พุทธบุตรธรรมยาตราได้สมาทานธุดงควัตร 2 ข้อ คือ เอกาสนิกังคะ สมาทานองค์แห่งผู้ถือการนั่งฉัน ณ อาสนะเดียว นั่นคือท่านจะฉันภัตตาหารมื้อเช้าเพียงมื้เดียว เพื่อนำเวลาที่เหลือจากการฉันไปฝึกฝนอบรมตนในกิจวัตรกิจกรรมต่างๆ
และสมาทานธุดงควัตรข้อ ยถาสันถติกังคะ คือ สมาทานองค์แห่งผู้ถืออยู่ในเสนาสนะตามแต่ที่เขาจัดให้ คือ เมื่อเดินธุดงค์จาริกไปถึงที่ไหน ท่านก็จะพักในสถานที่ตามแต่ที่เจ้าของสถานที่จะจัดสรรให้ เพื่อให้ไม่เป็นภาระต่อเจ้าของสถานที่ ทั้งยังฝึกฝนตนเองให้รู้จักพอใจเพียงพอในสิ่งที่ตนได้รับ
หลังจากจบโครงการอุปสมบทหมู่ฯแล้ว พระภิกษุทุกรูปได้มารวมกันสมาทานธุดงควัตร เข้าโครงการอบรมอย่างเข้มข้นทั้งร่างกายและจิตใจ ผ่านกิจวัตรต่างๆ
ภาพนี้พระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งกำลังตากผ้าให้เป็นระเบียบ เพราะผ้าจีวรของพระภิกษุหลายพันรูปที่นำมาตากรวมกัน หากตากไม่เรียบร้อยแล้ว ย่อมดูไม่งามตา และราวตากผ้าก็คงจะมีไม่พอใช้อีกด้วย
พุทธบุตรธรรมยาตราต้องฝึกฝนอบรมตนเองทั้งด้านปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ภาพนี้พุทธบุตรธรรมยาตรากำลังซ้อมบทสวดมนต์ให้จำได้คล่องปากขึ้นใจ ขณะสวดมนต์ก็ทำสมาธิตามเสียงสวดมนต์ด้วย
พุทธบุตรธรรมยาตราอยู่รวมกันจำนวนพันกว่ารูป เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการจัดการระบบระเบียบให้ดี
ภาพนี้เต็นท์หรือกลดที่พุทธบุตรท่านใช้จำวัตรวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เป็นแถวเป็นแนว
พุทธบุตรธรรมยาตรายังได้ฝึกฝนการอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนพันกว่ารูป ซึ่งการอยู่ร่วมกันจำนวนมากนั้น หากการจัดระบบระเบียบไม่ดีแล้ว จะทำให้เกิดความสิ้นเปลืองในการใช้สอยปัจจัย 4 เป็นอย่างมาก เช่น หากระบบการล้างภาชนะไม่ดี ก็จะทำให้สิ้นเปลื้องน้ำอย่างมาก ดังนั้นนอกจากฝึกทางด้านจิตใจแล้ว ท่านยังต้องฝึกทางด้านร่างกายด้วย คือ ฝึกเรื่องการใช้ปัจจัย 4 เช่น ฝึกฉันภัตตาหารในบาตรเพียงมื้อเดียว ฝึกดูแลเสนาสนะทั้งที่จำวัตร (ที่นอน) ดูแลผ้าจีวร การซักผ้าจีวร ตากผ้าจีวร ดูแลความสะอาดของห้องสุขา ห้องอาบน้ำ นั่นคือฝึกใช้ปัจจัยสี่อย่างรู้คุณค่าในสิ่งของที่ศรัทธาสาธุชนได้ถวายมา เพราะพุทธบุตรทุกรูปต่างตระหนักดีกว่า ท่านใช้ชีวิตอยู่บนสิ่งของที่ญาติโยมจบหัวมาแล้วทั้งสิ้น