ผลการปฏิบัติธรรม

คุณมิเชลล์ วินเซนต์ (เซ้าท์แอฟริกา)
 
 
    สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนๆนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ก็ได้ร่วมอนุโมทนาบุญกับผลการปฏิบัติธรรมของ คุณลักกี้ และ คุณบองก๊านี่ จากโจฮันเนสเบิร์ก เซ้าท์แอฟริกา ผ่านโครงการสมาธิ The Middle Way ครั้งแรกในทวีปแอฟริกา ไปเรียบร้อยแล้ว
 
    ในสัปดาห์นี้ เราจะได้รับชมผลการปฏิบัติธรรมจากสมาชิกผิวขาว ซึ่งแม้เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศเซ้าท์แอฟริกา แต่ทว่าด้วยวัฒนธรรมที่มีวินัย จะทำอะไรก็ทำจริง ทำให้ชนผิวขาวเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนี้ ปัญหาการแบ่งแยกผิวได้ทุเลาลง หลังจากยกเลิกการเหยียดสีผิวในปี พ.ศ.2537 การเมืองการปกครอง ก็ตกไปอยู่ในมือของชนผิวดำท้องถิ่น ชนผิวขาวจึงผันตนเองมาอยู่ในภาคเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะต้องแข็งแกร่งมาก ท่ามกลางการแข่งขัน และกฎหมายที่ไม่เอื้ออำนวยเหมือนในอดีต
 
    วันนี้ เราเข้ามาสู่ภาคที่สองของการนำเสนอ Series The Middle Way จากแอฟริกาใต้ ภาคที่สองนี้ เป็นภาคคนผิวขาว ซึ่งมีผลการปฏิบัติธรรมที่โดดเด่นถึง 3ท่านด้วยกัน เรามาเริ่มด้วยท่านแรก เป็นสุภาพสตรีที่มาดมั่น แต่นุ่มนวล...
 
 
    สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ มิเชลล์ นามสกุล วินเซนต์ เป็นคนโจฮันเนสเบิร์ก เซ้าท์แอฟริกาค่ะ เป็นนักบำบัดวิทยาเชิงอภิปรัชญา (Metaphysical Healer) มีความชอบเรื่องศาสนา ปรัชญา มาเป็นเวลานาน เคยฝึก TM มาก่อนหน้านี้ และเคยสวดมนต์แบบญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นสมาธิอีกแบบหนึ่งเช่นกัน
 
    ดิฉันได้มารู้จักกับ วัดพระธรรมกายโจฮันเนสเบิร์ก ก็เพราะมีเพื่อนชื่อ คุณปีเตอร์ แนะนำให้มาฝึกสมาธิที่นี่ ดิฉันเป็นสมาชิกคลาสสมาธิวันอาทิตย์อยู่ได้ระยะหนึ่ง จนกระทั่งทางวัดได้ออกใบสมัครโครงการสมาธิ The Middle Way รุ่นแรกในทวีปแอฟริกา ดิฉันจึงรีบสมัครเป็น 1 ใน 12คนแรก นับเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งทีเดียวค่ะ
 
    หลักสูตร The Middle Way เป็นหลักสูตรที่เรียบง่าย แต่ว่าสนุกสนานมาก โดยเฉพาะการนำใจไปสัมผัส “ศูนย์กลางกาย” ดิฉันพบว่า การติดตามลมหายใจ เข้าไปจนสุดกลางท้อง เพื่อไปสัมผัสกับศูนย์กลางกายนั้น ทำให้ดิฉันสงบใจได้อย่างรวดเร็วมาก มากกว่าวิธีการอื่นๆที่ดิฉันเคยฝึกมา
 
 
    การฝึกสมาธิแต่ละรอบนั้น ได้นำประสบการณ์ใหม่ๆมาให้ดิฉันเสมอ แต่มีอยู่รอบหนึ่งในวันที่สองของคอร์ส The Middle Way ดิฉันถูกห้อมล้อมด้วยความโล่งว่างเหมือนทะเลทรายสีทองคำ สว่างไสว แล้วความสว่างก็ขยายกว้าง สว่างออกไปสุดขอบฟ้า เป็นความรู้สึกที่สงบสุขอย่างไร้ขอบเขต เป็น Infinity ไม่มีที่สิ้นสุด และแล้วโดยไม่มีอะไรบอกล่วงหน้า ท่ามกลางความสว่างนั้น ดิฉันเห็นพระพุทธรูป ประทับนั่งอยู่ ณ กึ่งกลางของทะเลทรายสีทองนั้น ดิฉันมีความสุขมาก
 
 
    รอยต่อของแต่ละรอบนั้น ดิฉันใช้ดวงจันทร์สว่างกลางท้องเป็นสัญลักษณ์ หรือ Landmark ของใจ ทุกครั้งที่ดิฉันต้องการกลับใจเข้าไปในศูนย์กลางกาย ภาพดวงจันทร์ก็สว่างรอดิฉันอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมาธิของดิฉันก้าวหน้ามากค่ะ
 
    หลังจากจบคอร์สแล้ว ดิฉันก็นั่งสมาธิที่บ้านทุกวัน และมานั่งที่วัดในวันอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง ดิฉันพบว่า นั่งที่บ้านคนเดียว สว่างน้อยกว่ามานั่งกับเพื่อนๆอีก 20-30คนในวันอาทิตย์ ที่วัดพระธรรมกายโจฮันเนสเบิร์ก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด
 
    พระอาจารย์ถามว่า การที่ดิฉันได้เห็นพระพุทธรูปที่กลางตัว จะไปกระทบต่อการนับถือศาสนาของดิฉันหรือไม่ ดิฉันตอบไปว่า “ไม่กระทบค่ะ” เพราะดิฉันเป็นคนนับถือเรื่องจิตนิยม ตราบใดที่เราชื่นชอบในการทำความดี จิตใจรักสงบ สมาธิก็เหมาะกับเราโดยอัตโนมัติ โดยไม่ขัดแย้งต่อศาสนาดั้งเดิมของเราค่ะ
 
    ดิฉันเชื่อมั่นว่า สันติภาพจะต้องเกิดจากพวกเราแต่ละคน ซึ่งจะต้องสร้างสันติสุขภายในตนเองเสียก่อน แล้วจึงค่อยส่งผ่าน Inner Peace นี้ ไปยังสมาชิกในครอบครัว และญาติสนิทมิตรสหาย เป็นลำดับต่อไป
 
    กราบขอบพระคุณท่านเจ้าอาวาสธัมมชโย (พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์) ที่เมตตาส่งพระภิกษุมาสอนสมาธิที่ประเทศเซ้าท์แอฟริกาค่ะ
 
สวัสดีค่ะ
 
มิเชลล์ วินเซนต์
โจฮันเนสเบิร์ก เซ้าท์แอฟริกา

Scoop พิเศษ โครงการ The Middle Way ครั้งที่1 South Africa
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/South_Africa_Michelle.html
เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567 04:11
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv