ะ” ตอนนี้คุณพ่อหนูก็เลิกเหล้าแล้วค่ะ และยังเข้าวัด ทำบุญ และนั่งสมาธิด้วยค่ะ ตอนนี้ครอบครัวของหนูไปวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนเลยค่ะ  ก่อนนอนจะนั่งสมาธิด้วยกัน และจะฟังหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ทางช่อง DMC ทุกวันด้วยค่ะ

       หนูคิดว่าการแก้ไขปัญหาสิ่งมึนเมาเราจะต้องเริ่มที่การปลูกฝังคุณธรรมให้กับเยาวชนค่ะ ซึ่งเยาวชนจะขยายผลไปถึงผู้ปกครอง ต้องสร้างครอบครัวให้อบอุ่นค่ะ แล้วจะมีผลต่อสังคมไปเรื่อยๆ แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลานาน ถ้าจะให้เร็วกว่านี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องของรัฐบาล รัฐบาลน่าจะทำโฆษณาโทษภัยของสิ่งมึนเมาเหล่านี้ให้มากขึ้น ทำเหมือนอย่างที่วัดพระธรรมกายทำเพื่อให้ประชาชนได้เห็นโทษจริงๆค่ะ หนูคิดว่าถ้ารัฐบาลห้ามผลิตเลยก็ดีนะคะ ถ้าทำได้ ก็จะเป็นผลดีมาก ดีที่สุดเลยค่ะ แต่อาจจะทำได้ยาก คงจะมีคนคัดค้านเพราะว่าเขาเสียประโยชน์ เหมือนบริษัทน้ำเมาที่กำลังจะเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ ถึงแม้เราจะไปต่อต้านเขาก็ยังจะเอาเข้าให้ได้

หนูขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อนะคะ ที่ได้ดำริโครงการดีๆให้พวกหนูได้มีโอกาสเข้าร่วม ได้มีคุณธรรมในตัวมากยิ่งขึ้น และได้เป็นเด็กดีตัวอย่างให้กับเยาวชนทั่วโลกค่ะ”