สันติภาพโลก เริ่มต้นที่ตัวเรา

ผมชื่อ แอร่อน วอล์ดแมน (Aaron Voldman) อายุ 20ปี ผมมาจากเมือง

เวอร์มอนท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่3 เอก “ปรัชญา” โท “สันติภาพ ความขัดแย้ง และการอยู่ร่วมกัน” ที่มหาวิทยาลัยแบรนดีส

ผมเป็นผู้อำนวยการโครงการเครือข่ายเยาวชนเพื่อสันติภาพ ซึ่งเป็นเครือข่ายเยาวชนอเมริกา ที่ขับเคลื่อนงานเพื่อให้เกิดการจัดตั้งกระทรวงแห่งสันติภาพขึ้น ขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 54เครือข่ายทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา และผมยังเป็นผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนระดับโลก เพื่อจัดตั้งกระทรวงแห่งสันติภาพในประเทศอื่นด้วย

ผมมาร่วมประชุมกับกลุ่มเยาวชน WSYC ครั้งนี้ที่เมืองไทย ก็เพราะผมอยากมาเรียนรู้ความเชื่อมโยงของจิตใจที่มีต่อสิ่งต่างๆ เพราะผมเชื่อว่าจิตใจอยู่เบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่าง และผมคิดว่า สมาธิน่าจะช่วยให้ผมเข้าใจตัวผมเองมากขึ้น และจะเป็นประโยชน์กับงานด้านการเมือง ที่ผมกำลังพยายามผลักดันอยู่ ผมคิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศผม และกำลังผลักดันให้อเมริกา และอีกหลายประเทศ หันมาให้ความสนใจเรื่องจิตใจและสันติภาพ มากกว่าเรื่องความเจริญทางวัตถุและสงคราม

ขณะนี้เราผลักดันให้เนปาล และหมู่เกาะโซโลมอน จัดตั้งกระทรวงแห่งสันติภาพได้แล้ว สำหรับประเทศอเมริกา ผมเห็นว่า อเมริกากำลังเผชิญกับความท้าทายจากระบบการเมืองของตัวเอง ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า การเมืองมันกระทบชีวิตส่วนตัวของพวกเรา ถ้าเป็นเช่นนั้น การเมืองก็ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทางจิตใจ และจิตวิญญาณด้วย ถึงจะสามารถนำพาความสงบสุขมาให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง และผมก็คิดว่าการมาเมืองไทยครั้งนี้ อาจให้คำตอบบางอย่างกับผม ในการนำเรื่องสมาธิหรือจิตภายใน มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันและงานของผม

ผมเองยังไม่เคยฝึกสมาธิโดยมีครูสอนเลย เพราะที่ผ่านมาผมก็แค่นั่งสมาธิเองสัก 5นาที แต่ผมชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ดังนั้นการมาที่นี่ จึงเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มากสำหรับผม บ่ายวันหนึ่งขณะที่ผมหลับตาและเริ่มต้นด้วยการภาวนา “สัมมา อะระหัง” สักพักผมก็ใช้วิธีการไล่ไปทีละฐาน เริ่มจากฐานแรก แล้วก็มาจบด้วยการนึกถึงดวงแก้วไว้ที่ศูนย์กลางกาย โดยนึกว่า ดวงแก้วขยายออกไปเรื่อยๆ 2ฟุต 3ฟุต 4ฟุต 5ฟุต จนกระทั่งตัวผมอยู่ในดวงแก้ว

แล้วผมก็เห็นแสงพุ่งออกมา มันทำให้ผมมีความสุขสุดๆเลยครับ และก็ทำให้ผมตื่นเต้นด้วย มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเลย มันทำให้ผมมีสติมากขึ้น หลังจากนั้นผมก็มานั่งสังเกตเห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างการเห็นกับการนึก ผมว่าผมแยกออก ประสบการณ์ภายในที่ผมได้รับในวันนั้น ผมรู้เลยว่าจะเป็นประโยชน์กับงานที่ผมทำอย่างมหาศาล และจะมีผลกับชีวิตของผมตลอดไป

ตอนนี้ ผมเห็นคุณค่าของสมาธิมากครับ มันเป็นสิ่งที่วิเศษมากจริงๆ ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมสมาธิถึงช่วยชะล้างความสกปรกออกจากใจได้ และสมาธิยังทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย ในโลกที่สับสนวุ่นวายที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องหมั่นทำความสะอาดใจอยู่เสมอ เราก็สามารถนำสมาธิเข้ามาแก้ไขปัญหา และความขัดแย้งที่เราเจอในชีวิตประจำวันด้วย

ผมว่า ทุกคนควรหาโอกาสในการมาฝึกสมาธิ อย่างน้อยสัก 5วัน มันคุ้มค่ามากสำหรับสิ่งที่คุณจะได้รับ ผมเองก็จะกลับไปนั่งสมาธิเป็นประจำ และจะแนะนำเรื่องสมาธิให้กับคนรอบข้างด้วย

การได้มาวัดพระธรรมกาย ทำให้ผมประทับใจและมีความสุขมาก ช่วงที่ปฏิบัติธรรมนั้น พระอาจารย์ท่านจะเล่าประวัติความเป็นมาของวัดให้ฟัง แต่เมื่อมาสัมผัสเอง มันสุดยอดกว่ามาก ความจริงผมไม่ได้ทึ่งเรื่องการก่อสร้างมากนัก แต่ผมทึ่งในมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในการสร้างวัดมากกว่า

โดยเฉพาะตอนที่ยืนอยู่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์ แล้วพระอาจารย์เล่าเรื่องการรวมคนหนึ่งล้านคนเพื่อทำสมาธิ มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมกำลังอยู่ท่ามกลางการขับเคลื่อน ที่มีพลังอย่างมหาศาล ในการเปลี่ยนแปลงจิตใจของมนุษย์ ให้หันมาสนใจความสุขจากภายใน มันทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะกล้าฝันใหญ่ต่อไป และตระหนักว่า เราสามารถไปถึงฝันนั้นได้จริง

ผมชอบที่จะอยู่ท่ามกลางผู้คนที่สนใจเรื่องสมาธิ เพราะสมาธิทำให้เราเข้าอกเข้าใจกัน รักกัน และอยากแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น ถ้าทุกคนอยากแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมได้มีโอกาสมาร่วมงานกับมูลนิธิธรรมกาย

ผมคิดว่า สิ่งที่วัดพระธรรมกายกำลังทำอยู่นี้ ยิ่งใหญ่มาก และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง กระบวนทัศน์ทางความคิดของผู้คนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผู้คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการรู้จักตัวเอง การแสวงหาวิธีการดำเนินชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งผู้นำทางศาสนาและจิตวิญญาณอย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง จะมีส่วนสำคัญยิ่ง ในการช่วยพวกเขาเหล่านั้นให้รู้จักวิธีการค้นหาตัวเอง และทำให้เขาได้เข้าใจความจริงของชีวิต

ผมได้ศึกษาวิธีการสร้างหมู่คณะของวัดพระธรรมกายที่ผ่านมา ทำให้ผมเชื่อมั่นเหลือเกินว่า งานที่วัดพระธรรมกายกำลังทำอยู่นี้ มีผลต่อการสร้างสันติภาพโลกอย่างแน่นอน ผมกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ได้เปิดโอกาสให้ WSYC เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสันติภาพโลกร่วมกับมูลนิธิธรรมกาย

พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ตอนนี้ผมว่า พวกเรา WSYC มีความเข้าใจเรื่องสันติสุขภายในมากขึ้น มีภาพที่ชัดเจนและตรงกัน ทำให้พวกเราพร้อมที่จะนำความรู้ที่ได้รับ ไปใช้ในงานที่พวกเรากำลังทำอยู่ พวกเรามีความตั้งใจ และมีแรงบันดาลใจอย่างมาก ในการผลักดันองค์กรของพวกเราต่อไป เพราะพวกเราได้มาสัมผัสกับการบริหารจัดการองค์กร อย่างมีประสิทธิภาพของวัดพระธรรมกาย ซึ่งผมรู้สึกประทับใจ ในทุกๆรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและเคารพซึ่งกันและกัน ผมประทับใจจริงๆครับ และกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความจริงใจ ที่เมตตาพวกเราครับ

ผลการปฏิบัติธรรม