แก่ขึ้นอีกปีอย่างมีความสุข


แก่ขึ้นอีกปีอย่างมีความสุข
 
เรียบเรียงมาจากรายการ ทันโลก ทันธรรม
 


     ในต่างประเทศมีการนับอายุโดยนับจากวันขึ้นปีใหม่ ไม่ว่าคุณจะเกิดวันไหนเมื่อถึงวันปีใหม่ต้องนับอายุเพิ่มไปอีก 1 ปี อย่างไรก็ตามแต่เราไม่สามารถหยุดยั้งเวลาได้ ยังไงเราก็ต้องแก่ขึ้น แต่เราจะมาหาวิธีทำอย่างไรให้แก่อย่างมีความสุข เรื่องของสุขภาพจริงๆแล้วเป็นเรื่องสำคัญกว่าอายุ บางครั้งความตายไม่กลัวแต่กลัวความแก่ชรา ความเจ็บ เนื่องจากความแก่ไม่ได้มาจากอายุอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าประสบการณ์มากขึ้นอย่างเดียว แต่สุขภาพก็ถอยไปด้วยและหลายๆคนก็สัมผัสกับอาการที่เกิดขึ้นจากความเสื่อม เช่น จะลุก จะนั่ง ก็ไม่เหมือนเดิมกำลังวังชาก็ลดลง เพราะฉะนั้นเป็นที่มาว่าใครๆต่างพยายามหาว่าทำอย่างไรเราถึงจะสุขภาพดี โดยอายุที่ยืนยาวไปด้วยกันก็มีสุขภาพที่ดีไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองว่าอายุที่ผ่านไปเอาไว้สำหรับสร้างบุญ สร้างบารมี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องการอันดับหนึ่งคือความแข็งแรง ความสมบูรณ์ของร่างกาย ที่จะนั่งสมาธิได้ สร้างบุญเพิ่มได้ เพราะเราสามารถเปลี่ยนเวลาเป็นบารมีได้ บางคนอายุเท่ากันแต่ความแข็งแรงไม่เท่ากัน ปัจจัยที่ทำให้แข็งแรงไม่เท่ากัน คือในส่วนของความเสื่อมที่เพิ่มขึ้น เสาหลักของการรักษาหรือชะลอความเสื่อม

การชะลอความเสื่อมของร่างกาย 5 ประการ ได้แก่
 
     1.ทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ  ยกตัวอย่างเฉพาะส่วนที่สำคัญ เช่น เราต้องทานประมาณ 8 ส่วนคือทาน 4-5 คำจะอิ่มก็ให้หยุดเสียก่อน ในต่างประเทศมีงานวิจัยที่เรียกว่า Caloric restriction การจำกัดแคลอรี่ที่ทานต่อวัน หมายถึงในหนึ่งวันต้องทานไม่เกินปริมาณที่กำหนด แล้วจะทำให้อายุยืนเพราะเซลล์ของร่างกายปรับเปลี่ยนให้อยู่ในโหมดของการที่ยืดไป ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ทานมากเกินไปพลังงานมากเกินไปทำให้อายุสั้น เราให้อาหารตัวเองมากเกินไปไม่ดีร่างกายเราจะแย่ การทานอาหารให้มีความหลากหลายในทางสารเคมีตามธรรมชาติที่เรียกว่า ไฟโตรเคมี ที่เป็นชีวเคมีตามธรรมชาติ คือ การทานอาหารให้ครบ 5 สี เช่น ถ้าเราทานไข่เจียวควรจะใส่ แครอท มะเขือเทศ พริกหวาน หอมใหญ่ หรือเป็นแกงจืดสาหร่าย ที่มีสีแดง สีดำ สีเขียว ญี่ปุ่นมีวิธีจัดอาหารวางอาหารให้น่าทาน โดยใช้ส่วนประกอบตามธรรมชาติ จัดเรียงทำให้ผู้บริโภคได้รับอาหารครบถ้วนและหลากหลาย นอกจากนี้การทานอาหารยังมีความปลีกย่อยหลายอย่าง ส่วนอาหารทอด ปิ้ง ย่าง ไม่ค่อยดี ถ้าอาหารสำหรับผู้ที่อยากร่างกายแข็งแรงต้องเป็นอาหารที่มีความร้อนต่ำ เช่น การนึ่ง การต้ม การตุ๋น ช่วงเช้าอาหารที่ดีที่สุดคือข้าวต้มโดยหลีกเลี่ยงของทอดทานกับข้าวต้ม จริงๆแล้วไม่ควรกินของทอดเกิน 1 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้  “ดีท็อกซ์” สารพิษในตัว ร่างกายของแต่ละคนต้องการแคลอรี่ต่อวันที่ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นหลักการที่ง่ายที่สุดคือ ทาน 8 ส่วน เมื่อใกล้จะอิ่มให้หยุดทานเป็นวิธีที่ดีที่สุดและปฏิบัติง่าย
 
 
ตัวอย่างอาหารจำพวก 5 สี เหมาะกับผู้สูงวัยที่ดูแลร่างกาย
 ตัวอย่างอาหารจำพวก 5 สี เหมาะกับผู้สูงวัยที่ดูแลร่างกาย
 
     2.ฮอร์โมน  เนื่องจากผู้สูงอายุฮอร์โมนต่างๆในร่างกายจะลดลงหมด ฮอร์โมนที่สำคัญในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนอินซูลิน(Insulin) เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อนนำน้ำตาลจากเลือดเข้าไปในเซลล์ของร่างกายใช้เป็นพลังงานเมื่อขาดอินซูลินเซลล์ไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดโรค เบาหวานฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตถ้าลดลงเราจะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอน ทานข้าวก็ง่วงนอน ตื่นมาไม่สดชื่นและอื่นๆอีก ไม่ใช่แค่เฉพาะฮอร์โมนเพศ ชาย-หญิง เท่านั้น ฮอร์โมนควบคุมการทำงานของร่างกายทั้งหมด หลายวิธีที่จะทำให้ฮอร์โมนทำงานปกติ เช่น บริหารร่างกายให้ถูกวิธี การใช้ยาบางตัวเพื่อกระตุ้นฮอร์โมนให้สมบูรณ์ ซึ่งมีสารอาหารมากมายที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ ถ้าเรามีความผิดปกติด้านฮอร์โมนอย่างรุนแรงมีการเสริมฮอร์โมนด้วยวิธีธรรมชาติ ใช้ฮอร์โมนสกัดจากสารทางธรรมชาติมาช่วยเสริมระดับความสมดุลของมวลบางอย่าง
 

การออกกำลังกายก็ควรจะเลือกที่ไม่ออกแรงมากเกินไปจะเป็นผลดีต่อร่างกา
 
     3.การออกกำลังกาย ถ้าเราอยากจะได้ความแข็งแรงต้องออกแรง การออกกำลังกายสำหรับการชะลอวัยไม่ใช่การเล่นกีฬา เพราะการเล่นกีฬาไม่ใช่การชะลอวัยซึ่งอาจเกิดความเสื่อมของข้อต่อ เส้นเอ็นได้เร็ว การออกกำลังกายที่ดี เช่น แอโรบิค การว่ายน้ำ จ็อกกิ้งเดินแบบพอดีๆปกติของตัวเราอย่าไปเร่ง แต่ถ้าต้องการชะลอวัยต้องเดิน 10,000 ก้าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
 
การรับประทานอาหารจำพวกปิ้ง ย่าง ทอด หรืออาหารทะเลควรจะมีขีดจำกัด เพราะอาหารจำพวกนี้มีสารพิษตกค้าง และส่งผลร้ายต่อสุขภาพ
 การรับประทานอาหารจำพวกปิ้ง ย่าง ทอด หรืออาหารทะเลควรจะมีขีดจำกัด เพราะอาหารจำพวกนี้มีสารพิษตกค้าง และส่งผลร้ายต่อสุขภาพ

     4.การล้างสารพิษ ตัวเราทุกวันนี้ได้รับสารพิษมาเยอะ และสารพิษก็เป็นส่วนที่ทำให้ร่างกายเราเสื่อมเร็ว มีวิธีล้างสารพิษหลากหลาย สวนทวารด้วยกาแฟแต่วิธีนี้ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับ บางคนเข้าคอร์สล้างสารพิษ ปัจจุบันรับสารต่างๆพวกตระกูลโลหะหนักเยอะ จากเครื่องสำอางมีพวกสารตะกั่ว มาจากอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ จะมีสารแคดเมียม ปลาหรือพวกสัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู จะมีปรอทอยู่เยอะ คนเราสมัยนี้ถึงได้เป็นโรคมะเร็งกันมาก ในพวกชะลอวัยต้องมีการตรวจหาสารที่มีโลหะหนักมากน้อยแค่ไหน แล้วหาวิธีดึงออกโดยส่วนใหญ่ใช้เป็นยาที่ดึงสารเคมีออก ซึ่งมีทั้งยารับประทานและยาที่หยดเข้าหลอดเลือดดำ ซึ่งเป็นวิธีทางการแพทย์ จึงควรปรึกษาและรับการรักษาจากแพทย์
 
  การควบคุมอารมณ์มีส่วนสำคัญเพราะจะเป็นตัวชี้วัดถึงสภาพจิตใจและร่างกายที่สมบูรณ์
 ารควบคุมอารมณ์มีส่วนสำคัญเพราะจะเป็นตัวชี้วัดถึงสภาพจิตใจและร่างกายที่สมบูรณ์

     5.การรักษาอารมณ์ ต้องรักษาอารมณ์เราให้ดี เพราะว่าความเครียดเป็นส่วนสำคัญว่าเราจะมีความสุข ไม่มีความสุข แล้วก็มีผลจากสารความสุขที่จะช่วยต่ออายุ แต่สารความเครียดช่วยตัดอายุ ความเครียดสามารถทำให้เราปวดท้อง หรือถ้าเครียดมากอาจถึงขั้นขาดใจตายได้ เพราะร่างกายกับจิตใจเราเชื่อมโยงกันด้วยระบบประสาทอย่างที่ว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ทุกอย่างควบคุมจากความรู้สึกจากใจแล้วส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยสมองเป็นอวัยวะส่งผ่านของจิตใจและระบบประสาทด้วย สมองมีส่วนควบคุม 2 ส่วนซึ่งเป็นประสาทอัตโนมัติเวลาเกิดความเครียดสมองด้านกระตุ้นจะทำงานอย่างรุนแรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อของเยื่อบุทางเดินอาหารตั้งแต่กระเพาะลำไส้มีการหดเกร็ง ไม่หดแล้วปล่อย พอเกร็งมากเข้าเกิดการขาดเลือดถึงขั้นรุนแรง ถ้ารุนแรงมากก็ทะลุเนื่องจากบีบแรงมาก เพราะฉะนั้นความเครียดจึงมีผลกระทบต่อร่างกาย แต่สิ่งที่มีผลกระทบด้านอารมณ์ทำให้เครียด เช่น เงินทอง มีการศึกษาพบว่าผู้ที่มีอายุมากขึ้นเงินทองถ้าเป็นเพศหญิงเกี่ยวข้องกับความสุขมากกว่าเพศชาย เรื่องครอบครัวก็มีส่วนสำหรับผู้ที่แต่งงานมีครอบครัวไปแล้วมีความสุขมากกว่าผู้ที่หย่าร้าง คนที่ไม่มีครอบครัวหรือคนโสด แต่ก็เป็นความสุขแค่ช่วงหนึ่ง หลังจากนี้อาจจะมีปัญหาเรื่องครอบครัว เรื่องลูก เป็นต้น ในคู่ครองที่อายุมากขึ้นก็มีการศึกษาเช่นกันปรากฏว่าผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวมีความสุขมากกว่าผู้ที่อยู่กับคู่ครอง เพราะฉะนั้นครอบครัวเป็นเรื่องที่สรุปไม่ได้เป็นจังหวะของชีวิตแต่ละช่วงสุดท้ายคือการพึ่งตัวเอง และพัฒนาประสิทธิภาพของตัวเองในการควบคุมอารมณ์ พัฒนาด้านอารมณ์  (Emotional)
 
     เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวโดยเฉพาะเรื่องอาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์เราสามารถเตรียมเองได้ แต่ถ้าเรื่องของฮอร์โมนหรืออื่นๆควรปรึกษาแพทย์ เพราะฉะนั้นต้องดูแลตัวเองนับตั้งแต่วันนี้จะได้มีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง และนี่คือส่วนของทันโลก

ส่วนของทันธรรม โดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ


 วันเกิดในแต่ละปีบ่งบอกถึงความเสื่อมของร่างกายที่เพิ่มขึ้น

     แก่ขึ้นอีกปีอย่างมีความสุขต้องคิดให้ดี เพราะหากเป็นช่วงที่เรายังเด็กไม่เคยมีใครใช้คำว่าโตขึ้นอีกปีอย่างมีความสุข เพราะธรรมชาติของเด็กมักคิดว่าเมื่อไหร่เราจะโต เร่งวันเร่งคืนอยากเป็นผู้ใหญ่ แต่พอเป็นผู้ใหญ่ทันทีที่เริ่มรู้สึกว่าแต่ละปีที่ผ่านไปเราแก่ขึ้น ปีใหม่แต่ละปีเริ่มหวาดเสียวโดยเฉพาะฝ่ายหญิง รู้สึกว่าตัวเองกำลังถดถอย งั้นลองสังเกตระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ความแตกต่างเรื่องเวลาคืออะไร ความแตกต่างที่ว่าเด็กรู้สึกว่าทุกๆปีที่ผ่านไป สรีระเขาเติบโต แข็งแรงขึ้น สวยขึ้น หล่อขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น และความรู้ก็มากขึ้น กำลังกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น มีพละกำลังด้านต่างๆสูงขึ้น จึงพอใจกับเวลาที่ผ่านไป เร่งวันเร่งคืนอยากโตเร็วๆแต่ว่าพอเป็นผู้ใหญ่เข้าจริงๆ รู้สึกว่าทุกๆปีที่ผ่านไปสรีระตัวเองเริ่มแก่ เริ่มหง่อม เริ่มไม่งาม ผิวหนังที่เคยเต่งตึงเริ่มเหี่ยวย่น กลายเป็นกลัวเพราะรู้สึกว่าพร้อมๆเวลาที่ผ่านไปต้นทุนตัวเองเริ่มค่อยๆลดต่ำลง ชัดที่สุดคือร่างกายแล้วขยายไปสู่เรื่องอื่นๆ นี่คือผลที่เกิดจากความรู้สึกในใจ แต่ถ้าเราสังเกตดูคนที่เป็นผู้ใหญ่ก็ยังมีรายละเอียดต่างกันบางคนธุรกิจกำลังดี การค้า การงานกำลังประสบความสำเร็จ ได้เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนขั้น มีความสุข บางครั้งก็ลุ้นตำแหน่งที่สูงขึ้น มีความรู้สึกอยากเร่งเวลาเร็วๆ สรุปโดยภาพรวมว่าสิ่งที่ชาวโลกเอาใจไปผูกไว้มีอยู่ 4 เรื่องคือ 1.ลาภ  2.ยศ  3.สรรเสริญ  4.สุข

คนทุกวันนี้มองไปที่ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและตำแหน่งหน้าที่
 คนทุกวันนี้มองไปที่ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานแลตำแหน่งหน้าที่

     ในแง่ความสุขในที่นี้หมายถึง สุขในเบญจกามคุณทั้ง 5 ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส คือทุกปีที่ผ่านไปถ้าเห็นรูปสวยๆ ได้สิ่งที่สวยๆงามๆมาเป้นของตัวเองรู้สึกว่าชอบ ได้ฟังเสียงเพราะๆ ได้ไปดูดนตรี มีคนเสียงดีร้องเพลงที่ชอบ นักร้องที่ถูกใจก็รู้สึกว่าชอบใจ กลิ่นได้ดมกลิ่นหอมๆที่ถูกใจ รส ได้ลิ้มรสอาหารที่เอร็ดอร่อยอยู่เป็นประจำ และได้สัมผัสที่นุ่มนวลชอบใจวันเวลาผ่านไปแต่ละปีๆมีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพิ่มพูนขึ้น คนทั่วไปจะรู้สึกมีความสุขและพึงพอใจ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่แน่นอน เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป แต่ที่แน่คืสังขารร่างกายเสื่อมถอยไม่ว่าจะทำอย่างไร อย่างมากก็ได้แค่ชะลอไม่เหมือนเก่า 100% แล้วลาภ ยศ สรรเสริญ สุขก็เป็นความรู้สึกที่ส่งผลต่อจิตใจอีกทางหนึ่งประกอบเข้ามานอกเหนือจากร่างกาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แนะว่า อย่าไปผูกกับสิ่งภายนอก อย่าเอาใจไปผูกกับสังขารร่างกาย แม้แต่เด็กก็ตามทุกปีๆที่เราโตขึ้น แต่ความจริงการโตขึ้นในอีกแง่มุมหนึ่งคือการแก่ เกิดมาก็เริ่มแก่เลยแต่แก่ช่วงแรกผลยังเห็นไม่ชัดร่างกายกำลังโตขึ้น แต่จริงๆเซลล์ทุกเซลล์มีอายุมากขึ้นแก่แล้วแสดงผลชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อเราเองโตได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นพระองค์ให้เราเอาใจไปผูกอยู่กับทรัพย์ภายใน ไม่ผูกกับร่างกายแล้วไม่ไปผูกกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก ท่านให้เอาความสุขกับภายในคือ อริยทรัพย์ 7 ประการ ได้แก่
 
