ผมจะเดินตามทางที่ผมได้เลือก

ผมชื่อ เฮนริค นิลเซ่น อายุ 41ปี ประกอบอาชีพอิสระครับ ผมเป็นชาวเดนมาร์ก และมีครอบครัวเป็นชาวคริสต์ แต่พ่อแม่ของผมชอบนั่งสมาธิ จึงทำให้ผมสนใจและเข้าใจมาตั้งแต่เด็กแล้วว่า การทำสมาธิจะทำให้มีความสุข ผมนั่งสมาธิอย่างจริงจัง เมื่ออายุ 20ปี ซึ่งเป็นการนั่งแบบ TM ทำให้ใจสงบ และยังสามารถทำให้ตัวผมลอยขึ้นได้ถึง 1.5เมตรครับ

เมื่อผมโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ได้นับถือศาสนาตามบรรพบุรุษแบบเป็นเรื่องเป็นราว ผมเชื่อเรื่องชาตินี้ชาติหน้า และสนใจเรื่องการนั่งสมาธิที่ทำให้เราอยู่เหนือเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งสามารถยกระดับจิตใจจนไปถึงจุดหลุดพ้นได้ ผมคิดว่า ความคิดของผมคงเป็นเรื่องแปลกที่ชาวเดนมาร์กไม่เคยคิดกัน

ต่อมา เมื่อผมเรียนจบก็เข้าทำงานและมีครอบครัว เนื่องจากผมเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ชอบอาหารมังสวิรัติ ชอบนั่งสมาธิ แต่คู่ชีวิตของผมกลับทำตรงกันข้าม การหย่าร้างจึงเกิดขึ้น ทำให้ผมมีความทุกข์ขึ้นมาทันทีครับ

ผมหนีความทุกข์ด้วยการทำงานหนัก จะได้ไม่ต้องคิดอะไร แต่ผมก็ไม่ทิ้งการนั่งสมาธิ เมื่อผมมีวันหยุดประมาณ 2-3อาทิตย์ เพื่อนๆพากันไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ผมไปเข้าคอร์สนั่งสมาธิ บางครั้ง ผมก็ตั้งทำใจทำงานเก็บเงินเต็มที่ แล้วลาออกจากงาน เพื่อไปนั่งสมาธิติดต่อกันถึง 4เดือน เมื่อเงินหมดผมก็หางานใหม่อีกครั้งแบบสบายๆครับ

พอผมอายุได้ 35ปี ผมมีความรู้สึกอย่างรุนแรงว่า จะต้องแสวงหาสิ่งที่ผมต้องการอย่างสูงสุด คือ การทำสมาธิที่ถูกต้อง เพราะตอนนี้ชีวิตเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป ผมจึงอธิษฐานว่า ขอให้ได้เจอคนที่สามารถนำทางหรือบอกทางไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น ผมอธิษฐานอยู่ 5ปีจึงสมหวังได้เจอแฟนคนปัจจุบัน เธอชื่อ ลำพา ทาปาระ ฮอร์ม เป็นนางพยาบาลชาวไทย และเธอก็เพิ่งผ่านการหย่าร้างมาเช่นเดียวกัน เธอเข็ดขยาดการมีครอบครัวใหม่ แต่เมื่อเจอกัน และผมได้บอกถึงจุดมุ่งหมาย เธอก็เลยโอเค เพราะเธอก็อยากได้บุญกุศลจากผมด้วยครับ

ลำพา พาผมมา วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก ซึ่งเธอรับบุญช่วยเหลือวัดแห่งนี้ ในด้านกฎหมายท้องถิ่นหรือเรื่องต่างๆที่วัดต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นผมไม่รู้จักพุทธศาสนาเลย แต่พอเห็นวัด ผมก็รู้สึกได้ทันทีว่า “นี่แหละ...ใช่เลย ประมาณนี้เลย”

วัดนี้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ สะอาด ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ผมอยากนั่งสมาธิขึ้นมาทันทีตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าวัด และมีเรื่องน่าประหลาดใจ คือ หลังจากผมทำบุญที่วัดนี้แล้ว สิ่งต่างๆที่ผมปรารถนาก็ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นทุกอย่างเลยครับ

ตั้งแต่ผมเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อครั้งแรก ผมจำพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้แม่นเลย เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อใส่แว่นตา เป็นคนใสๆ น่ารัก ร่าเริง แล้วผมก็ชอบรอยยิ้มของพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วย เมื่อมีคนบอกว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่ออายุ 64ปี ผมตกใจมากว่า เป็นไปได้อย่างไร อายุน่าจะไม่เกิน 45ปี นี่คงเป็นผลจากการนั่งสมาธิใช่ไหมครับ

พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ หนึ่งปีที่ผ่านมา ผมตามเทพธิดา (ลำพา) มาวัดโดยตลอด แล้วก็นั่งสมาธิตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อนำนั่งโดยตลอดด้วย แม้ไม่เข้าใจภาษาไทย แต่ก็รู้สึกสบาย ภายหลังเมื่อมีการแปลเป็นภาษาเดนมาร์ก ทำให้ผมเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามได้มากขึ้น ผลการปฏิบัติธรรมของผมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

บางครั้งนั่งอยู่ดีๆ ผมก็เห็นดวงแก้ว บางครั้งก็เห็นองค์พระแบบ Top-View ในแต่ละครั้ง ผมจะรับรู้ถึงพลังและความบริสุทธิ์ที่พุ่งขยายออกจากกลางกายของผมครับ และในปีนี้ ผมก็ตัดสินใจเข้าอบรมและบรรพชาที่วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก เป็นเวลา 2อาทิตย์ เพราะคิดว่า ชีวิตนักบวช เป็นชีวิตที่ปลอดโปร่ง เหมาะกับการปฏิบัติธรรมแบบเต็มที่ และเมื่อผมบวช ชีวิตก็เหมือนฝัน ผมได้สวมใส่จีวร ได้ศึกษาพุทธศาสนา และสวดมนต์เป็นภาษาบาลี แม้จะยากแต่ผมกลับชอบ และที่สำคัญที่สุด ผมได้นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 5ชั่วโมง และต่อไปผมก็จะกลับมาบวชยาวๆอีกครั้งครับ

ในช่วงที่ผมบวช ได้มีการจัดโครงการ The Middle Way ขึ้น ซึ่งผู้ที่บวชก็ได้เข้าปฏิบัติธรรมร่วมกับสมาชิกของโครงการ The Middle Way ด้วย ทำให้ผมได้เรียนรู้เทคนิควิธีทำสมาธิเพิ่มเติม และมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี มาฝากพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ครับ...

รอบหนึ่ง ผมเริ่มนั่งสมาธิ วางใจอยู่ที่กลางท้องเฉยๆ อย่างสบายๆ ไม่คิด

อะไรเลย ทำให้รวมใจได้เร็วขึ้น แล้วผมก็จะรู้สึกได้ถึงความดีและความรัก ที่แผ่ขยายมาจากกลางท้องหรือศูนย์กลางกายฐานที่7 กว้างออกไปรอบตัวผม

บางครั้ง เมื่อผมทำความรู้สึกให้เหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับเส้นขอบฟ้า ทันใดนั้นผมก็สัมผัสได้ถึงพื้นดินที่เราอยู่ เป็นเส้นวงแหวนขยายออกไปเป็นวงกลมรอบตัว เป็นความรู้สึกที่พิเศษมากๆครับ

วันต่อมา พอผมนึกถึงวงกลมสีฟ้าๆ สักพักก็ปรากฏภาพพระประธานสีฟ้าให้เห็น เป็นความรู้สึกที่ทรงพลังมากๆ ผมจึงอยากเชิญชวนทุกคนได้หาโอกาสฝึกนั่งสมาธิ เพราะสิ่งนี้จะทำให้เรามีความสุข และความสุขจากการนั่งสมาธิก็ยาวนานกว่าความสุขอื่นใดครับ

ตอนนี้ สมาธิทำให้ครอบครัว, เพื่อน, การงาน และสิ่งต่างๆในชีวิตของผมโดยทั่วไปดีขึ้น ผมสามารถปล่อยวางความกังวลต่างๆได้ง่าย และช่วยให้ผมตัดสินใจในสิ่งต่างๆได้ถูกต้อง และถูกทางด้วยครับ

ผมอยากขอบคุณลำพา ที่พาผมมาเจอพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะ พาผมมาเจอวัดพระธรรมกายเดนมาร์ก และวิธีการปฏิบัติธรรมที่ผมแสวงหา ตอนนี้เธอบอกทางผมแล้ว ต่อจากนี้ผมก็จะเดินตามทางที่ผมได้เลือก คือ ทางสายกลางที่มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นผู้นำครับ

สุดท้ายนี้ ผมขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ได้สอนสมาธิให้ทุกคนเข้าถึงความสุขภายใน และสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ผมจะตั้งหน้าตั้งตารอรับทราบข่าวสารต่างๆจากวัดพระธรรมกาย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับรู้เรื่องราวทาง DMC เป็นภาษาอังกฤษมากยิ่งๆขึ้นไปด้วยนะครับ

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรเฮนริค นิลเซ่น (ประเทศเดนมาร์ก)