Untitled Document

ผลปฏิบัติธรรม


กราบนมัสการ หลวงพ่อที่รักและเคารพของลูกเจ้าค่ะ

ลูกชื่อ สุภัค  เจริญกิจชัยชนะ อายุ 43 ปี เป็นคนกรุงเทพฯ ใกล้วัดพระธรรมกายนิดเดียว แต่กว่าลูกจะฝ่าด่านค่ายกลวังวนชีวิตมาจนเจอวัดพระธรรมกายก็ใช้เวลาถึง 40 ปี ตัวลูกเติบโตในครอบครัวที่มีพี่น้อง 4 คน คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่ลูกอายุเพียง 16 ปี ครอบครัวของเรานับถือศาสนาพุทธแบบจีนๆ ประเภทไหว้เจ้า เขย่าติ้ว หิ้วไก่ไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษตามประเพณี ความรู้ทางศาสนาพุทธที่แท้จริงนั้นรู้น้อยมาก ขณะที่เป็นนักศึกษาลูกเคยใช้ชีวิตอย่างที่เข้าใจว่าคุ้มค่าคือทั้งเที่ยวกลางคืน ทั้งดื่มเหล้า เพราะในช่วงนั้นลูกมีปัญหาชีวิตมากมาย แต่ไร้ทางออก
 
 

กัลฯ สุภัค เจริญกิจชัยชนะ

พอพึ่งสุรา ปัญญาก็ไม่เกิด สติเตลิด พร้อมระเบิดอารมณ์ ระหว่างนั้นลูกก็ช่วยคุณแม่ทำธุรกิจไปด้วย เที่ยวไปด้วย ทำไปทั้งที่เครียดตลอดเวลาจนทำให้ลูกติดยานอนหลับ

จนปลายปี 2549 เส้นทางชีวิตของลูกก็ก้าวมาถึง ต. คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าวัดพระธรรมกายเพราะลูกได้พบกัลยาณมิตรคือคุณชัยชนะ เพ็ชรวิเศษศิริ ซึ่งพาลูกเที่ยวชมวัดพระธรรมกาย จนพาลูกไปนั่งสมาธิครั้งแรกที่ห้องปัญญา ลูกนั่งเพลินจนห้องปิด ความรู้สึกเหมือนแป๊บเดียวแต่ปาเข้าไปเกือบ 2 ช.ม. โดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ จากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์คุณชัยชนะได้พาลูกไปกราบพระอาจารย์รูปหนึ่งฟังท่านเทศน์ไม่ถึง 5 นาที ลูกตัดสินใจเลิกดื่มเหล้าทันที

จากนั้นลูกเริ่มใช้ธรรมะโอสถแทนยานอนหลับ ทั้งสวดมนต์ อ่านหนังสือธรรมะ นั่งสมาธิก่อนนอนค่ะ คืนหนึ่งในขณะที่ลูกสวดมนต์เพลินๆ ก็พลันเห็นภาพองค์พระในอิริยาบถต่างๆ ทั้งที่เรื่องนั่งสมาธิเห็นองค์พระอะไรนี่ ลูกไม่เคยทราบหรือได้ยินที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต ลูกก็นึกในใจว่าเราคงเพี้ยนแล้ว จึงได้เล่าเรื่องราวให้พระอาจารย์ฟัง ท่านตอบว่า ลูกไม่ได้เพี้ยนแต่กำลังจะนั่งสมาธิได้ ขอให้น้อมนำพระเข้ามาในกาย ลูกจัดการทำตาม ในคืนนั้นหลังสวดมนต์เสร็จ ลูกก็นั่งสมาธิตามปกติพอเห็นภาพองค์พระลอยปรากฏอยู่ด้านหน้า ลูกก็เสยผมอันสลวยสวยเก๋ของลูก แล้วหันหน้าไปหาองค์พระและพูดว่า นิมนต์เจ้าค่ะ ผลคือไม่สำเร็จท่านไม่รับนิมนต์ เพราะทำไม่ถูกวิธีและไม่รู้วิธีที่ถูก ลูกไม่รู้จะถามใครก็ทำงานไปตามปกติทั้งสวดมนต์ นั่งสมาธิ เห็นภาพองค์พระแบบงงๆ ของลูกไปเรื่อยๆ แล้วเธอจะเข้าใจ

 


ท่า peace position กัลฯ สุภัค เจริญกิจชัยชนะ

 

ราวเดือน ตุลาคม ปี 2550 กัลฯอีกคนชื่อ คุณสิรภพ มาชวนลูกไปอยู่ ธุดงค์แก้วที่วัด ทำให้ลูกเข้าใจวัฒนธรรมชาวพุทธมากอย่างที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อน เช่น การกราบพระ การแต่งกาย ได้ถือศีล 8  ได้นั่งสมาธิทำให้ลูกเริ่มมีประสบการณ์ภายในที่ดี ลูกจึงหาเวลาไปปฏิบัติธรรม 7 วันที่สวนพนาวัฒน์ ลูกจะเริ่มจากการปรับท่านั่งให้สบาย แล้วภาวนาไปเรื่อยๆจนใจหยุด ลูกสังเกตว่าตั้งแต่ลูกฝึกตรึกองค์พระทุกวันทำให้รวมใจได้ง่ายและเร็วขึ้น เมื่อใจนิ่งดีก็เกิดเป็นแสงเหมือนพลุที่ไม่มีเสียงพุ่งขึ้นจากกลางท้องกระจายออกเป็นภาพองค์พระสว่างกระจายทั่วท้อง ลูกปีติ สุขใจจนน้ำตาไหล หรือขณะที่พระอาจารย์ให้พรลูกจะตรึกพระในกายไปด้วย ภาพที่เห็นคือ ภายใต้ฐานพระจะมีรัศมีคล้ายวงน้ำขยายใหญ่ขึ้น แล้วมีวงเล็กผุดซ้อนออกมาใหม่ไปเรื่อยๆ เร่งเร็วคล้ายๆน้ำกระเพื่อม ลูกมีความสุขมากจนต้องหาโอกาสมาปฏิบัติธรรมอีก คราวนี้ยิ่งดีใหญ่เพราะได้พระอาจารย์ให้คำแนะนำโดยที่ลูกไม่ต้องถามแค่คิดในใจ ท่านบอกลูกว่า ทีหลังใจหยุดแล้วอย่าสัมมาอะระหังสิโยม ใจถอยรู้มั้ย ท่านยังบอกอีกว่า เวลาตรึกองค์พระให้ตรึกที่กลาง โยมตรึกอย่างนั้นโยมเข้ากลางยากรู้มั้ย ที่ท่านพูดเช่นนั้น เพราะลูกชอบตรึกพระที่หางตาบ้าง ที่หน้าผากบ้าง ตามแต่จะนึกได้ ลูกก็เลยมานั่งมึนงงอยู่หน้าห้องปฏิบัติธรรมว่าพระอาจารย์รู้ได้อย่างไรเนี่ย

คราวนี้พอทราบเทคนิคแล้ว ลูกแค่หลับตาเบาๆ ปรับท่านั่งให้สบายจนรู้สึกว่าผ่อนคลายทุกส่วน ภาวนาไปเรื่อยๆจนใจนิ่ง ลูกก็รู้สึกว่ามีน้ำตกไหลลงมากลางท้อง เย็นชุ่มฉ่ำแต่นุ่มนวล ไม่มีแรงกระแทก ไม่มีเสียง รู้สึกสดชื่นมาก และมีองค์พระสีฟ้าพุ่งขึ้นมาเป็นสายสวนทางกับสายน้ำตก รู้สึกว่าตัวเองไม่มีแขน ขา ไม่มีตัวตน มีแต่แสงสว่างที่กลางท้อง เป็นสุขที่สุด สดชื่น นุ่มๆ ชุ่มฉ่ำอย่างประหลาด ทำให้ลูกซาบซึ้งถึงความเมตตาของหลวงพ่อที่เตรียมสถานที่ปฏิบัติธรรมอันดีเลิศทุกด้าน เพื่อให้พวกลูกๆได้ฝึกตนและได้พบกับความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้ นอกจากการหยุดใจ หยุดตรงนี้...ที่ธรรม

จากการที่ลูกได้นั่งสมาธิและศึกษาธรรมะ ทำให้ชีวิตของลูกเปลี่ยนไป ลูกใจเย็นขึ้นมีสติรู้เท่าทันใจตัวเอง หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้ใจขุ่น เลิกกินยานอนหลับ เลิกเหล้า เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกขี้โมโห แล้วหันมาสั่งสมบุญบารมี ชักชวนเพื่อนๆร่วมอยู่ในบุญกับลูก แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจ สังคมจะไม่ดีอย่างไร แต่ลูกกลับไม่กลัวอะไร รู้สึกเฉยๆ ไม่ว่าเรื่องราวใดๆ เข้ามาในชีวิตลูกจะใช้สติแก้ไขได้อย่างประหลาดเหมือนฉลาดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งตัว นี่กระมังที่เรียกว่าวิชชาธรรมกายสร้างความสุขอย่างประเมินค่ามิได้

ลูกอยากกราบเรียนจากใจว่าจากการที่ได้มาสัมผัสมโนปณิธาน และผลงานต่างๆของหลวงพ่อ ลูกรู้สึกทึ่งมากๆ พวกลูกๆ จะช่วยงานทุกงานของหลวงพ่ออย่างเต็มที่เต็มกำลัง จะไม่ให้ความเสียสละและความเหนื่อยยากของหลวงพ่อสูญเปล่าเลย ลูกจะขอติดตามหลวงพ่อไปทุกภพทุกชาติ ตราบถึงที่สุดแห่งธรรมเลยเจ้าค่ะ

กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ เจ้าค่ะ
ลูกสุภัค เจริญกิจชัยชนะ        

 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/Thailand_Supak.html
เมื่อ 18 กรกฎาคม 2567 02:33
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv