ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรพิมพ์หทัย ไตลังคะ (สหรัฐอเมริกา)
 
 
    ลูกชื่อ กัลยาณมิตรพิมพ์หทัย ไตลังคะ อายุ 50ปี อาชีพวิศวกรโปรแกรม มาจากสหรัฐอเมริกาค่ะ แต่ไหนแต่ไรมา ลูกเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง แม้แต่เรื่องพระพุทธศาสนาก็เชื่อแค่ 50-50 เรื่องการทำบุญก็ทำตามที่ผู้ใหญ่บอกเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อลูกอายุได้ 27ปี คุณแม่ป่วยและเสียชีวิต ลูกขาดที่พึ่ง และรู้สึกสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอย่างใหญ่หลวงไป
 
    วันหนึ่ง ลูกจึงถามเพื่อนว่า “ฉันควรจะทำอย่างไรดี เพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณพ่อคุณแม่” เพื่อนจึงแนะนำให้ทำสังฆทาน นับเป็นครั้งแรกที่ลูกได้ยินคำว่า “สังฆทาน” และอานิสงส์ที่จะเกิดขึ้น ลูกจึงทำสังฆทานให้ท่านเกือบทุกอาทิตย์ เป็นเวลาปีครึ่ง และอธิษฐานกับพระพุทธรูปที่บ้านว่า “ขอให้มีปาฏิหาริย์ ให้ลูกได้เห็นท่านเถอะ แล้วลูกจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไปตลอดชีวิต ถ้าท่านได้รับบุญแล้ว ก็ให้มาบอกลูกด้วย”
 
    ต่อมาไม่นาน ลูกฝันเห็นคุณแม่นั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร และมีอาหารเต็มโต๊ะ...
 
ท่านบอกลูกว่า “ที่ทำมาได้รับหมดแล้วนะ”
ลูกก็บอกตัวเองว่า “ลูกเชื่อแล้วว่าพระพุทธศาสนามีจริง และจะทำนุบำรุงไปตลอดชีวิตค่ะ”
 
    ต่อมา ปีพ.ศ.2536 คุณป้าท่านหนึ่งที่ลูกสนิทสนม ก็ได้มาบอกบุญบวชพระธรรมทายาท ที่วัดพระธรรมกาย ตอนแรกลูกก็ไม่ชอบทำบุญกับวัดนี้ เพราะคิดว่า รวยแล้ว แต่พอเห็นโบชัวร์ มีพระยืนเป็นแถว จีวรของท่านเรียบร้อย ดูแล้วสวยงาม น่าเลื่อมใสมาก จึงเกิดศรัทธา และตั้งใจจะร่วมบุญงานบวชให้ได้ทุกครั้ง เพื่อชาติต่อไป ลูกจะได้เกิดเป็นผู้ชาย และบวชเป็นพระบ้าง หลังจากนั้นลูกก็ได้มาร่วมบุญที่วัดอีกเพียง 2ครั้ง
 
    ปี พ.ศ.2542 ลูกได้ย้ายมาทำงานที่สหรัฐอเมริกา โดยที่ไม่ทราบว่า วัดพระธรรมกายมีศูนย์สาขาในต่างประเทศ ช่วงนั้น ลูกมักจะฝันเห็นพระเดินมาหาลูก จนลูกต้องหดขา ลูกมองเห็นแค่ปลายเท้าและชายจีวรเท่านั้นค่ะ จนกระทั่งมีพี่ท่านหนึ่ง พาลูกมา วัดภาวนาจอร์เจีย ศูนย์สาขาวัดพระธรรมกาย ลูกก็ไม่เคยฝันอย่างนี้อีกเลย
 
    พอมาเจอหมู่คณะ ลูกจึงตั้งใจสร้างบุญทุกบุญ โดยเฉพาะบุญถวายภัตตาหารทุกวันพระ และวันอาทิตย์ รวมทั้งได้จัดขนม, ผลไม้ บูชาข้าวพระเป็นประจำ และทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
 
 
    ช่วงแรกที่ลูกหัดนั่งสมาธิ ลูกจะน้อมนึกภาพดวงแก้วมาไว้ที่กลางท้องแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะนึกทีไรเหมือนมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ลูกจึงนึกตามฐานทั้งเจ็ด จากปลายจมูกจนถึงกลางท้อง ดวงแก้วก็แล่นตามไปเรื่อยๆ มาหยุดอยู่ที่กลางท้อง ลูกวางใจเบาๆเข้าไปในกลางดวงแก้ว แล้วก็เห็นพระธรรมกายแก้วใสขยายมาคลุมดวงแก้ว หลังจากนั้นลูกเข้ากลางดวงแก้ว และพระธรรมกายไปเรื่อยๆ...
 
    ลูกเห็นตัวลูก ใส่ชุดอุบาสิกา อายุราว 15-16ปี รูปร่างดีไม่เหมือนกายหยาบ ไม่ใส่แว่น นั่งสมาธิหันหน้าออกไปข้างหน้า เธอกับลูกมีความคิดอิสระต่อกัน แต่ความรู้สึกเหมือนเป็นคนเดียวกัน และยังรู้สึกว่า เธอมีความรู้มากกว่าลูกด้วยค่ะ
 
    ช่วงนั้น เมื่อลูกนั่งสมาธิจะเข้ากลางดวงแก้วและองค์พระไปเรื่อยๆ แต่มักมีอาการเหมือนถูกดูด เหมือนวิญญาณจะหลุดจากร่างหลายครั้ง ลูกกลัวมากไม่อยากนั่ง ก็เลยมาถามพระอาจารย์ ท่านก็ถามกลับว่า “นั่งสมาธิแล้วตาย...มีไหม” ลูกก็เลยตั้งใจจะนั่งต่อ
 
    แต่เพื่อความไม่ประมาท ลูกโทรศัพท์บอกเพื่อนสนิทว่า “ถ้าฉันเป็นอะไรไปให้ช่วยจัดการเรื่องเงินให้ด้วยนะ” แล้วลูกก็มานั่งสมาธิที่วัดในวันอาทิตย์ อย่างน้อยถ้าเป็นอะไรไป พระอาจารย์คงจะช่วยได้ ลูกนั่งสมาธิแบบสบายใจ ไม่มีห่วงกังวลใดๆ คิดแต่ว่า “ถ้าจะตายก็ตายไปเลย” แต่ในที่สุด ลูกก็ไม่ตายค่ะ...กลับมีความสุขเข้ามาแทนที่ความตาย
 
    วันนั้น ลูกรู้สึกว่า การเข้ากลาง เหมือนได้เข้าไปในใจกลางของโลก ผ่านวงที่ซ้อนๆกัน ตรงสุดทางมีแสงสว่าง พอเข้าไปใกล้ ก็เห็นเป็นองค์พระแก้วใส ขนาดพระประธานในโบสถ์ ท่านสว่างมาก แต่มีชีวิต เนื้อนุ่มเหมือนเนื้อกายหยาบ แต่ใสเป็นเพชร ขนตาของท่านก็นุ่มเหมือนขนตาของคนธรรมดาแต่ใสเป็นเพชร ลูกรู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกันกับท่าน ถ้ากดเนื้อกายหยาบ ก็เหมือนกดเนื้อของท่านด้วย แต่ความคิดจะเป็นอิสระต่อกัน...
 
    ลูกกราบท่าน แล้วขอเข้ากลางของท่าน แล้วก็นั่งขัดสมาธิหันหน้าออกไปทางเดียวกับท่าน พอมองไปข้างหน้า ก็เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ยืนอยู่ด้านหน้า มีคุณครูไม่ใหญ่ และคุณยายอาจารย์ นั่งสมาธิอยู่ 2ข้าง ด้านหลังมีพระมากมายสุดลูกหูลูกตา ลูกกราบพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ...
 
ท่านพูดว่า “ไปไหนมา รออยู่ตั้งนานแล้ว มัวแต่ไปเที่ยวเล่น”
ลูกตกใจ แล้วก็มีเสียงจากภายใน พูดออกมาว่า “หนูไม่รู้เรื่องเลยเจ้าค่ะ แต่จะพยายามค่ะ” ลูกพูดได้เพียงแค่นี้
 
    หลังจากนั้น พอลูกนั่งสมาธิ ก็มักจะเห็นมหาปูชนียาจารย์อยู่ข้างหน้าตลอด ทำให้ลูกค่อนข้างเกรงกลัวว่า จะทำอะไรผิดและไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เมื่อไปนั่งสมาธิ ลูกจึงนึกกราบพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ แล้วบอกว่า “ลูกอยากเข้าไปอยู่ที่กลางหลวงปู่นะคะ” ว่าแล้วก็ทำท่าเหมือนจะกระโจนเข้าไปในกลางท่าน แล้วท่านก็ถอยหลังๆ ออกไปเรื่อยๆ พระอาจารย์ก็แนะนำว่า “ให้ลองพูดดีๆกับท่านสิ”
 
    ลูกจึงลองใหม่ นึกในใจบอกท่านว่า “ลูกทำไม่เป็นเจ้าค่ะ” ลูกพูดแค่นี้ ภาพของมหาปูชนียาจารย์ก็ขยายใหญ่ขึ้นแล้วหันหลังกลับ ถอยหลังมาครอบตัวลูก แล้วลูกก็อยู่ตรงกลางพอดี ลูกรู้สึกอัศจรรย์ใจมาก ปลื้มมากค่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้...ตั้งแต่นั้นมาลูกก็อยู่ในกลางของท่านตลอดค่ะ ลูกมีความสุขยิ่งขึ้น สงบมากขึ้น อิ่มตลอดเวลา ไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว อยากให้ทุกคนมีความสุขแบบนี้บ้างจังเลยค่ะ
 
    ตอนนี้ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร ลูกก็จะหาทางแก้ไขได้ทุกครั้ง ถ้าปัญหาสลับซับซ้อน ลูกก็จะนั่งสมาธิ แล้วสาเหตุหรือทางแก้ก็จะผุดขึ้นมา บางครั้งลูกกราบถามมหาปูชนียาจารย์ ก็จะได้รับคำตอบ แค่ประโยคเดียวเท่านั้น ก็เข้าใจแจ่มแจ้งค่ะ
 
    เมื่อปีที่แล้ว ลูกสอบ World-PEC ได้เป็นที่หนึ่งของวัดภาวนาจอร์เจียค่ะ เฉี่ยวอันดับหนึ่งของโลกไปเพียงไม่กี่คะแนน มาถึงปีนี้ แม้ลูกจะยังไม่ได้อันดับหนึ่งของโลก แต่ตัวแทนของวัดภาวนาจอร์เจียก็ยังได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ภาคภาษาไทย นะคะ
 
    สุดท้ายนี้ ลูกกล้ายืนยันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณครูไม่ใหญ่บอกกับลูกๆ ล้วนแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น เพราะตอนนี้ ลูกได้พิสูจน์ด้วยตัวของลูกเองแล้ว ไม่ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะให้ทำอย่างไร ลูกจะปฏิบัติตามทุกอย่าง ลูกขอให้คุณครูไม่ใหญ่เป็นที่พึ่งของลูกๆตลอดไป นานแสนนานนะเจ้าคะ คิดถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อเสมอค่ะ
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/USA_Phimhatai.html
เมื่อ 18 กรกฎาคม 2567 10:12
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv