ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร ไมค์ กู เล่ (ประเทศแคนาดา)
 
 
    ผมชื่อ ไมค์ กู เล่ อายุ 54ปี เกิดที่เมืองมอนทรีโอ ประเทศแคนาดา ผมเป็นสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยมอนทรีโอ เริ่มต้นชีวิตการทำงานในปี พ.ศ.2519 ที่เมืองมอนทรีโอและเมืองแวนคูเวอร์ ผมเติบโตมาแบบชาวคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ได้เรียนรู้เรื่องราวความเชื่อและข้อปฏิบัติเบื้องต้นของชาวคาทอลิกมาบ้าง
 
    ผมก็คงจะเหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป ที่ต้องการความปลอดภัยในชีวิตและอยากค้นหาตัวเองให้เจอ ผมทำงานหนักมากในอดีต และปัจจุบันผมทำงานควบถึงสองแห่งด้วยกันคือ ที่ออสเตรเลียและประเทศไทย ทำมาประมาณ 2ปีกว่าแล้วครับ ด้วยภาระของงานมากมาย ทำให้ผมไม่ได้ให้โอกาสที่จะมองตนเองเลย ผมจึงปรารถนาที่อยากจะอยู่ในที่เงียบๆ และอยู่กับตัวเองบ้าง
 
    จนกระทั่งเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ผมก็ได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่งชื่อ คุณจักรกฤษ ได้แนะนำให้ผมรู้จักการนั่งสมาธิเป็นครั้งแรก ผมเป็นน้องใหม่ในพระพุทธศาสนาครับ แต่ความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นเร็วมาก การนั่งสมาธินำสภาวะสงบสุขภายในใจมาให้ผมได้ แม้เพียงได้ลองไม่กี่ครั้ง ผมถึงกับติดใจ จนห้ามใจไม่อยู่ ผมจึงได้นำ DMC มาติดตั้งที่บ้าน เพื่อจะได้เรียนรู้วิชชาธรรมกายมากขึ้น
 
    โดยได้รับคำแนะนำจาก คุณหมอฉัตรชัย และคุณชุลีพร ให้ผมได้รู้จักโครงการปฏิบัติธรรมชาวต่างประเทศ The Middle Way ผมสนใจมาก เพราะเป็นโครงการที่เชิญชวนให้ชาวต่างประเทศ เข้าร่วมปฏิบัติธรรม เพื่อฝึกสมาธิเบื้องต้นภาคภาษาอังกฤษกับพระอาจารย์ ผมไม่รอช้า รีบสมัครเข้าร่วมโครงการ The Middle Way รุ่นที่10 ทันที
 
 
    สวนเพชรแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ บรรยากาศดีมากๆ เหมาะแก่การนั่งสมาธิ ผมเริ่มนั่งสมาธิกับพระอาจารย์โดยใช้วิธีนึกถึงศูนย์กลางกายฐานที่7 ค่อยๆปล่อยใจลงไปกลางท้องอย่างช้าๆ แล้วจู่ๆดวงสว่างก็ผุดขึ้นมา มีแสงสีเหลืองทอง สว่างเหมือนโลหะสะท้อนแสง แล้วดวงก็หมุนติ้วเลยครับ เคลื่อนที่ได้ด้วย บางทีก็เลือนหายไปเหมือนจานบินในหนังสตาร์เทรค
 
    ในเวลาที่แผ่เมตตา ดวงแก้วนี้มีขนาดที่ขยายได้ เวลาดวงใสๆขยายตัว ผมรู้สึกเคลิ้มๆ ผ่อนคลาย สบายมากๆ ในเวลาที่ดวงแก้วขยาย ผมรู้สึกมีไฟอย่างแรงกล้า และรู้สึกว่า "ถ้าดวงแก้วขยายออกไปอย่างนี้เรื่อยๆ จะเกิดการ sharing แบ่งปันพลังงานไปรอบๆตัว แล้วส่งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย" และที่สำคัญมันทำให้ผมอยู่ในอารมณ์เยือกเย็น ไม่หุนหัน และอารมณ์นี้ติดค้างในใจ ไม่หงุดหงิดใครเลย ไปอีก 2-3วัน
 
 
    เมื่อผมมาที่วัดพระธรรมกาย ที่นี่เงียบสงบ ประหนึ่งผมนั่งอยู่คนเดียวในกระแสของผู้คนมากมาย แต่ไม่เดียวดาย ทั้งในส่วนลึกของจิตใจและอารมณ์ ความอุ่นใจที่ได้จากสมาธิก้าวเข้ามาสู่ใจของผม ท่ามกลางฝูงชนเหล่านั้น
 
    ตอนนั่งสมาธิที่วัด ผมพยายามนั่งให้สบายๆ หลับตาพริ้มๆ และค่อยๆสูดลมหายใจลึกๆ ให้เข้ากับคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ หายใจเข้าผ่านจมูก แล้วนึกให้มีการเคลื่อนที่ช้าๆ ลงไปยังฐานที่7 ทำนิ่งๆ ฟังเสียงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อไปเรื่อยๆ แม้ผมจะยังไม่เข้าใจภาษาไทยมากนัก แต่น้ำเสียงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ช่วยพาผมดำดิ่งเข้าไปยังอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกของสันติสุข บางครั้งผมเห็นเหมือนมีองค์พระพุทธรูปอยู่ภายใน โดยเห็นแค่เส้นผมของท่าน ในมุมจากด้านบนลงล่าง
 
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมตื่นขึ้นจากการทำสมาธิและรู้สึกประหนึ่งว่า ได้รับกระแสจิตจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ คล้ายดั่งท่านได้บอกผมว่า ท่านจะช่วยชี้ทางให้เอง จากนั้นภาพของคุณยายอาจารย์ก็ปรากฏขึ้น ทั้งๆที่ตอนนั้น ผมก็ยังไม่รู้เรื่องของท่านมากนัก นับจากนั้นมา ผมก็ Kiss (จูบ) เหรียญพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯทุกเช้า ก่อนที่สวมห้อยคอและอาราธนาให้ท่านช่วยชี้นำชีวิตในแต่ละวัน ผมรู้สึกปลอดภัย สดชื่นและยิ้มได้ตลอดวันเลยครับ
 
 
    นับจากที่ได้นั่งสมาธิ อัธยาศัยของผมเปลี่ยนไป มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นมากขึ้น แน่นแฟ้นขึ้น สามารถเจรจาธุรกิจได้อย่างสุขุมรอบคอบมากกว่าเดิม เข้าใจในด้านอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้น เมื่อก่อน ผมมีคำถามมากมาย แต่จากการร่วมในโครงการ The Middle Way ช่วยตอบคำถามของผมไปได้มาก ยังมีหลายสิ่งให้เรียนรู้ในชีวิต ผมกลายเป็นคนใจกว้างมากขึ้น ผมเห็นว่า การได้แบ่งปันให้เพื่อนมนุษย์เป็นวิธีที่ดีที่สุด การเห็นแก่ตัวเป็นวิธีดำเนินชีวิตของคนที่ไม่ฉลาด
 
    ในเมืองที่ผมทำงานอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย อากาศร้อนชื้น เป็นเมืองติดทะเล ผู้คนมีรายได้ระดับกลาง ไม่ค่อยมีคนจนเท่าไหร่ มีพวกจรจัดเป็นปัญหาสังคมบ้าง คนออสเตรเลียไม่น้อยเลยที่ดื่มเหล้า แต่ผมไม่ทำแบบนั้น ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มน้อย พอผมไม่ดื่มเหล้า เพื่อนๆก็เห็นว่าแปลก แต่ผมรู้สึกว่า ไม่เห็นแปลกตรงไหน แม้ไม่ดื่มเหล้าชีวิตของผมก็มีความสุขดี มีสุขภาพดี อยู่กับภรรยาและผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ไม่ได้ทำร้ายใครหรือยุ่งกับชีวิตของผู้อื่น ผมอยากให้ทุกๆคนช่วยกันทำให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิมครับ
 
    ผมอยากแนะนำการฝึกสมาธินี้ ให้กับพ่อและแม่ของผม ที่อยู่ในแคนาดา ผมจะได้กลับไปเยี่ยมท่านเดือนธันวาคม พ.ศ.2550 นี้แล้วครับ
 
    สุดท้ายนี้ผมกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เป็นการส่วนตัวนะครับ ที่ได้ชี้นำแนะแนวทางชีวิตให้กับผม และรับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ เพื่อพวกเราทุกวัน ผมดีใจที่ได้ค้นพบการนั่งสมาธิด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆ ทุกคน ผมจะฝึกสมาธิต่อไปและจะแผ่ขยายศาสตร์แห่งสันติภาพโลกอันทรงค่ายิ่งนี้ออกไป
 
กราบขอบพระคุณอีกครั้งครับ
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/Canada_Mile_Gu_Le.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 16:32
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv