จดหมายความในใจ จาก พระธรรมาจารย์ซื่อเซิ่งโซ่ว ฉบับที่ 2 (ประเทศจีน)
กราบคารวะคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพรักยิ่ง
กระผม พระธรรมาจารย์ซื่อเซิ่งโซ่ว หรือ ซื่อเซิ่งโซ่วฝ่าซือ เจ้า
อาวาสสำนักปฏิบัติธรรมเต้าผิ่น (หรือเต้าผิ่นฉานซิว) เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเฮหลงเจียง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนครับ จดหมายฉบับนี้ กระผมขออนุญาตเล่าถึงผลการปฏิบัติธรรมให้คุณครูไม่ใหญ่ฟังนะครับ
หลังจากที่กระผม ได้พบกับพระอาจารย์จากวัดพระธรรมกายที่เมืองเฉิงตู และเริ่มติดตามดูรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอย่างต่อเนื่อง กระผมประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ เพราะรายการจัดลำดับอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่สโลแกนการปฏิบัติธรรม เช่น การบ้าน 10ข้อ ไปจนถึงธรรมะอันเลอค่าที่คุณครูไม่ใหญ่เทศน์สอนอย่างลุ่มลึกไปตามลำดับ สิ่งที่กระผมชอบดูมากที่สุด คือ ผลการปฏิบัติธรรม เพราะทำให้กระผมได้เข้าใจถึงประสบการณ์ภายในของเพื่อนๆนักปฏิบัติธรรม และถือว่าการที่คุณครูไม่ใหญ่แนะนำวิธีปฏิบัติธรรมให้ลูกศิษย์คนอื่น เหมือนได้แนะนำวิธีนั่งสมาธิที่ดีที่สุดสำหรับกระผมด้วย ช่วยให้กระผมเข้าใจธรรมะและวิธีการปฏิบัติมากขึ้น
พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ สิ่งที่พระภิกษุ ซื่อเซิ่งโซ่วฝ่าซือ อย่างกระผม ประทับใจอีกอย่างหนึ่ง คือ การได้เห็นคุณครูไม่ใหญ่ใน DMC ครั้งแรกที่กระผมเห็น กระผมไม่นึกเลยว่า ผู้ที่มีอายุ 64ปี จะหน้าอ่อนเยาว์ขนาดนี้ ความเมตตาของคุณครูไม่ใหญ่ที่กระผมเห็นจาก DMC นั้น ไม่ใช่ความรู้สึกที่แต่งเติมขึ้นมา แต่เป็นความเมตตากรุณาจากภายในของคุณครูไม่ใหญ่จริงๆ
กระผมดีใจมากครับ ที่ได้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ในสมัยแรกๆที่เริ่มนั่งสมาธินั้น เนื่องจากกระผมอยากได้องค์พระเร็วๆ อยากเห็นความสว่าง อยากเห็นดวงแก้ว แต่ไม่ว่าจะนั่งนานแค่ไหนก็ไม่สมหวังสักที ทำให้ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความสุขจากธรรมรส แต่ภายหลัง พอได้อ่านหนังสือ เมื่อไม่รู้จะอ่านอะไร ที่รวบรวมโอวาทของคุณครูไม่ใหญ่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม และหนังสือแนะนำการนั่งสมาธิ ถึงได้รู้ว่า การนั่งสมาธิต้องใช้หลักการ พอดี รู้ถึงวิธีการเดินสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา ยิ่งไปกว่านั้นได้ตระหนักถึงคำว่า ปล่อยวาง ผ่อนคลาย เบาสบาย มากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าท่านั่งจะดูดีหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร จะมองเห็นอะไรหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่า หากเราผ่อนคลายและสัมผัสถึงความสบายได้ ก็จะสามารถเดินเข้าไปสู่ทางสายกลางได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้กระผมสามารถละทิ้งความอยากในทางโลก ละทิ้งความอยากที่ต้องการจะเห็นประสบการณ์ภายในไปได้ แม้แต่ความรู้สึกว่า ตอนนี้สบายแล้วหรือยัง ก็ไม่ได้สนใจสิ่งนั้น และเมื่อถึงตอนนี้ กระผมกลับสัมผัสได้ถึงความสุขที่กระผมนึกไม่ถึงมาก่อน
ดังนั้น ก่อนจะมาร่วมงานบุญใหญ่ วันคุ้มครองโลก กระผมจึงได้นำสาธุชนเมืองเสิ่นหยาง มาฝึกปฏิบัติธรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ สนแก้ววนาราม ในวันที่ 16-20 เมษายน พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลการปฏิบัติธรรม มากราบรายงานคุณครูไม่ใหญ่ดังนี้ครับ
ประสบการณ์ที่ดีของกระผม คือ เวลานั่งจะนั่งสบายจนลืมเวลา ลืมความเป็นตัวตน ถึงขนาดว่า ความอยากได้ที่อยู่ในใจก็หายไปด้วย แล้วกระผมก็พบว่า กลางตัวของกระผมมีความสว่าง เป็นความสว่างที่ไม่เหมือนแสงจากหลอดไฟ ในท่ามกลางความสว่างนั้น กระผมรู้สึกว่ามีตัวกระผมอีกคนหนึ่งที่ใสๆ ซ้อนอยู่ภายในด้วยครับ ตอนนี้ กระผมไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุทางโลกมาเติมเต็มความพึงพอใจให้ตนเองอีกแล้ว เพราะ กระผมมีความปีติ สบายและอิสรเสรี จากการนั่งสมาธิ จนไม่สามารถจะใช้คำว่า ยินดีเบิกบาน (หรือภาษาจีนว่า สี่เล่อ) มาอธิบายได้เลย
ตอนนี้ กระผมอยากติดตามสร้างบารมีไปกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆครับ ด้วยเหตุผล 3ประการ คือ
1.กระผมรู้สึกประทับใจ ในมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่กล่าวไว้ ณ ผาดำ
2.กระผมอยากตอบแทน ความเมตตาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้สืบทอดวิชชาธรรมกาย ทำให้กระผมได้เรียนรู้พุทธธรรมที่แท้จริง
3.เพื่อที่กระผมจะได้สั่งสมบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป เป็นเสบียงบุญในการเดินทางไปสู่พระนิพพาน
ดังนั้น กระผมจึงสมัครใจร่วมทางการสร้างบารมีไปกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และขออาสาเป็นลูกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อคนหนึ่ง ที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มกำลัง ทำพระนิพพานให้แจ้ง มุ่งสู่หนทางการหลุดพ้น และทำความปรารถนาของหมู่คณะให้สำเร็จ ส่วนตัวกระผมเองก็ตั้งความปรารถนา ที่จะบวชใหม่อีกครั้งเป็นพระเถรวาท เพื่อฝึกตนให้มีคุณสมบัติของความเป็นพระแท้ เป็นแสงตะเกียงส่องสว่างนำพาสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา พระเดชพระคุณหลวงพ่อจัดงานได้อย่างยิ่งใหญ่ และสง่างาม ช่างเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ และหาดูได้ยากมากในประเทศจีน การที่กระผมและสาธุชนเมืองเสิ่นหยางมาร่วมงานบุญใหญ่ครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พวกเราเคยร่วมบุญกันมาแต่ปางก่อน เป็นบุญวาสนาที่มีต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิธีหล่อพระธรรมกายประจำตัวในช่วงภาคค่ำ กระผมปีติจนน้ำตาไหลเลยครับ
สุดท้ายนี้ กระผมอยากจะบอกว่า ตอนนี้ประเทศจีน มีคนเริ่มสนใจพุทธศาสนาเถรวาทมากขึ้น หวังว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะเมตตาสนับสนุน การเผยแผ่ธรรมะให้กับชาวจีนมากยิ่งๆขึ้นไป กระผมอยากให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีอายุยืนนาน คนไทยต้องการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คนจีนก็ต้องการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และคนทั้งโลกก็ขาดพระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ได้ เพื่อที่จะสร้างสันติภาพอันแท้จริงให้เกิดขึ้นครับ
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆครับ
พระธรรมาจารย์ซื่อเซิ่งโซ่ว
สำนักปฏิบัติธรรมเต้าผิ่น
เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเฮหลงเจียง ประเทศจีน
ป.ล. มีคณะศิษย์ของกระผม ส่งผลการปฏิบัติธรรมมาถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยครับ