ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2554
พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 97 พระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราช
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้าตอนที่ 97 "พระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราช"เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาความเดิมจากตอนที่แล้ว... สำหรับพระชาตินี้ ถือเป็นพระชาติแรกในการบำเพ็ญปรมัตถบารมี ที่พระบรมโพธิสัตว์ได้ทรงตั้งความปรารถนา ที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ด้วยการถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา ต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากภพชาตินั้นเป็นต้นมา พระบรมโพธิสัตว์หรือพระเจ้าสังขจักร ก็ได้สั่งสมบุญสร้างบารมีมุ่งตรงต่อหนทางแห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันเรื่อยมาหลังจากภพชาตินั้นเป็นต้นมา พระบรมโพธิสัตว์-(หรือพระเจ้าสังขจักร)-ก็ได้สั่งสมบุญสร้างบารมี มุ่งตรงต่อหนทางแห่งการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นับตั้งแต่ภพชาตินั้นเรื่อยมา จนกระทั่งในที่สุด เมื่อบารมีของพระบรมโพธิสัตว์เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ กล่าวคือ ผ่านระยะเวลาในการบ่มบารมีมายาวนานกว่า 80-อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัป ช่วงเวลาที่พระบรมโพธิสัตว์ทรงปรารถนาและรอคอยมานานแสนนานก็จะมาถึง ซึ่งก็คือ การได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง ในระหว่างที่พระบรมโพธิสัตว์กำลังสั่งสมบุญสร้างบารมีให้เต็มเปี่ยมนั้น พระบรมโพธิสัตว์ (ซึ่งจัดเป็นพระวิริยาธิกโพธิสัตว์)-จะมีโอกาสได้พบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง 2,048,109-พระองค์เลยทีเดียว โดยในช่วง 16-อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัปสุดท้าย (ซึ่งก็คือ ช่วงที่บารมีของพระบรมโพธิสัตว์ เพียงพอที่จะได้รับพุทธพยากรณ์)-พระบรมโพธิสัตว์ประเภทพระวิริยาธิกโพธิสัตว์ จะทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมแล้วกว่า 109-พระองค์โดยพระชาติแรกที่พระบรมโพธิสัตว์ทรงได้รับพุทธพยากรณ์ ก็คือ พระชาติที่พระองค์ทรงบังเกิดเป็น พระรัตนเถระ หรือ พระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราช ซึ่งตรงกับยุคสมัยของพระมหุตตสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องก็มีอยู่ว่า ในกาลสมัยของพระมหุตตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมโพธิสัตว์ได้ลงมาบังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้ปกครองทวีปทั้งสี่ มีพระนามว่า ปภาวันตะ จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อพระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราชได้ทรงสดับข่าวอันเป็นมงคลว่า ในบัดนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จอุบัติขึ้นบนโลกแล้ว ในกาลนั้นเองพระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราชพร้อมด้วยเหล่าบริวาร รวมถึงเหล่าข้าราชบริพารที่แวดล้อมพระองค์ รวมเป็นพื้นที่กว้างยาวถึง 36-โยชน์ ก็ได้รีบเสด็จออกเดินทางไปเข้าเฝ้าพระมหุตตสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันเดียวกันนั้นและในทันทีที่พระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราช ได้ทรงทอดพระเนตรเห็นพระมหุตตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ความปลื้มปีติใจแบบสุดล้นพ้นประมาณก็พลันบังเกิดขึ้นอยู่ภายในพระราชหฤทัยของพระองค์ และด้วยผลแห่งความปลื้มปีติใจแบบสุดล้นพ้นประมาณนี้เอง จึงทำให้พระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราชทรงกระทำการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการถวายรัตนะทั้งเจ็ดประการอันถือเป็นสมบัติคู่บุญของพระเจ้าจักรพรรดิ ตั้งแต่แรกเห็น พร้อมกันนั้นพระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราชก็ทรงกราบถวายบังคมพระบรมศาสดา แล้วทรงประทับนั่งอยู่ ณ ที่สมควรส่วนข้างหนึ่งในกาลนั้นเอง ด้วยความที่พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้รู้แจ้งโลก พระพุทธองค์จึงทรงตรัสพระธรรมเทศนาไปตามจริตอัธยาศัยของพระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราช ภายหลังจากที่พระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราชได้สดับตรับฟังพระธรรมเทศนา จากพระมหุตตะสัมมาสัมพุทธเจ้าจบลงแล้ว พระองค์ทรงมีพระทัยเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และด้วยความที่พระองค์ทรงมีพระทัยเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากนี้เอง พระองค์จึงทรงสละจักรพรรดิสมบัติทั้งหลายทั้งปวง แล้วเสด็จออกผนวชเป็นพระภิกษุในพระศาสนาของพระมหุตตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันนั้นเมื่อพระเจ้าปภาวันตจักรพรรดิราชได้เสด็จออกผนวช เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้ว พระองค์ทรงมีพระนามใหม่ว่า พระรัตนเถระ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระภิกษุผู้มีสีลาจารวัตรที่งดงามประดุจดั่งพระจันทร์วันเพ็ญที่ลอยเด่นอยู่ท่ามกลางนภากาศ อีกทั้งพระองค์ยังทรงเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ(Meditation) และปัญญา อีกด้วย จนกระทั่ง ภายหลังจากที่พระรัตนเถระทรงสามารถบำเพ็ญฌานและอภิญญาให้บังเกิดขึ้นได้แล้ว ด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณา กล่าวคือ มีความปรารถนาที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่ฝั่งพระนิพพานให้ได้ พระองค์จึงทรงตั้งความปรารถนาที่จะบรรลุพระสัพพัญญุตญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต และจากจุดนี้เองที่ทำให้พระองค์ทรงบริบูรณ์พร้อมไปด้วยธรรมสโมทานทั้งแปดประการ ซึ่งถือเป็นธรรมอันสำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่จะได้รับปฐมพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันประกอบด้วย1.เกิดเป็นมนุษย์ 2.เกิดเป็นผู้ชาย 3.ประกอบเหตุหรือสั่งสมบุญเอาไว้มาก 4.ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5.ได้ออกบวช 6.บรรลุฌานและอภิญญา 7.ถึงพร้อมด้วยการกระทำอันยิ่ง คือ ทำความดีเกินกว่ามนุษย์ทั่วไป 8.มีความพอใจในโพธิญาณ
http://goo.gl/nFjQV