ภัยพิบัติ น้ำเสียจากเรือน้ำตาลล่มที่อยุธยาไหลมาถึงปทุมธานี

กู้เรือน้ำตาลล่มยังไม่คืบ พบปลากระเบนราหูตายแล้ว 4 ตัว นักประมงชี้อาจจะเพิ่มขึ้นอีก ซ้ำปลาตายลามถึงกรุงเทพฯแล้วทหาร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตอกเสาเข็มบริเวณริมตลิ่งใกล้กลับจุดที่เรือบรรทุกน้ำตาลล่มในตำบลภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา เพื่อป้องกันบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งเสียหาย หลังกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศทางได้กัดเซาะตลิ่งลึกเข้าไปแล้วกว่า 1 เมตร ขณะที่ความพยายามในการกู้เรือวันที่ 5 ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนเจ้าพระยาทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูง และไหลแรงมากขึ้น แต่หากวันนี้ฝนไม่ตกลงมาสมทบอีก คาดว่าเจ้าหน้าที่จะลงมือกู้เรืออีกครั้งภายในช่วงเย็น โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมเรือยนต์ที่ใช้กู้ไว้ประมาณ 4-5 ลำ เพื่อรอสภาพอากาศเอื้ออำนวย จะสามารถลงมือกู้เรือที่ล่มได้ทันที

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทนง ทแกล้วทศพล ประมง จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากนายสุพจน์ ลำพัชวา นายอบต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้มีชาวบ้านพบซากปลากระเบนราหูเพศเมีย ขนาดกว้าง 1.88 เมตร ความยาว 4.15 เมตร น้ำกว่า 200 ก.ก. ตายลอยน้ำโดยมีหางโผล่ขึ้นมา ชาวบ้านได้ช่วยกันลากขึ้นฝั่ง โดยนายทนง กล่าวว่า ตั้งแต่เรือน้ำตาลล่ม เป็นเหตุให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขาดออกชิเจนทำให้ปลาขาดอากาศหายใจ จึงเป็นเหตุให้ปลาใหญ่ลอยตายจำนวนมาก และเฉพาะปลากระเบนหรือปลาราหูตัวนี้เป็นตัวที่ 4 แล้ว และยังคาดว่าอาจจะพบปลากระเบนเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่า พบปลาลอยตายในแม่น้ำเจ้าพระยาในอีกหลายจุดของกรุงเทพมหานคร อาทิเช่น ที่ริมน้ำหน้าวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ ท่าน้ำโรงเรียนวัดแจงร้อน เขตราษฎร์บูรณะ รวมไปถึงบริเวณท่าพระจันทร์ และท่าช้าง อีกด้วย