ผู้หญิงคนนี้ชื่อ สวาท

เบื้องหลังละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก

เรื่อง “ผู้หญิงคนนี้ชื่อ สวาท”

 

    เชื่อแน่ว่าแฟนพันธุ์แท้ของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา นักสร้างบารมีพันธุ์หัวใจไม่เกี่ยง พันธุ์ว่าอย่างไรว่าตามกัน ที่ติดตามรายการของคุณครูไม่ใหญ่อย่างตลอดต่อเนื่อง คงจะเคยได้ยินชื่อของ *กัลยาณมิตรสวาท ปรีอารมณ์ หลายๆท่านอาจจะรู้สึกคุ้นๆว่า เคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนนะ

 

*เรื่องของกัลยาณมิตสวาท ปรีอารมณ์

 

    แต่ถ้าขยายความให้มากขึ้นไปอีกว่า คุณสวาท หรือ เจ๊โหด ซึ่งเป็นนางเอกโมดูล เมื่อปี พ.ศ.2550 ที่เธอขายอาหารริมทางรถไฟ ชื่อ ร้านแสป ร้านขายอาหารริมทางรถไฟตลาดพลู ที่รสชาติอาหารที่ร้านของเธอนั้น เด็ดขาดบาดใจ จนทำให้ลูกค้าจากทั่วสารทิศในกรุงเทพฯติดใจ ต้องมาซื้อหาอาหารจากร้านแสป ทำให้ร้านของเธอขายดีเหมือนแจกฟรีเลย

 

 

    เมื่อเธอได้เข้าวัดพระธรรมกาย ได้ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมกับคุณครูไม่ใหญ่ ได้ดู DMC…ทุกวัน ทำให้วันนี้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป จากที่ใครๆเรียกเธอว่า เจ๊โหด เดี๋ยวนี้มีแต่คนเรียกเธอว่า เจ๊ยิ้ม เธอมีรอยยิ้มพิมพ์ใจ ที่ทำให้ใครๆก็สนใจอยากตามเธอมาสร้างบุญที่วัดพระธรรมกาย แต่ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังความสุข ความสำเร็จ ในชีวิตของเธอในวันนี้ เธอต้องผ่านอุปสรรคต่างๆนานา มากมาย เธอได้เขียนจดหมายมาเล่าให้คุณครูไม่ใหญ่ฟัง มีข้อความตอนหนึ่งว่า...

 

    “หลวงพ่อเจ้าคะ ชีวิตของลูกกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ มันลำบ๊าก ลำบากค่ะ เดิมเป็นชาวกาฬสินธุ์ มีพี่น้อง 9คน ลูกเองเป็นลูกคนที่6 พอน้องสาวคนเล็กเกิดได้ไม่ถึง 1เดือน แม่ก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ลูกต้องเลี้ยงน้องตั้งแต่ตอนลูกอายุ 4ขวบ ต่อมาพ่อก็ไปมีแม่ใหม่แล้วก็ไปอยู่กับเขา แถมพ่อยังขี้เมาอีก ปล่อยให้ลูก 9คนต้องเผชิญชะตากรรมเลี้ยงดูกันเอง...

 

    ทุกๆวันลูกต้องตื่นตั้งแต่ตี4 มารอแม่เป็ดให้มันออกไข่ จะได้เอาไข่เป็ดไปต้มกิน เพราะไม่มีอะไรจะกิน เวลาอยากจะกินเงาะ ลูกก็ต้องรอคนที่เขากินเสร็จแล้วโยนทิ้งลงไต้ถุนบ้าน แล้วรีบวิ่งไปเก็บเปลือกเงาะ มาแงะตรงส่วนที่มีเนื้อเอามาเก็บกิน ถ้าอยากกินลำไยก็ต้องใช้วิธีเดียวกันค่ะ ลูกจะเก็บเอาเม็ดลำไยที่เขากินเสร็จแล้ว เอามาอมให้ได้รสชาติของลำไย...

 

    แม้ลูกจะลำบากอย่างไร แต่ลูกก็ไม่เคยออกปากขอเงินใคร ลูกจะขยันตั้งใจสอบให้ได้ที่หนึ่ง มีครั้งหนึ่งตอนอยู่ ป.6 เวลาที่คุณครูสอนว่าให้เป็นคนดี ลูกก็จะสงสัยว่าคนดีเป็นอย่างไร ก็ได้แต่จำเพลงที่คุณครูให้ร้องว่า เด็กเอ๋ย...เด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10อย่างด้วยกัน…นั่นคือ 10บทบัญญัติของเด็กดี ที่ลูกทำมาตั้งแต่เด็กค่ะ …”

 

    แม้เธอจะสู้ชีวิตที่สุดแสนจะลำบาก ตั้งแต่อยู่ในวัยเด็ก ท่ามกลางสภาพครอบครัวที่ล่มสลาย จากพ่อที่ติดเหล้าไม่เหลียวแลลูกน้อยทั้ง 9คน เธอต่อสู้กับปัญหามากมายที่รุมเร้าเข้ามาในชีวิต จนเมื่อเธอโตขึ้น เข้ากรุงเทพฯใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบ หาเช้ากินค่ำ ทำงานหนักอย่างไม่รู้เบื่อ ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย จนทำให้วันนี้กัลยาณมิตรสวาท ปรีอารมณ์ และครอบครัวของเธอ สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น และเธอได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรกับพ่อที่ติดเหล้า จากวงเหล้าได้มาอยู่ในวงบุญแทน ด้วยสำนึกของความกตัญญูต่อพ่อผู้ให้กำเนิด ด้วยคติในการดำเนินชีวิตว่า “แม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นคนดีได้”

 

 

    วันนี้ เรื่องจริงแสนจริง จากจดหมายที่บอกเล่าชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ของเธอ ที่ส่งตรงมาถึงคุณครูไม่ใหญ่ ได้รับความเมตตาจากคุณครูไม่ใหญ่ ให้นำมาสร้างเป็นละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกเรื่องล่าสุด เรื่อง “ผู้หญิงคนนี้ชื่อ สวาท” เพื่อมุ่งหวังให้เรื่องราวชีวิตของเธอ ได้เป็นแบบอย่างกับคนทุกเพศทุกวัยในสังคม ที่กำลังต่อสู้ ดิ้นรน กับอุปสรรคมากมายในชีวิต

 

    ละครเรื่องนี้ได้รับเกียรติจากดารา นักแสดง มากมาย และถือได้ว่าละครเรื่องนี้ได้รวมเอานักแสดงชาวอีสานชั้นนำชื่อดังของเมืองไทย นำมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็น คุณหน่อย อุ่นเรือน ราโชติ มารับบทเป็นสวาท ผู้หญิงสู้ชีวิต คุณรุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา หรือที่เรารู้จักในชื่อ หนูหิ่น อินเตอร์ มารับบทเป็นน้องสาว คุณเอก ธนากร มารับบทเป็นพ่อขี้เมา และคุณบุ๋ม รัญญา ศิยานนท์ นักแสดงชื่อดังที่มารับบทเป็นเจ้าของร้านอาหาร

 

 

    คุณบุ๋มประทับใจทีมงานละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกมาก จนตอนหลังมาแอบกระซิบว่า “พี่ว่านะ ดารา นักแสดง ทุกคนในวงการ ต้องหาเวลาสักครั้งหนึ่งในชีวิต มาเล่นละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกให้ได้ เพราะนอกจากจะได้แสดงให้คนได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตแล้ว ยังได้บุญกุศลด้วย”

เบื้องหลังละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก "ผู้หญิงคนนี้ชื่อ สวาท"

http://goo.gl/tqZYX