โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: ธรรมธาตุกับธรรมรังสี มีความหมายอย่างไรครับ?
คำตอบ: ธาตุเป็นที่ตั้งแห่งธรรม ถ้าไม่มีธาตุ ธรรมก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีธรรม ธาตุอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ธาตุและธรรมอาศัยกันและกัน เหมือนความร้อนกับแสงสว่าง เราจุดไฟก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นพร้อมกับความร้อนแสงสว่างที่ออกมาจากธรรมธาตุที่บริสุทธิ์มากๆ เรียกว่า ธรรมรังสีตัวเราเองก็เป็นธาตุที่ตั้งแห่งธรรม ถ้าธาตุของเราถูกธรรมกลั่นมากๆ ธาตุของเราก็บริสุทธิ์ เรียกว่า “ธรรมธาตุ” พอบริสุทธิ์มากๆ รังสีก็ออกเป็นความสว่าง แสงสว่างที่ออกมาจากธรรมธาตุที่บริสุทธิ์มากๆ เรียกว่า “ธรรมรังสี ” ธรรมธาตุบริสุทธิ์มากเท่าไร ธรรมรังสีก็สว่างมากเท่านั้นคำถาม: แนะนำเพื่อนให้นั่งสมาธิ(Meditation) วิชชาธรรมกาย เพื่อนไม่เห็นด้วย บอกว่าธรรมเป็นการสอนให้ยึดติดในวัตถุ เพราะต้องนึกถึงดวงแก้ว นั่งแล้วก็ติดสุข ต้องฝึกแนวที่ไม่ยึดอะไรให้รู้สึกอยู่ตลอดเวลา กราบขอความกรุณาหลวงพ่อช่วยชี้แจงด้วยคะ?
คำตอบ: มีแนวไหนบ้างที่ไม่ยึดอะไรเลย แม้ที่สุดที่ว่าฝึกสติน่ะ ฝึกให้รู้สติก็ต้องยึด คือยึดเอากายเอาการเคลื่อนไหวของกายเป็นสติ วิธีนี้ก็ยึดนะ ไม่ใช่ไม่ยึด แต่เขาไม่รู้ การฝึกแบบนี้ทางพระเรียกว่า “กายคตาสติ”บางคนที่กำหนดลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติ ถามว่ายึดไหมติดไหม? ยึด แล้วก็ติดด้วย แต่ติดลมหายใจที่เข้าออกเอาไว้ก่อน ดีกว่าจะไปติดอย่างอื่นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านพบว่าในการสอนคนหมู่มาก ซึ่งต่างเพศต่างวัยกัน สอนให้กำหนดองค์พระหรือดวงแก้ว ง่ายกว่าการกำหนดอย่างอื่น เช่น การกำหนดลมหายใจเข้าออก ถ้าบอกให้เด็กๆ ทำ เด็กทำไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่พอทำได้ นี่ยกตัวอย่างกายคตาสติเป็นการกำหนดสติแล่นไปในกาย บางคนกำหนดอวัยวะภายในกายเป็นอารมณ์ บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ บางคนไม่ว่าทำนานแค่ไหนก็ไม่ชำนาญ หลังจากฝึกมาหลายวิธีแล้ว หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านจึงแนะวิธีให้กำหนดองค์พระหรือดวงแก้วเป็นแก้วใสสว่าง ซึ่งเป็นวิธีทำกรรมฐาน วิธี ๑ ใน ๔๐ วิธี ทางพระเรียกว่า “อาโลกกสิณ” ซึ่งง่ายที่สุดแล้วเพราะฉะนั้นไปบอกเขาก็แล้วกันว่า ที่เขาว่าไม่ติดน่ะ จริง ๆ แล้วคือติด ติดกายคตาสติ และถ้าให้คำนิยามคำว่ายึดติดว่า หมายถึงการนึกอะไรสักอย่างในขณะนั่งสมาธิละก็ การทำสมาธิทุกวิธีเป็นการยึด-ติดทั้งหมด ตามความหมายที่เขาว่านะการฝึกสมาธิวิชชาธรรมกาย ต้องอาศัยการนึกภาพองค์พระหรือดวงแก้วไปชั่วคราวก่อน จะเรียกอาศัยยึดติดกับองค์พระกับดวงแก้วไปชั่วคราวก่อน จะเรียกอาศัยยึดติดกับองค์พระกับดวงแก้วก็ได้ จนกว่าเมื่อไรสมาธิมั่นคงดีแล้ว ก็จะปล่อยองค์พระปล่อยดวงแก้วเข้าไปถึงพระธรรมกายในตัว เหมือนคนนั่งเรือถึงฝั่งแล้ว ก็ต้องทิ้งเรือ เพื่อเดินทางต่อไป ไม่มีใครเขาแบกเรือเดินไปอีกหรอกนะ อย่าห่วงเรื่องติดหรือไม่ติดเลย ห่วงว่าจะขี้เกียจนั่งเสียมากกว่าคำถาม: อยากทราบว่านอนทำวัตรเย็น จะผิดหรือถูกอย่างไรค่ะ?
การทำวัตรเช้าและการทำวัตรเย็นคำตอบ: การทำวัตรเย็นหรือทำวัตรเช้าก็ตาม เป็นการสวดทบทวนโอวาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงแสดงไว้ตลอด ๔๕ พรรษา ที่ทรงประกาศพระศาสนา โอวาทที่พระองค์ทรงมอบให้ไว้ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ๑. พระโอวาทจ้ำจี้จ้ำไช คือพูดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น ทรงสอนว่าเกิดแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย ตายแล้วถ้าไม่ได้ทำความดีอะไร เกิดมาชาตินี้ก็เปล่าประโยชน์๒. พระโอวาทจร คือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาเฉพาะหน้าหรือต่อหน้าต่อตาคณะสงฆ์สักเรื่อง ก็ทรงเอาเรื่องนั้นยกขึ้นเป็นเหตุในการหยิบยกหัวข้อธรรมมาอธิบายให้ฟัง หรือถ้าใครทำผิดพลาดมีเรื่องราวร้อนใจเกิดขึ้น ก็ทรงชี้หนทางแก้ไขให้เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว หาใครมาอบรมสั่งสอนแบบจ้ำจี้จ้ำไชอย่างพระองค์ไม่ได้ พระภิกษุผู้ใหญ่ท่านก็เลยให้มีการเอาพระโอวาทเหล่านั้นมาเรียบเรียงเป็นบทสวดมนต์สวดตอนเช้าก็เรียกทำวัตรเช้า สวดตอนเย็นก็เรียกทำวัตรเย็น เป็นการสวดเพื่อทบทวนพระโอวาทนะลูกการสวดเพื่อทบทวนนั้นเป็นเรื่องของความตั้งใจจริง ความเคารพ ลูกเอ๊ย..ของแบบนี้ ถ้าไปนอนทบทวนเดี๋ยวก็หลับเสียก่อน สวดไม่ทันจบหรอก หรือถึงแม้จบแล้วค่อยหลับ ก็แสดงว่าไม่ได้ตั้งใจจริงแก้ไขตัวเองเสียใหม่นะ ตั้งใจสวดให้เป็นเรื่องเป็นราว และแสดงความเคารพในพระธรรมด้วยเมื่อสวดมนต์ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว จะเอาบทสวดนี้เป็นคำภาวนาจนกระทั่งหลับไปนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการทำภาวนาสมาธิให้ใจตรึกอยู่ในธรรมตลอดเวลา ทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการสวดทำวัตรนะ
http://goo.gl/g8d15