คุณครูผู้ให้...

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรอิสรา ชินบุตร

 

โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

ถนนตรีเพชร เขตพระนคร กรุงเทพฯ

                                       

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ.2550

กราบนมัสการพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง

 

 

    กระผม นายอิสรา ชินบุตร อายุ 60ปี ครูโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ผมเป็นครูสอนวิชาชีววิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปกติเวลาที่สอนนักเรียนทุกคาบ ผมจะเริ่มต้นด้วยการสอนธรรมะให้นักเรียนฟังว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร ก่อนเรียนประมาณ 5-10นาที เพราะคิดว่าธรรมะของพระพุทธองค์เป็นเรื่องที่ทุกชีวิตต้องรู้ ไม่รู้ไม่ได้และต้องอยู่ในการเรียนการสอนทุกวิชา ผมคิดว่า อาชีพครูเป็นอาชีพที่ดีที่สุด เพราะเป็นอาชีพที่ได้สร้างทางมรรคผลให้กับเด็ก ให้เขาเข้าใจถึงวิถีแห่งการพัฒนาตน ให้เป็นคนดีที่สมบูรณ์ ตามแบบอย่างของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

    ปกติ ผมจะชอบสอนธรรมะเด็กๆ แต่ไม่ชอบนั่งสมาธิ(Meditation) เพราะผมไม่ชอบเวลาที่ใครมาชวนให้ผมนั่งสมาธิแล้วบอกว่า นั่งสมาธิแล้วจะได้ถอดจิตไปเที่ยวดูนั่นดูนี่ ผมคิดว่าเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการฝึกสมาธิ สมาธิสำหรับผมแล้ว คือ การทำอะไรอย่างมีสติ และสงบนิ่ง ไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตา เราก็ทำสมาธิได้ แต่ตอนนี้ผมได้ความรู้ใหม่ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอน ให้ทุกคนทำสมาธิ เพราะทุกคนมีพระอยู่ในตัว

 

    ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่นี้ เมื่อได้มีโอกาสขึ้นไปปฏิบัติธรรม ณ สวนพนาวัฒน์ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19-25 สิงหาคม พ.ศ.2550 ร่วมกับเพื่อนๆคณะครูจากทั่วประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้นกว่า 337ชีวิต โดยคณะครูจาก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้มาร่วมปฏิบัติธรรมในครั้งนี้จำนวน 6ท่าน

 

 

    การมาครั้งนี้ ผมมุ่งหวังจะได้มาปฏิบัติธรรม และเรียนรู้การเขียนแผนการสอน โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต1 ร่วมกับชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ ร่วมกันจัดขึ้น ผมกราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อตามตรงว่า ก่อนที่กระผมจะได้มาเข้าร่วมปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ กระผมมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีกับวัดพระธรรมกาย เพราะได้รับข้อมูลจากสื่อมวลชนที่มีอคติ ลงข่าวเพื่อขายข่าว แต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา อย่างไร้ความรับผิดชอบ ผมเป็นหนึ่งในคนมากมายในสังคมที่บริโภคข่าวเพียงข้างเดียว ตามข่าวที่นำเสนอ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยที่ไม่เคยมาวัด จนกระทั่งจังหวะบุญทุกอย่างลงตัว ทำให้ผมได้มาสัมผัสกับกิจกรรมของทางวัดในครั้งนี้

 

ช่วงเวลาเพียง 6วัน ที่ผมได้ไปที่สวนพนาวัฒน์ มีสิ่งมหัศจรรย์มากมายในชีวิตเกิดขึ้นกับตัวผม เริ่มต้นวันแรกของการอบรม ที่ผมได้ไปศึกษาดูงานที่ โรงเรียนพิงครัตน์ จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนที่เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุดมการณ์ในการสร้างโรงเรียนและการพัฒนา มุ่งปลูกฝังศีลธรรมให้แก่นักเรียนตั้งแต่วัยเด็ก โดยได้รับแบบอย่างมาจากวัดพระธรรมกาย ทำให้ผมรู้สึกทึ่งและประทับใจมากๆ และไม่คิดว่าจะมีโรงเรียนอย่างนี้ในโลก

 

ยิ่งพอผมได้มาศึกษา ดูงานที่ โรงเรียนเตรียมพุทธศาสตร์วัดบ้านขุน ซึ่งเรียกกันว่า เป็นโรงเรียนนานาชาติชาวเขา ที่มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นองค์อุปถัมภ์ ผมได้เห็นถึงหลักการ วิธีการ นโยบายต่างๆที่ทางวัดจัดขึ้น เพื่อช่วยให้เยาวชนชาวไทยภูเขา ผู้ด้อยโอกาสได้มีโอกาสศึกษาความรู้ อย่างมีระบบ ระเบียบแบบแผนที่ดี   ผมคิดว่าที่วัดบ้านขุนแห่งนี้ เป็นการแก้ปัญหาของการศึกษาไทยอย่างแท้จริง เป็นมหากุศล ที่ชุบชีวิตคน เป็นโครงการที่สมควรจะได้รับการยกย่องจากปวงชนชาวไทย เป็นอย่างยิ่ง และวินาทีนี้เองความรู้สึกว่า ทำไมเราถึง “โง่” ถึงเพียงนี้ ทัศนคติต่างๆที่ไม่ดีต่างๆต่อวัดพระธรรมกายก็มลายหายสิ้น

 

    เมื่อเดินทางเข้าสู่สวนพนาวัฒน์ ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่า  เราคือ ผู้โชคดี มีบุญ มีวาสนา ที่ได้เข้ามา ณ สถานที่สวยงามแห่งนี้  ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว พื้นที่ที่สวยงาม สงบ เหมาะสมกับการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ทำให้รู้สึกว่าสวนพนาวัฒน์แห่งนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่าของชาวพุทธ เพราะเกิดด้วยแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา ที่ทางวัดพระธรรมกายได้ส่งเสริม สนับสนุน ปลูกฝัง ให้ชาวโลกรักการปฏิบัติธรรม รักพระพุทธศาสนา ยิ่งทำให้กระผมรู้สึกว่าตัวเองบาปเหลือเกินที่มีทัศนคติที่ผิดๆ จากสื่อมวลชนที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ

 

    กิจกรรมการนั่งสมาธิ นับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สุดยอดของความเป็นมนุษย์ ที่ทุกคนทุกเชื้อชาติ จะต้องปฏิบัติ เพื่อรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ตามอุดมการณ์ของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ คุณครูไม่ใหญ่ ที่จะนำโลกนี้สู่สันติสุข

 

    ผมเริ่มนั่งสมาธิในวันแรกด้วยความตั้งใจมาก  ผมจะนั่งขัดสมาธิ 2 ชั้น เพื่อล็อคตัวเองไม่ให้ขยับ แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ได้รับคือความปวดและทรมานมาก ผมปวดข้อเท้ามาก และผมก็ยังไม่สามารถปล่อยใจให้มาอยู่ที่ฐาน7 ได้ ยังติดอยู่ที่ตา

 

    ตอนหลัง ผมได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ ทำให้ผมปรับได้สบายขึ้น เพราะเปลี่ยนท่านั่งมาเป็นนั่งขัดสมาธิชั้นเดียว พอวันที่ 2 ผมปล่อยใจตามคำแนะนำของพระอาจารย์ วันนี้ผมกำหนดจิตได้ ท่านสอนว่า ให้ปล่อยใจไปตามลมหายใจ สุดลมตรงไหนก็ตรงนั้นเลย ศูนย์กลางกายฐานที่7 พอผมทำตาม พอจิตไปสุดลมตรงกลางกาย พอจิตเริ่มนิ่งได้สักพัก ผมก็เห็นเป็นแสงสว่างแว๊บไปแว๊บมา สลับกับความมืด สักพัก พอจิตนิ่งมากขึ้น แสงที่เห็นก็เริ่มนิ่ง ไม่แว๊บแล้ว แต่จะเห็นเป็นจุดเล็กๆ แล้วจากจุดเล็กๆก็ขยายเป็นดวงใสๆกลมๆ

 

    พอวันที่ 3 ช่วงของการฝึกในเวลากลางคืน ได้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อน คือ นั่งไปสักพัก ระยะแรกเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นมา  จนตกใจคิดว่าไม่ได้หลับตา แต่พอลืมตาขึ้นมาก็พบแต่ความมืดของห้องปฏิบัติธรรม จึงหลับตาตั้งสมาธิใหม่ประมาณ 20นาที พบว่าเกิดวงกลมที่ไม่สว่างนักขนาดเท่าลูกบาสเกตบอล และตัวเองก็ขยายใหญ่ขึ้น  ทำให้เกิดอาการขนหัวลุก แต่เป็นอยู่ครู่เดียว วงกลมก็มีขนาดเล็กลง กลับปรากฏว่ามีพระพุทธรูปสีขาวมุกขนาดไม่ใหญ่นักประมาณ 6องค์ ล้อมรอบวงกลมนั้นอยู่ประมาณครู่หนึ่ง แล้วก็หายไปพร้อมกับวงกลม  ปรากฏการณ์ดังกล่าว มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่สำหรับผม เป็นความสุข ที่นิ่ง และสงบ ไม่สุข ไม่ทุกข์  ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆครับ  ทำให้ผมเกิดความเชื่อมั่นในการนั่งสมาธิมากขึ้น และตั้งใจจะฝึกปฏิบัติต่อไป

 

    พอลงมาจากพนาวัฒน์ ผมก็มาสอนเด็กนักเรียนของผมให้นั่งสมาธิก่อนเรียนวิชาชีววิทยาที่ผมสอน จนเดี๋ยวนี้เด็กจะรู้กันว่า ถ้าเรียนกับครูอิสรา ต้องนั่งสมาธิก่อนเรียน ผมนำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้เรียนรู้มาถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ของผม ที่สำคัญการไปพนาวัฒน์ในครั้งนี้ ทำให้ผมได้รู้จักกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียน

 

 

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นศิษย์เก่าที่ทำให้โรงเรียนของเรามีชื่อเสียง สมดังสโลแกนของโรงเรียนที่ผมมักจะสอนลูกศิษย์เป็นประจำว่า “เด็กสวนกุหลาบ ต้องเป็นที่หนึ่ง ไม่เป็นสองรองใคร” และ “พระอาทิตย์ไม่เคยตกในดินแดนสวนกุหลาบ” คือ ไม่ว่าไปที่ไหน จะมีแต่สมาชิกของสวนกุหลาบทั่วโลก ตอนนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำให้คำพูดทั้งสองประโยคเป็นความจริง เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เผยแผ่ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขยายไปทั่วโลก และไม่ว่าจะเป็นที่ไหนทุกมุมโลก แม้แต่ประเทศแอฟริกาใต้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็เผยแผ่ธรรมไปถึงแล้ว

 

    ท้ายสุดนี้ ผมขอกราบสำนึกในความเสียสละของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งการเสียสละของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไม่ได้เกิดผลเฉพาะตัวพระเดชพระคุณหลวงพ่อเองคนเดียวเท่านั้น แต่เกิดเป็นผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ที่บังเกิดขึ้นแก่ชาวโลก ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนให้ทุกคนรู้จักหนทางของมรรคผล นิพพาน ผมขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ  และขอชื่นชมกับผลงานต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยแรงศรัทธาที่ออกมาเป็นรูปธรรมที่น่าสรรเสริญ และอนุโมทนาบุญ

 

    ขออำนาจบารมีธรรมแห่งองค์พระบรมครู องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ขอให้อุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อและวัดพระธรรมกายได้แพร่ขยายครอบคลุมไปทั่วจักรวาล เพื่อให้เกิดสันติภาพเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกครับ

 

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

 

นายอิสรา ชินบุตร

ครูโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

http://goo.gl/KTiQr