กำไลปริศนาอาถรรพ์

CASE STUDY

กำไลปริศนา อาถรรพ์

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

 

    ลูก มีภูมิลำเนาเดิม อยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ลูกเป็นคนโต มีน้องสาว 1 คนและน้องชาย 1 คน ลูกจบการศึกษา  ระดับปริญญาตรี ปัจจุบันได้รับราชการ เป็นอาจารย์ใหญ่  ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง  ใน จังหวัดปทุมธานี  มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ปัจจุบันอายุ 40 ปี แต่งงานมีครอบครัวแล้ว มีบุตร 1 คนเป็นชาย ลูกได้มีโอกาสเข้าวัด เมื่อปลายปี พ.ศ.2539 จากการชักชวนของสามี  ซึ่งทำงานเป็นทนายความ  อยู่ที่ จังหวัดปทุมธานี  เมื่อถูกสามีชักชวนให้มาวัด  ลูกก็มาอย่างง่าย ๆ ด้วยความเต็มใจ และได้ชักชวนน้องสาวให้มาสร้างบารมีด้วยกัน  น้องสาวของลูกก็มาอย่างไม่มีข้อขัดแย้ง สงสัยใดๆ  จนถึงปัจจุบันนี้ เราก็มาวัดกันอย่างสม่ำเสมอ 

 

    ลูกมีเรื่องอยากกราบเรียนคุณครูไม่ใหญ่ ถึงการเสียชีวิตของคนในตระกูล โดยเชื่อกันว่ามีต้นเหตุมาจากกำไลที่มีอาถรรพ์   เรื่องมีดังนี้ค่ะ

 

    คุณตาของลูก  ท่านมีลูกทั้งหมด 11 คน เป็นชาย 9 คนหญิง 2 คน คุณแม่เป็นคนที่ 6  ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว 8 คน เหลือ 3 คนคือคุณแม่  น้าชายคนที่ 7  และน้าสาวคนที่ 10   ซึ่งการเสียชีวิตของทั้ง 8 คน มีเรื่องชวนสงสัยเกี่ยวกับกำไลเก่าแก่อันหนึ่ง

 

    ย้อนหลังไป เมื่อประมาณ 50 กว่าปีที่ผ่านมา ได้มีชายคนหนึ่งในหมู่บ้าน มีฐานะยากจนมาก ได้นำกำไลวงนี้ มาจำนำไว้กับคุณตา  และไม่มีเงินมาไถ่คืน  กำไลอันนั้น จึงตกเป็นของคุณตา แล้วสืบทอดมายังลูกหลานจนถึงปัจจุบันนี้

 

    ลักษณะของกำไล เป็นกำไลที่มีขนาดใหญ่มาก สันนิษฐานว่า คงเป็นของคนสมัยโบราณ เพราะคนที่จะใส่กำไลนี้ได้  ตัวต้องใหญ่มาก เป็นกำไลที่ใช้ประดับที่ต้นแขน เคยนำไปให้ร้านทองดู เขาบอกว่า เป็นทองเหลือง  มีสีเหลืองเหมือนดอกบวบ มีหัว 3  หัวเรียงกัน เป็นสีนิล สวยงามมาก หัวกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด ต่อมาหัวกลางก็ถูกขโมยไป เรื่องมีอยู่ว่า ลูกของคุณลุง ได้เอากำไลนี้ไปจำนำกับชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของตน แล้วชายคนนั้นก็ได้ขโมยแกะเอาไป   ต่อมาชายคนนั้น ก็ฝันว่า มีชายคนหนึ่งมาบอก ให้เอาไปคืน แต่ก็ไม่ได้เอามาคืน ต่อมาชายคนนั้น  ก็มีเหตุให้ต้องติดคุก

 

    หลายท่านบอกว่า กำไลอันนี้เป็นเหล็กไหล มีคนเคยเอาไปทดลองหลายครั้ง ด้วยการสวมใส่ไว้ที่แขน แล้วใช้ปืนยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออกเลยสักราย  นอกจากนั้น  ก็ยังได้เคยนำกำไลนี้ ไปทดลองคล้องกับสุนัข แล้วใช้ปืนยิง ปรากฏว่า ปืนยิงไม่เข้า จึงเชื่อกันว่าถ้าใครมีสิ่งนี้อยู่กับตัวจะอยู่ยงคงกระพัน ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก จึงทำให้มีแต่คนอยากได้ไว้ครอบครอง  และต่อมาคนในตระกูลก็ทยอย  เสียชีวิตลงเรื่อย  ๆ คุณตาตายก่อน

 

    คุณตาของลูก ท่านเป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญมาก ก่อนจะเสียชีวิต อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่คุณตากำลังจะก้าวขึ้นบันไดบ้าน  อยู่ดีๆ ก็มีหมาดำนิล มาจากไหนไม่ทราบ วิ่งเข้ามาหาแยกเขี้ยวใส่  ทำท่าจะกัด คุณตาเห็นจึงใช้เท้าเตะสวนกลับไปทันที ผลปรากฏ คือ เจอแต่ความว่างเปล่า หมาดำตัวที่เห็น ได้หายวับไปเลย  หลังจากวันนั้นมา  คุณตาก็ล้มป่วย  ป่วยอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็เสียชีวิต  พอคุณตาเสียชีวิตลง กำไลก็ตกมาอยู่กับ  คุณลุงและน้าชายทั้ง 8 คน ต่างเวียนกันเป็นเจ้าของทุกคน ยกเว้นน้าชายคนที่ 7  คุณแม่ และน้าสาว ที่ไม่เคยแตะต้องกำไลเลย และยังมีชีวิตอยู่   การเสียชีวิตของลุงและน้าชายทั้ง 8 คน ด้วยสาเหตุดังนี้

 

    ลุงคนที่ 1 ได้ตั้งวงกินเหล้ากับญาติ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันเกิดการทะเลาะเพียงแค่คุยผิดหูนิดเดียว เลยถูกญาติคนนั้นเสียบด้วยมีดปลายแหลม  ตายคาวงเหล้า  อายุได้ 55 ปี

 

    ลุงคนที่ 2 ตายด้วยโรคเบาหวาน อายุ  69 ปี

 

    ลุงคนที่ 3  ตายด้วยวัณโรค   อายุ 35 ปี 

 

    ลุงคนที่ 4  โดนรถชนตาย   อายุ 63 

 

    น้าชายคนที่ 8  โดนรถชนตาย   อายุ 36 ปี    

 

    น้าชายคนที่ 9    ตายด้วยวัณโรค  อายุ  51 ปี  

 

    น้าชายคนที่ 11 รถตกเหวตาย ในขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ เป็นตำรวจชายแดน   อายุได้  21 ปี

 

    ส่วนลุงคนที่ 5 นั้นตายล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ และตายค่อนข้างแปลกกว่าคนอื่น  กล่าวคือ ตอนมีชีวิตอยู่ ลุงคนนี้ได้สร้างบุญไว้เยอะมากเคยบวชเป็นพระอยู่ 2 พรรษา ต่อมาได้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ก่อนเสียชีวิตท่านป่วยหนัก ไม่กินอาหาร ไม่ยอมพูดจากับใคร เป็นเวลา 4 วัน 4 คืน ได้แต่นอนนิ่งหลับตาอยู่อย่างนั้น จนญาติ ๆ คิดว่าลุงคงตายแล้ว จึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนไปใส่ในมือ แต่แล้วลุงกลับรู้สึกตัวพูดจากับญาติพี่น้องทุกคน มีสติดีมาก ได้สั่งเสียภรรยาและให้พรลูก ๆ ทุกคน บอกภรรยาว่าให้จัดงานศพแค่ 3 คืน และได้สั่งให้ลูกๆ เอาน้ำใส่ถังใหญ่มาให้หน่อย เพื่อจะเอาติดตัวไปไว้กิน ภรรยานึกว่าเพ้อเลยไม่สนใจ สักพักลุงก็ถามอีกว่า เอาน้ำมาให้หรือยัง ลูกๆ จึงไปนำน้ำมาไว้ให้ และจากนั้นลุงก็บอกว่า จะไปแล้วเพราะมีคนมารอรับอยู่ข้างนอก  ลูกของลุงจึงถามว่าใคร ลุงตอบว่าไม่รู้จัก แต่ในจำนวนนั้นมีน้องชายของลูกที่ตายรวมอยู่ด้วย พอสั่งเสียเสร็จลุงก็โบกมือลา กระตุก 3 ครั้งก็นิ่งไป ลุงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2548  รวมอายุได้ 65 ปี  หลังจากลุงคนนี้ตาย  ได้ไม่ถึงอาทิตย์  ลูกสาวของลุงก็ได้ฝันว่า มีชายคนหนึ่งพยายามจะตามลุงไป ลุงไม่ให้ไป แต่เขาก็พยายามจะไปให้ได้  ญาติ ๆ ของลูกเกรงว่าจะมีญาติ  ตายอีก

 

    เหตุที่ญาติๆของลูกเชื่อกันว่า การตายของตระกูลเราที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะกำไล  ก็เพราะว่าไปหาร่างทรงกี่คนก็จะทักเหมือนกันหมดว่า ตระกูลของลูก มีสมบัติที่เป็นของตระกูลที่เก่าแก่มาก เป็นของสูง ใครที่เอาไปครอบครอง  ถ้าบุญไม่ถึง  ก็จะมีอันเป็นไป และจะตายไปเรื่อยๆ แล้วก็ยังบอกล่วงหน้าถูกด้วยว่า  คนที่จะตายต่อไปเป็นใคร   แล้วก็เป็นจริงตามนั้นทุกครั้ง ถ้าไม่เอาไปคืน  เขาจะเก็บหมดทั้งตระกูล

 

    ปัจจุบันกำไลได้มาอยู่กับ หลานชาย ลูกของลุงคนที่ 2 นานหลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้ หลานคนนี้เป็นคนที่แข็งแรงมาตลอด  ขณะนี้ได้ป่วยเป็นโรคปอด เบาหวาน มาประมาณ ปีกว่า ๆ แล้วผอมมาก ไม่มีแรง  ปัจจุบันหลานชายอายุ 43 ปี และมีความปรารถนาที่จะคืนกำไลนี้ให้กับเจ้าของเดิม แต่ก็ไม่ทราบว่าจะเอาไปคืนได้ที่ไหน  

 

    น้องชายของลูก มีอาชีพรับจ้างทำงานบริษัท ปกติก็เป็นคนนิสัยดี ไม่เกเร แต่ก็จะชอบดื่มเหล้าเข้าสังคมตามเพื่อนที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกัน แต่ก็เคยบวชมา ก่อนจะถึงวันคล้ายวันเกิดมีหมอดู ซึ่งตามองไม่เห็นทั้งสองข้างได้ทักน้องชายว่ากำลังมีเคราะห์ ห้ามขับมอเตอร์ไซด์ คุณแม่ได้พาน้องชายไปสะเดาะเคราะห์ ที่วัดแห่งหนึ่งกับพระภิกษุ โดยการใช้ผ้าขาวคลุม แล้วพระก็จะสวด เรียกว่าบังสุกุลตาย  บังสุกุลเป็น แต่พอถึงวันคล้ายวันเกิดจริง ๆ  น้องชายได้ดื่มเหล้าและก็ได้ขับมอเตอร์ไซด์ ไปฉลองวันเกิด รถเกิดเสียหลักพุ่งไปชนกับรถ 6 ล้อของกรมทางหลวง ซึ่งจอดอยู่บริเวณเกาะกลางถนน  ศีรษะกระแทกพื้น ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล  รวมอายุได้  29 ปี  ตายตรงกับวันเกิดพอดี

 

    คุณยายของลูก ตอนมีชีวิตอยู่ ท่านจะชอบทำบุญใส่บาตรมาก  ได้เคยเป็นเจ้าภาพบวชลูกหลานไว้เยอะ ก่อนที่คุณยายจะเสียชีวิต 1 วันกับอีกครึ่งคืน ท่านมีอาการเร่าร้อนกระสับกระส่าย  ทำท่าเหมือนรอคอยอะไรสักอย่าง พอได้เวลา  ท่านก็บอกว่า  ต้องไปแล้วมีคนมารอรับอยู่ใต้ถุนบ้าน คุณแม่ถามว่าใคร ท่านตอบว่าไม่รู้จักและไม่เคยเห็น

คำถามมีดังนี้ค่ะ

 

1. กำไลที่ว่านี้เป็นเหล็กไหลและมีอาถรรพ์ ตามที่หมอดูบอกว่า ถ้าไม่คืนเขาจะเก็บทั้งตระกูลจริงหรือเปล่า และจะเอาไปคืนได้ที่ไหน

 

2. การป่วยของหลานชายซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่ครอบครองกำไลอยู่ในขณะนี้  เกี่ยวข้องกับกำไลหรือไม่ หลานชายทำบุพกรรมใดมา จึงป่วยเป็นหลายโรคอยู่ในปัจจุบัน  ทำอย่างไร จึงจะหายคะ ญาติ ๆ ของลูกกำลังรอฟังอยู่ค่ะ เขาอยากรู้เรื่องกำไลมาก

 

3. คุณตาตายแล้วไปไหนคะ  หมาดำที่ปรากฏตัวให้คุณตาเห็นนั้นคืออะไร 

 

4. ลุงและน้าชาย รวม 8 คน ตายแล้วไปไหนคะ  กำไลมีส่วนในการตายของลุงและน้าชาย ทั้ง 8 คน หรือไม่

 

5. ลุงคนที่ 5 ทำกรรมใดมาจึงเป็นมะเร็งลำไส้  ก่อนตาย 4 วัน 4 คืน ทำไมนิ่งไปเหมือนคนตายแล้ว  น้ำถังใหญ่ที่บอกว่าจะเอาไปกิน ได้เอาไปจริงหรือไม่ คุณลุงคิดอย่างไรจึงพูดออกมาอย่างนั้น  ที่บอกว่ามีคนมารอรับนั้นคือใคร มีน้องชายของลูกรวมอยู่ด้วย จริงหรือไม่คะ ลุงตายแล้วไปไหน ลูก ๆ ของลุงฝากเงินมาทำบุญเสาแก้วและสร้างองค์พระให้ ลุงได้รับหรือไม่คะ

 

6. น้องชายของลูกมีบุพกรรมใดจึงต้องถูกรถชนตาย ตายแล้วไปไหนคะ  ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่    คุณแม่ได้พาไปสะเดาะเคราะห์แล้ว แต่ทำไมจึงช่วยไม่ได้  แล้วการสะเคาะเคราะห์ต่ออายุ  ที่เรียกว่าบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น ตามที่วัดหลายแห่งทำอยู่นั้น ช่วยต่ออายุได้จริงหรือไม่คะ และการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ  ที่ถูกต้องและดีที่สุดควรทำอย่างไร

 

7. คุณยายของลูกตายแล้วไปไหนคะ ก่อนตายทำไมคุณยายจึงมีอาการเร่าร้อน ที่ท่านเห็นคนมารับนั้นเป็นใคร

 

8. ลูกชายของลูก ปัจจุบันอายุ 14 ปี เคยมาบวชที่วัดพระธรรมกาย เขาเคยบวชสร้างบารมีมากับหมู่คณะหรือไม่คะ  ชาตินี้ควรจะอยู่ทางโลก หรือบวชอยู่ทางธรรม ดีคะ  

 

9. ตัวลูก สามี และน้องสาวของลูก ได้เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรคะ
 
 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

 

1. “กำไล” ที่ว่านี้มีหัวเป็น “เหล็กไหล” ประเภทหนึ่ง  ที่เจ้าของดั้งเดิมเขาลง “อาคม” เอาไว้นานมาแล้ว   เป็นหลักหลายร้อยปี โดยมีวัตถุประสงค์ใส่เอาไว้ เพื่อให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี มีอยู่ 3 หัวดังกล่าว ต่างแต่ขนาด 

 

 

• ผู้ทำ คือ อาจารย์ไสยเวทที่มีอาคมขลัง ทำให้กับนักรบโบราณ และมีอาจารย์วิทยาธรดูแล ปกปักรักษาเอาไว้ 

 

 

• จะว่ามีอาถรรพ์ก็ไม่เชิง  แต่อาจารย์วิทยาธรที่ปกปักรักษาดูแลกำไลนี้ ก็มีจิตคิด “เบียดเบียน”  เพราะคิดว่าคนเหล่านี้ ไม่เหมาะสมกับของที่เขาดูแลอยู่ 

 

 

• แต่เหตุที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนนั้น  ก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรมของแต่ละคนเป็นหลัก , ส่วนกำไลอาถรรพ์ ก็เป็นแค่ส่วนเสริมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

 

• คือ ถ้าผู้ที่ครอบครองไม่ประพฤติธรรม หรืออยู่ในศีลธรรม และวิบากกรรมตามมาส่งผลพอดี  กำไลอาถรรพ์นี้ก็จะเสริมได้ 

 

 

• ถ้าจะเอาไปคืนก็แค่เอาไปฝาก “แม่ธรณี” , “แม่คงคา” หรือผู้ที่ลูกเห็นสมควรว่าเป็นคนมีศีลธรรมเก็บรักษาเอาไว้จ่ะ!

 

2. การป่วยของหลานชาย  ที่ครอบครองกำไลนี้เป็นคนสุดท้าย  ก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรมเป็นหลัก และความประพฤติในปัจจุบันจ่ะ! 

 

 

• ที่หลานชายเป็นหลายโรค  เพราะ กรรมดื่มเหล้า , สูบบุหรี่ , ฆ่าสัตว์ ทั้งอดีตและปัจจุบันส่งผล  ให้เป็นโรคปอดและเบาหวานจ่ะ! 

 

 

• ให้ทำตามคำแนะนำของหมอ และให้อยู่ในบุญ คือ สั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนาให้มากๆ , หนักก็จะเป็นเบา , เบาก็จะหายจ่ะ!

 

 

3. “หมาดำ” ที่ปรากฏตัวให้คุณตาเห็นนั้น คือ บริวารของอาจารย์วิทยาธรระดับภุมมเทวาที่คอยดูแล “กำไล” 

• ที่มาปรากฏตัวให้เห็นนั้น  เพราะเป็นเจ้าของเก่า ซึ่งยังหวงแหนของของตนอยู่
• ตายแล้วก็มาเป็นบริวารของอาจารย์วิทยาธรดังกล่าว
  

 

• คุณตาตายแล้ว ไปเป็นเทพบุตรสุดหล่อ  มีวิมานทองของชั้น   “จาตุมหาราชิกา” สายวิทยาธร   เพราะมีความเชื่อเรื่องเหล่านี้ด้วยและทำบุญด้วยจ่ะ!

 

 

4. ลุงคนที่ 1 ตายแล้วไปอยู่ “มหานรกขุม 5” ด้วยกรรมสุรา กำลังโดนกรอกน้ำกรดสีดำร้อนอยู่ 

• ลุงคนที่ 2 ตายแล้วไปเป็นภุมมเทวาชั้นล่าง  
  

 

• ลุงคนที่ 3 ตายแล้วไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” จ่ะ!
• ลุงคนที่ 4 โดนรถชนตาย ตายแล้วไปเป็นกาย “สัมภเวสี” ร่อนเร่อยู่ ยังไม่ไปเกิด 
  

 

• น้าชายคนที่ 8 โดนรถชนตาย ตายแล้วก็ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” จ่ะ! 
• น้าชายคนที่ 9 ตายแล้วก็ไปเป็นภุมมเทวาชั้นล่าง 
  

 

• น้าชายคนที่ 11 รถตกเหวตาย ก็ยังเป็นกายสัมภเวสีอยู่บริเวณที่ตายจ่ะ!

 

 

• ทั้งหมดตาย เพราะวิบากกรรมเป็นหลัก “กำไล” เสริมนิดหน่อยดังกล่าว

 

 

5. ลุงคนที่ 5 ก่อนตายเห็นเจ้าหน้าที่เขตมา “รอรับ” 

• ตายแล้วไปเป็นภุมมเทวาชั้นสูง ด้วยบุญที่บวชตามประเพณี  และบุญต่าง ๆ ที่ทำตามประเพณี 
• ที่ตายเพราะลุงคนที่ 5 หมดอายุขัย ไม่เกี่ยวกับ “กำไล” จ่ะ! 

 

 

• ลุงได้รับบุญทุกบุญที่ลูกๆ ทำเสาแก้วพันปี และสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว แล้วอุทิศไปให้ ก็ทำให้ท่านมีสภาพดีขึ้นทุกด้านจ่ะ!

 

 

6. น้องชายของลูกเคย “ฆ่าสัตว์ใหญ่”  เพื่อทำเป็นอาหาร ในอดีตตามมาส่งผลจ่ะ! 

 

 

• ตายแล้ว บุญที่ทำตามประเพณีก็มาอุ้มเอาไว้  ให้ไปเป็นบริวารของเจ้าหน้าที่เขต  ที่ลุงคนที่ 5 ได้เห็นก่อนตาย  ที่มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่เขตจ่ะ!  
  

 

• ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว จึงทำให้มีสภาพดีขึ้น  แต่ก็ยังเป็นบริวารของเจ้าหน้าที่เขตอยู่ 

 

 

• คุณแม่พาน้องชายสะเดาะเคราะห์  ด้วยการบังสุกุลตาย-บังสุกุลเป็นหลายแห่งนั้น ก็ไม่ได้ช่วยสะเดาะเคราะห์ , ช่วยได้แค่ทำให้สบายใจขึ้นเท่านั้นจ่ะ! 
  

 

• การสะเดาะเคราะห์ที่ถูกต้องนั้น  ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา เป็นต้น เป็นหลัก  บุญนี้จึงจะเกิดขึ้นแล้วไปตัดรอนวิบากกรรมเก่า  ให้หนักเป็นเบา , เบาเป็นหาย , ตายก็ไปดีจ่ะ!

 

7. ก่อนตาย คุณยายเห็นบริวารของคุณตาจะมารับไป เพื่อพาไปอยู่ด้วย เพราะสั่งสมบุญด้วยกันมา 

 

• ก่อนตายมีอาการเร่าร้อน ก็เพราะโรคภัยไข้เจ็บ , ธาตุไฟกำลังจะแตกจ่ะ!

 

 

• ตายแล้วก็ไปอยู่ด้วยกันกับคุณตา ที่ชั้นจาตุมหาราชิกา ด้วยรักและผูกพัน  และสร้างบุญร่วมกันจ่ะ!

 

 

8. ลูกชายของลูกอายุ 14 ปี ก็เคยบวชสร้างบารมีกับหมู่คณะ, บางชาติก็ระยะยาว , บางชาติก็อยู่ระยะสั้น  ดังนั้นชาตินี้   ก็คอยประคับประคองเขาไว้ให้ดี    แล้วก็ให้เขาตัดสินใจเอาเอง    เพราะเขาก็มีบุญบวชระยะยาวอยู่จ่ะ!

 

 

9. ตัวลูก , สามี , และน้องสาวของลูก  ก็เคยเป็น “กองเสบียง” ให้กับหมู่คณะติดต่อกันมาหลายชาติแล้ว

 

 

• ชาตินี้มาเจอกันอีก  ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่  อย่าให้ตกบุญเลย  แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!

 

http://goo.gl/tBwYD