ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรอาทิตรา วิเชียร (ประเทศไทย)
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    มะเร็งระยะสุดท้าย...บอกได้เลยว่า แค่หลับตาก็ “ชิว ชิว” แต่หากไม่ได้หลับตา ขนตาก็คงไม่เหลือให้ปัดมาสคาร่า (ที่ปัดขนตาให้งอน, ดำ) แม้แต่เส้นเดียว และคงไม่ได้อยู่ดูโลกสวยงามใบนี้ไปแล้วค่ะ
 
 
    ลูกชื่อ อาทิตรา วิเชียร อายุ 40ปี สามีเป็นตำรวจ เรามีลูกด้วยกัน 2คน ลูกสาวคนโต อายุ 9ขวบ ส่วนลูกชายอายุ 8ขวบ วันร้ายคืนหลอน...ลูกได้คลำที่ลำคอของตัวเอง แล้วพบก้อนเนื้อปริศนา ลูกไม่รีรอ ไปหาหมอเกือบ 10คนภายใน 2เดือน สรุปคือ มะเร็งร้ายมาเยือนอย่างไม่ได้รับเชิญ
 
    มะเร็งลามจากต่อมน้ำเหลืองสู่ลำคอ แล้วลามต่อไปถึงปอด อันเป็นระยะสุดท้าย วินาทีนั้น...ลูกหวาดกลัวจนตัวสั่น หน้าซีดเหมือนไก่ถูกต้มสุก รู้สึกเคว้งคว้าง สับสน เหมือนหลงทางอยู่กลางป่าเพียงลำพัง หวั่นไหว หวาดกลัวมรณภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ แต่ใครเล่าจะยอมตายจากลูกน้อยที่แสนรักแสนห่วงใย ตราบยังมีลมหายใจ ชีวิตย่อมมีความหวัง
 
    ลูกเข้ารักษา ทำคีโมตามหมอแนะนำ 15รอบ ผลลัพธ์ที่ได้คือ สวยขึ้นผิดตา...เส้นผมร่วงกรู...หัวล้าน, ผิวหนังเหี่ยวแห้งดำเกรียมเหมือน ส.ก. (สาวแก่) ตากแดด, ผอมแห้งแรงน้อยที่มีแต่กำลังวังชรา, รูปร่างผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ทั้งยังต้องกล้ำกลืนทานยาอย่างทนทรมาน เพราะทุกครั้งที่กลืนยา มันร้อนวูบวาบไปทั่วสรรพางค์กาย
 
    ส่วนยาฉีด เมื่อกลับบ้านก็อาเจียน ทานอะไรไม่ได้ 5วัน แม้แต่น้ำก็ดื่มไม่ได้ เหมือนใจจะขาด นึกถึงบุญไม่ได้เลย ต้องพรางตัวใส่เสื้อผ้า 3-4ชั้น ใครมาเห็นสภาพ ต่างก็ว่า “ไม่รอด” ทำให้ลูกรู้สึกเจ็บปวด ผิดหวัง และด้วยความที่ใบหน้าของลูกล้ำหน้า ล้ำอนาคต ทำให้ลูกอับอายที่จะพบใคร น้ำตาเท่านั้นคอยเป็นเพื่อน ทว่าลูกบอกตัวเองว่า “ฉันต้องไม่ตาย ฉันอยากทำบุญ”
 
    วันหนึ่ง หมอแนะนำให้พบจิตแพทย์ ลูกฉุกคิดขึ้นมาว่า สมัยที่เป็นนักศึกษา เมื่อปี พ.ศ.2533 ได้ซื้อหนังสือ “เดินไปสู่ความสุข” อ่านแล้วชอบมาก เมื่อมีคนแนะนำให้มาวัดพระธรรมกาย ลูกก็ดั้นด้นมา ได้เห็นวัดก็รู้สึกชื่นชอบและผูกพัน จึงเข้าอบรมธรรมทายาทหญิง แต่หลังเรียนจบ ลูกแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่กับคุณพ่อและคุณแม่ที่สัตหีบ เพื่อไปช่วยดูแลธุรกิจของท่าน เนื่องจากคุณแม่ป่วยหนักเป็นโรคเบาหวาน ทำให้ต้องห่างวัดไปนาน 10ปี เมื่อลูกระลึกถึงความหลังเมื่อครั้งมาวัด พลังใจก็มีมา
 
    ลูกให้สัจจะกับตัวเองว่า “จะตั้งใจนั่งสมาธิไม่ขาดแม้แต่วันเดียว” ลูกฝืนทุกขเวทนาสวดมนต์ นั่งสมาธิ วันละหนึ่งชั่วโมง ราว 2เดือน แต่เพียงไม่กี่วันก็เห็นดวงสว่างที่ศูนย์กลางกาย เบา สบาย จึงตรึกน้อมไว้ทุกเวลา กระทั่งถึงวันที่เดินทางไปฉายแสงครั้งที่17 ลูกก็นั่งหลับตาลงแล้วมองลงไปในกลางกาย ตรึกน้อมแต่องค์พระ เมื่อหมอตรวจ ท่านบอกว่า “จุดฉายแสงที่ขั้วปอด มะเร็งหายไปแล้ว”
 
    จากนั้นไม่กี่วัน บุญหนุนส่ง ในปี พ.ศ.2549 สามีซื้อทีวีใหม่ จูนมาเจอ DMC โดยบังเอิญ ลูกเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อในจอทีวี ลูกตื่นเต้นมากค่ะ หัวใจของลูกแทบจะกระโดดไปหาพระเดชพระคุณหลวงพ่อทันที พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังหนุ่มเหมือนเดิม ริมฝีปากแดง ดู Look young เปล่งปลั่ง ผ่องใส อ่อนกว่าวัย รอยยิ้มช่วยให้โลกทั้งใบสดชื่นเบิกบาน
 
    ลูกกราบแล้วกราบอีก ดีใจที่ต่อนี้ไป...พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะมาเยี่ยมถึงบ้านทุกวัน แม้ตัวลูกจะห่างวัด แต่ศรัทธาไม่เคยห่าง ส่งปัจจัยทำบุญสม่ำเสมอ สร้างองค์พระประจำตัว ให้คุณพ่อ-คุณแม่, คนในครอบครัวทุกคน ครั้งหนึ่งลูกได้เข้าปฏิบัติธรรมที่วัดใกล้บ้าน เกิดพระอาทิตย์ทรงกลด ลูกก็ขอพรให้เข้าถึงธรรม ให้หายป่วย
 
    เมื่อพระอาจารย์นำเดินจงกรม “Step by สติ” ก้าวย่างอย่างมีสติ ลูกจึงน้อมดวงอาทิตย์นั้นไว้ที่กลางกาย ทำตามที่เคยอบรมธรรมทายาทหญิง ปรากฏว่า ดวงแก้วสว่างผุดเป็นสาย ผุดขึ้นเป็นคู่ๆตามกัน ลูกรีบอธิษฐานให้หายป่วยทันที
 
    ลูกตรึกแต่ศูนย์กลางกาย เพราะกลัวดวงธรรมจะหาย เมื่อหมอนัดตรวจอีกครั้ง ก่อนเอกซเรย์ต้องฉีดยาเข้าเส้นเลือดที่มันแข็งหมดแล้ว ถึง 7รอบ เมื่อนอนในเครื่องคอมพิวเตอร์ลักษณะเหมือนแคปซูลขนาดใหญ่ ลูกวางใจนิ่งที่ศูนย์กลางกาย พลันองค์พระผุดสว่าง ร่างกายเบาสบายและเป็นสุข จนไม่อยากออกจากแคปซูล หมอเป็นคนสแกนร่างกายภายนอก แต่ลูกช่วยหมอสแกนพระในตัว
 
    ลูกจึงคิดได้ว่า การเข้าถึงธรรมไม่จำเป็นต้องอยู่ในอิริยาบถนั่งเท่านั้น ดังนั้นหากจะดูของดีภายใน ก็ไม่ต้องมีลีลาท่าสวยงาม และเพราะบุญจากการเข้าถึงพระในตัว ที่เป็นบุญไร้สาย แรงติดจรวด ทำให้ผลตรวจเอกซเรย์ออกมาปรากฏว่า มะเร็งตายเป็นซากไปแล้ว ลูกยิ่งกลายเป็นสาวน้อยตีปีกตัวลอย ยกมือสาธุดีใจสุดชีวิตสุดพรรณนา เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ดีใจจนเนื้อเต้น แทบจะตะโกนไชโยออกมาเลยทีเดียว คุณหมอได้แต่เป็นงง ลูกคว้ากระเป๋ากลับบ้านทันที
 
    ในที่สุดมะเร็งร้ายก็เป็นฝ่ายวายชีวาตม์ ด้วยโอสถวิเศษ...หลับตาทำสมาธิ นี่แหละประโยชน์ของสมาธิ ช่างเต็มไปด้วยสิ่งอัศจรรย์เกินจินตนาการจริงๆค่ะ ทุกวันนี้ ลูกปฏิบัติธรรมอยู่ที่บ้านอย่างมีความสุขใจ เย็นกาย สบายปอด เพราะลูกตรึกองค์พระอยู่กลางกายตลอดเวลาค่ะ
 
    ประสบการณ์ภายในของลูกนั้น เห็นองค์พระแก้วใสสว่างกลางกาย ผุดเป็นสายชัดเจน โดยเริ่มจากเห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯในกลางกาย บางครั้งเห็นตัวเองเป็นจุดใสมาทางท่อแก้วที่ใสกว่าเพชร วางใจเฉยๆ ตามคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เห็นองค์พระเกตุดอกบัวตูม วางใจนิ่งๆ นุ่มๆ แผ่วๆ อยู่กลางกายเหมือนนุ่น องค์พระผุดเป็นสาย องค์ใหญ่ผุดสวนขึ้นมา สวยใสสว่าง ติดตา ติดใจ ตลอดเวลา เมื่อนั่งจะคิดว่า “กายเราเป็นองค์พระ องค์พระเป็นตัวเรา” ใจจรดนิ่ง
 
    ประโยชน์ของการนั่งสมาธินั้น อลังการล้านแปด ช่วยให้ลูกหายทุกข์ หายป่วย ทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับ หน้าตาบุคลิกดีขึ้นทันที ทำให้กลับมาสวยสาวพราวเสน่ห์เหมือนเดิม แถมยังผ่องใส บุญที่เกิดจากการปฏิบัติธรรม ช่างเป็นเกราะคุ้มครองความปลอดภัย เป็นยิ่งกว่าผนังทองแดงกำแพงเหล็กเสียอีก แล้วเมื่อลูกหายป่วยก็อยากรวยต่อค่ะ
 
    ลูกอยากบอกว่า “ให้ทุกคนทำตามครูบาอาจารย์สอน ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือที่ใด ทำตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอก ถ้าทำจริงต้องได้ทุกคนและทุกเวลา ทุกวันนี้ลูกเห็นเรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ทุกอย่างแก้ไขได้ อย่าท้อ อย่าโทษโชคชะตา ขอย้ำว่า ผู้ที่ปฏิบัติธรรม ย่อมมีธรรมเป็นเกราะ เป็นที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริงค่ะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
 
ลูก อาทิตรา วิเชียร
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/Thailand_Arthitra.html
เมื่อ 18 กรกฎาคม 2567 10:20
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv