ผลการปฏิบัติธรรมพระกองพันสถาปนา
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
 
พระอภินัย  ตนฺติวฑฺโฒ   รุ่นกองพันสถาปนา
 
     กระผมพระอภินัย  ตนฺติวฑฺโฒ พระธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษา กองพันสถาปนาครับ  กระผมเดิมชื่อนายแพทย์อภินัย ชินพิพัฒน์ อายุ 28 ปี  ตอนสมัยเรียนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมทำกิจกรรมชมรมพุทธฯและดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมพุทธจุฬาฯครับ  ตั้งแต่เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็สมัครเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 ปี  ระหว่างที่ทำงานใช้ทุนผมก็มาวัดทุกวันอาทิตย์ ชวนคนมาวัด ทำหน้าที่กัลยาณมิตรแก่คนรอบข้าง ให้ทุกคนได้รู้จักเป้าหมายชีวิตของการเกิดมาเป็นมนุษย์
 
     เมื่อทำงานใช้ทุนรัฐบาลหมดแล้ว ผมก็คิดว่า “เราจะทำอะไรต่อในชีวิตดี” ซึ่งเพื่อนๆ ที่เรียนจบมาด้วยกัน หลายคนก็จะเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทาง บางคนก็ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน จะได้มีรายได้มากๆ แต่ผมเองกลับคิดว่าที่ผ่านมานั้น เราไม่รู้เลยว่า จะเจ็บจะป่วยเมื่อไหร่และจะตายเมื่อไหร่ ก็ยังไม่รู้  แม้ว่าการเป็นแพทย์ของผมจะช่วยเหลือคนไข้คนเจ็บมามาก  แต่คนเจ็บก็ไม่ได้มีจำนวนที่ลดลงเลย  คนป่วยที่มารักษาหลายๆคน ก็ไม่หาย เสียชีวิตไปก็มี หลายๆโรค เช่น มะเร็ง เอดส์ ตับแข็ง ใครเป็นแล้วก็ต้องทำใจ เตรียมพร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า  
 
     แต่จากการที่ผมได้ศึกษา case study ที่หลวงพ่อเมตตาตอบลูกๆ มาตลอด  จึงได้ทราบว่าความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ล้วนเป็นผลมาจากการกระทำผิดศีล 5 ทั้งในอดีตและปัจจุบันชาติ  ดังนั้นหากคนในสังคมรักษาศีล 5 กันได้มาก ก็จะทำให้มีคนเจ็บป่วยน้อยลง  อุบัติเหตุ การทำร้ายกันน้อยลง  คนเป็นหมอก็ทำงานน้อยลง เพราะไม่มีคนให้รักษา  ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการสร้างกรรมดี จะได้ไม่เกิดเป็นวิบากกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บครับ
 
     ผมเชื่อว่า ผู้ที่ฉลาดและเห็นภัยในวัฏสงสารควรจะให้โอกาสตนเองมาศึกษาปฏิบัติธรรม ทำที่พึ่งให้กับตนเองก่อน หลังจากนั้นจึงจะทำประโยชน์ให้คนรอบข้างและสังคมได้  ซึ่งประโยชน์ที่ผมเลือกทำให้ตนเองนั้น ก็คือการสั่งสมบุญ  และบุญใหญ่ที่ลูกผู้ชายสามารถทำได้ นั่นก็คือการบวชครับ  ยิ่งหลวงพ่อเปิดโอกาสให้ลูกๆ ได้มาบวชช่วงเข้าพรรษา ผมจึงตัดสินใจได้ไม่ยากเลย ที่จะมาบวชในพรรษานี้  และปีนี้ยังเป็นรุ่นพิเศษคือบวช 1,000 รูป เพื่อเป็นพระพี่เลี้ยงรุ่น  7,000 รูป อีกทั้งยังเป็นการสถาปนาไปสู่การบวช 1,000,000 รูปในอนาคตด้วย 
 
     หลังจากผมได้เข้ามาในโครงการฯ ผมก็ได้พบเจอกับเพื่อนที่มาบวชจำนวนมาก จากหลายภูมิลำเนา และผู้บวชก็มีอายุแตกต่างกันมาก บางคนเป็นปู่เป็นพ่อของเราได้เลย  เมื่อคนจำนวนมากมาอยู่ด้วยกันก็ต้องมีระเบียบวินัยมากำกับ ไม่ว่าจะแปรงฟัน ล้างหน้า อาบน้ำ ทำวัตร ปฏิบัติธรรม ก็ล้วนเป็นไปตามตารางกิจวัตรทั้งสิ้น จนผมคิดว่าอยู่เหมือนเป็นทหาร แต่เป็นทหารแห่งกองทัพธรรม ที่ไม่ได้ไปต่อสู้กับใคร แต่ต้องสู้กับกิเลสที่ฝังอยู่ในใจเรามาช้านาน การมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถทำตามใจอย่างที่เคยทำได้ แต่ผมก็มีคณะพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาชี้แนะ จนทำให้ปรับตัวปรับใจ เมื่อผมยอมรับสภาพแวดล้อมใหม่ๆได้ ผมก็มีความสุข บรรยากาศเหมือนพี่น้องก็บังเกิดขึ้น และเมื่อทุกรูปได้ฝึกสมาธิมากๆ ใจก็นุ่มนวล มีความอดทนกับการกระทบกระทั่งได้เป็นอย่างดี
 
     วันหนึ่งขณะที่ผมอบรมอยู่ที่เขาแก้วเสด็จ ผมนั่งหลับตาปล่อยใจไปตามเสียงเทศน์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวที่เมตตามาเทศน์สอนให้กับเหล่าธรรมทายาทที่เขาแก้วเสด็จ ท่านได้เน้นเรื่องมรรคมีองค์ 8 ว่า เมื่อปฏิบัติได้ถูกส่วน ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกก็จะเข้าถึงธรรมได้  แม้อากาศจะร้อน เหงื่อไคลไหลออกมา ผมก็หยุดใจนิ่งๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย นึกภาพองค์พระ TOP VIEW ที่หลวงพ่อฉายใน DMC บ่อยๆ เป็นช่วงเวลาที่เคลิ้มๆสบายๆอย่างบอกไม่ถูกครับ ทันใดนั้นที่ศูนย์กลางกายของผม ก็มีแสงสว่างโพลงขึ้นมา เป็นความสว่างที่จ้าแต่ไม่แสบตา  สว่างมากกว่าดวงอาทิตย์ แสงที่เห็นทำให้ผมตื่นตัวและตื่นเต้นมากๆ ผมไม่คิดเลยว่าจะเกิดขึ้นในเวลาที่เราหลับตาได้ ผมเห็นอยู่สักพักหนึ่งก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีองค์พระผุดขึ้นมาสักทีแถมยังตื่นเต้นด้วย แสงสว่างเลยจึงค่อยๆหายไป แต่ก็ทำให้ผมมั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริง พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
 
 
พระอภินัย  ตนฺติวฑฺโฒ  ในท่า  peace position
 
     หลวงพ่อครับ ผมและลูกพระรุ่นกองพันสถาปนาทุกรูป รู้สึกตื่นเต้นมากๆที่หลวงพ่อได้มอบบุญใหญ่ให้ไปทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ เป็นพระพี่เลี้ยงในโครงการ7,000 รูป 7,000 ตำบล  เพราะจะเป็นการฟื้นฟูศีลธรรมให้กลับมาอีกครั้งในยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่  พวกเราภูมิใจมากๆว่าสิ่งที่ลูกๆได้ฝึกตัวเองเป็นพระแท้เป็นเวลาเดือนครึ่ง ลูกพระทุกรูปกำลังทำหน้าที่เป็นพระพี่ชายที่ดูแลพระน้องๆถึงหมื่นกว่ารูป ถ้าหลวงพ่อถามว่า “เหนื่อยไหมลูก”  ลูกๆกองพันสถาปนาทุกรูป ก็ขอตอบหลวงพ่อว่า “ปลื้มครับหลวงพ่อ” และพวกเราจะทำหน้าที่พระพี่เลี้ยงให้ดีที่สุด และจะทำหน้าที่เป็นผู้รักษา ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ให้ยุคนี้เป็นยุคทองของการเผยแผ่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เฟื่องฟูครับ   

     หลวงพ่อครับ ผมต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงที่ได้เปิดโอกาสให้ผมได้มาบวชในรุ่นเข้าพรรษาปีนี้ ผมขออาราธนาคุณของพระรัตนตรัย จงช่วยส่งผลให้หลวงพ่อมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีอายุยืนนานเป็นหลักชัย หลักใจให้ลูกๆ ทุกคน ผมขอสั่งสมบุญบารมีตามติดหลวงพ่อและหมู่คณะไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมครับ                                                                         
พระอภินัย  ตนฺติวฑฺโฒ

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/พระอภินัย ตนฺติวฑฺโฒ รุ่นกองพันสถาปนา.html
เมื่อ 30 มิถุนายน 2567 23:17
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv