ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2553ตอน พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 37 ต้นมหาโพธิพฤกษ์พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้าตอนที่ 37 "ต้นมหาโพธิพฤกษ์"เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาความเดิมจากตอนที่แล้ว... เมื่ออชิตพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ หรือพระศรีอริยเมตไตรย์ ทรงออกบวชดำรงเพศสมณะแล้ว พระนางจันทมุขีเทวีก็จะนำเอาข้าวมธุปายาสอันมีโอชารสดั่งอาหารทิพย์ มาน้อมถวายแด่พระองค์ในกาลนั้นเมื่อพระอชิตพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ หรือพระศรีอริยเมตไตรย์ ทรงทำภัตตกิจเสร็จแล้ว พระองค์ก็จะเสด็จไปตามหนทางที่เหล่าเทวดาได้ประดับตกแต่งเอาไว้อย่างวิจิตรงดงาม เพื่อจะนำพาพระองค์ไปสู่สถานที่ที่สำคัญแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ บริเวณใต้...ต้นมหาโพธิพฤกษ์ (ในยุคนั้นคือต้นกากะทิง)-ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่พระองค์จะใช้เป็นที่ประทับในการบำเพ็ญเพียรเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวานา เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับลักษณะของต้นมหาโพธิพฤกษ์ ที่พระองค์จะใช้เป็นที่ประทับในการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะมีขนาดลำต้นที่สูงจากพื้นไปถึงคาคบราว 120-ศอก (หรือ 60-เมตร)-จากคาคบไปจรดถึงยอดสูงอีกราว 120-ศอก (หรือ 60-เมตร)-ถ้ารวมความสูงจากพื้นไปจรดถึงปลายยอด ต้นมหาโพธิพฤกษ์จะสูงถึง 240-ศอก (หรือ 120 เมตร)นอกจากลำต้นจะมีความยาวถึง 240-ศอกแล้ว กิ่งของต้นมหาโพธิพฤกษ์ยังมีขนาดที่ใหญ่โตและแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง โดยกิ่งหลักๆจะมีอยู่ทั้งหมดสี่กิ่ง ซึ่งแต่ละกิ่งจะทอดยาวออกไปในทิศทั้งสี่ โดยจะมีความยาวกิ่งละ 120 ศอกส่วนใบของต้นมหาโพธิพฤกษ์ จะมีสีสันที่สดเขียวอยู่เป็นนิตย์ อีกทั้งดอกและเกสรจะส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรขจายไปไกลถึง 500-โยชน์ (หรือประมาณ 8,000-กิโลเมตร)-เรียกได้ว่า...ส่งกลิ่นหอมไปค่อนโลกเลยทีเดียว (เพราะโลกของเรามีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 21,757 กิโลเมตร)นอกจากจะมีลำต้นที่สูงใหญ่ มีใบที่เขียวสดอยู่เป็นนิตย์ และมีดอกที่หอมฟุ้งขจรขจายไปไกลแล้ว บริเวณโดยรอบของต้นมหาโพธิพฤกษ์ ยังจะมีทรายสีขาวประดุจแก้วเจียระไนเนื้อละเอียดที่สะท้อนแสงระยิบระยับจับตา ราวกับแสงของเพชรและแสงของพลอยผสมกัน กล่าวคือ...ดูดตาแต่ไม่ดีดตา เรียงรายเป็นปริมณฑล (หรือเป็นวงกลม)-อยู่โดยรอบ ซึ่งจะมีรัศมียาวถึงครึ่งโยชน์ (หรือเท่ากับ 8 กิโลเมตร)ถัดจากบริเวณพื้นทรายสีขาวที่แลดูสวยงามราวกับแก้วเจียระไน ก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยมวลหมู่ไม้หอมนานาพันธุ์ที่พากันผลิช่อออกดอกบานสะพรั่ง และส่งกลิ่นหอมฟุ้งรวยระรินชื่นใจอยู่ตลอดเวลาเมื่อพระอชิตพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ หรือพระ ศรีอริยเมตไตรย์ เสด็จมาถึงต้นมหาโพธิพฤกษ์แล้ว พระองค์ก็จะทรงเสด็จขึ้นสู่โพธิบัลลังก์อันประเสริฐและประทับนั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ เพื่อบำเพ็ญเพียรอยู่ภายใต้ควงต้นมหาโพธิพฤกษ์หมายเหตุ: สำหรับต้นมหาโพธิพฤกษ์ หรือต้นไม้ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละยุคสมัย อย่างของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าของพวกเรานั้น ต้นมหาโพธิพฤกษ์ของพระองค์ก็คือ...ต้นอัสสัตถพฤกษ์ หรือ ต้นโพธิ์ ภายหลังจากที่พระอชิตพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ หรือพระศรีอริยเมตไตรย์ ได้ผ่านการบำเพ็ญเพียรจนกระทั่งเข้าสู่วันที่เจ็ด พญามาร (ซึ่งในบางตำราระบุว่าเป็นพระยาปรนิมมิตวสวัตดีมาร)-จะกรีฑาทัพใหญ่โดยนำไพร่พลและเหล่าเสนามารมาในวันนั้น เพื่อหวังจะขัดขวางการบำเพ็ญเพียรของพระองค์แต่ด้วยบุญญาบารมีที่พระอชิตพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ หรือพระศรีอริยเมตไตรย์ สั่งสมบารมีมาอย่างยิ่งยวดและยาวนานกว่า 80-อสงไขยกับอีกแสนมหากัป พญามารและเหล่าไพร่พลมารที่ยกทัพมา เพียงแค่ได้เห็นพระรัศมีที่รุ่งโรจน์โชตนาการของพระองค์เท่านั้น ต่างก็สะทกสะท้านตื่นตระหนกตกใจ และพากันหนีกระจัดกระจายกันไปจนถึงสุดขอบจักรวาลในค่ำคืนนั้นเอง ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15-ค่ำ พระจันทร์เสวยวิสาขฤกษ์ พระอชิตพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ หรือพระศรีอริยเมตไตรย์ ก็จักตั้งความเพียรอันประกอบไปด้วยองค์สี่ หรือ จาตุรงคมหาปธาน โดยพระองค์ได้ทรงตั้งพระทัยว่า “แม้เนื้อและเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่เอ็น กระดูก หนัง ก็ตามที หากยังไม่ได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว เราก็จะไม่ลุกจากที่”ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 37
http://goo.gl/YudhX