     1.ศรัทธา คนที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามีเป้าหมายชีวิต รู้ว่าชีวิตตัวเองจะทุ่มเทเพื่อสิ่งใด วันคืนที่ผ่านไปมีความหมาย แต่คนไม่มีศรัทธาชีวิตเคว้งคว้างอยู่แบบไร้สาระไปวันๆ เพราะไม่รู้จะหาอะไรมาเป็นเป้าหมายชีวิต แต่ถ้ามีศรัทธาแล้วชีวิตเราเองทุกวันมีคุณค่าและความหมาย เรารู้ว่าเราอยู่เพื่ออะไร สร้างบุญสร้างกุศล เราเกิดมาสร้างบารมี เป้าหมายชีวิตคือจะไปนิพพาน มุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมเป็นชีวิตที่มีคุณค่าและความหมาย เพราะมีเป้าหมายปลายทางเสมือนเรือที่มีหางเสือ

     2.ศีล เมื่อสำรวจตัวเองศีลเราบริบูรณ์ อย่างน้อยที่สุดคือศีล 5 วันพระและวันเกิด ถ้าศีล 8 ได้จะดีมาก เช่น เกิดวันอังคาร ก็ทุกวันอังคารในสัปดาห์รักษาศีล 8 เพื่อเป็นการยกศีลเราให้สูงขึ้น รักษาศีล 8 ได้ ศีล 5 ที่เหลือก็จะมั่นคงสำรวจแต่ละวัน เราไม่ได้ก่อเวร ก่อกรรม ไม่ได้เป็นภัยต่อใคร ไม่ได้เบียดเบียนตัวเองหรือผู้อื่น อย่างนี้ทุกวันที่ผ่านไปจะเป็นวันที่มีสุข
 
     3.หิริ ความอายต่อบาป
 
     4.โอตตัปปะ ความกลัวบาป
 
    หิริ โอตตัปปะ ความละอายและกลัวบาปจะต่อเนื่องกัน ความละอายต่อบาปกับความเกรงกลัวต่อบาปแตกต่างกันตรงที่ ถ้าเราไปเจอเหล็กท่อนหนึ่งที่เปื้อนอุจจาระเราก็ไม่อยากไปจับเพราะกลัวสกปรก เปรียบเทียบคล้ายกับการอายบาป เป็นเรื่องที่ไม่ดีไปทำเข้าน่าอายไม่น่าทำ แต่การกลัวบาปเหมือนเหล็กท่อนเผาไฟจนร้อนแดง ให้เราไปจับครั้งนี้ไม่ใช่อาย แต่กลายเป็นกลัวรู้สึกว่าโดนเข้าไปแล้วลวกมือน่ากลัว ความกลัวบาปคล้ายกันถ้าทำไปตกนรก กลัวผลแห่งบาป หิริโอตตัปปะจะส่งผลต่อเนื่องกัน แต่หนักเบาต่างกันพออายบาปกลัวบาปแล้วจะไม่กล้าไปทำบาปอีก
 
     5.พาหุ หรือ สุตะ  มีความรู้แต่ละวันคืนที่ผ่านไปอย่าให้ผ่านไปเปล่าให้หมั่นแสวงหาความรู้ ให้เราเองมีความรู้เพิ่มขึ้น รู้เข้าใจโลกมากขึ้น เราอายุมากขึ้นมีใครมาหาถามเราตอบได้ ให้คำแนะนำได้ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ที่มีหลักในการดำเนินชีวิต แล้วมีความรู้เข้าใจโลกและชีวิต สามารถให้คำแนะนำกับคนอื่น เมื่อเราอยู่อย่างมีความรู้เข้าใจโลกเราจะมีความสุข
 
     6.จาคะ ความเสียสละ ความมีน้ำใจ รู้จักแบ่งปันเอื้อเฟื้อ จะทำให้เราเองอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข คนไหนที่ตระหนี่ไม่มีความสุข จะหวงแหนใจมุ่งหาโลกธรรมข้อแรกคือทรัพย์งจะกอบโกยให้มากที่สุดหวงไว้มากที่สุดไม่แบ่งปันใครไม่มีสุข แต่คนที่รูจักแบ่งปันรู้จักให้มีความสุข การวิจัยทางแพทย์ที่อเมริกาสำรวจพบว่า คนที่รู้จักการให้และการแบ่งปันดัชนีความสุขของเขาเพิ่มพรวดขึ้นมา มีความสุขยิ่งกว่ากอดทรัพย๋นิ่งๆอยู่กับตัว สุขสู้ตอนเอาทรัพย์มาใช้แบ่งปันคนอื่นเขาไม่ได้ ลองทำดูจะรู้ว่าตัวเองเอื้อเฟื้อและช่วยคนอื่นแล้ว ไม่ใช่ทรัพย์อย่างเดียวน้ำใจที่มีให้ เห็นเขาเหนื่อยอยู่ไปออกแรงช่วยเขา เล็กๆน้อยๆเหล่านี้ก็ตาม ใเราเองจะมีความสุขเพิ่มขึ้
 
     7.ปัญญา ความรู้ยังเป็นแค่ระดับความรู้แต่ปัญญาเป็นความแจ่มแจ้ง กระจ่าง แทงตลอดแล้วสามารถเอาความรู้ความเข้าใจมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างแท้จริง ถ้าครบอริยทรัพย์ทั้ง 7 ประการ เราจะรู้สึกว่าชีวิตเรามีค่า มีความหมาย ปลื้มใจและภูมิใจกับวันเวลาที่ผ่านไปได้สะสมอริยทรัพย์  7 ประการตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่อุปการะ เอื้อเฟื้อให้เราพบกับความสุขความสำเร็จในภายภาคหน้ามีความสุขสูงกว่า คล้ายเรื่องของพระเจ้ามหากัปปินะเป็นพระราชามาก่อน สละลาภ ยศ สรรเสริญ สุขเหล่านั้น มาแสวงหาอริยทรัพย์ภายใน บวชอยู่ป่าครองผ้า 3 ผืน ท่านยังอุทานว่า “สุขจริงหนอ” เพราะอริยทรัพย์ภายในเอื้ออำนวยความสุขให้ยิ่งกว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่เคยมีในสมัยเป็นพระราชา เพราะฉะนั้นเราทุกคนสามารถแสวงหาอริยทรัพย์ภายในได้ตั้งใจปฏิบัติทุกวัน ทุกคืน ทุกปีที่ผ่านไปจะเป็นปีที่เรามีความสุขกันถ้วนหน้า
 
กาย-ใจที่ดีส่งผลต่อร่างกายให้แข็งแรง
 กาย-ใจที่ดีส่งผลต่อร่างกายให้แข็งแรง

    หัวใจสำคัญคือการรักษาความมั่นคงทางอารมณ์ด้วยการปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ แผ่เมตตา และทำใจให้ผ่องใสอยู่เสมอเพรา “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” เมื่อจิตเราผ่องใสกายเราก็จะดีขึ้น ระบบฮอร์โมน ระบบย่อยอาหาร ระบบต่างๆดีขึ้นทุกอย่าง ทำให้เป็นคนน่าเข้าใกล้
 
 
รับชมวิดีโอ
 
 [[videodmc==44599]]
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/top_of_week/แก่ขึ้นอีกปีอย่างมีความสุข.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 18:35
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv