ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2554ตอน พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 48 พระมหากัสสปะตรวจดูอายุสังขารพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้าตอนที่ 48 "พระมหากัสสปะตรวจดูอายุสังขาร"เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาความเดิมจากตอนที่แล้ว... เมื่อกาลได้ล่วงเลยผ่านไปจนถึงยุคพุทธกาล (ยุคของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า)-พระมหากัสสปเถระก็ได้ลงมาบังเกิดสร้างบารมีเป็นภพชาติสุดท้าย โดยในภพชาตินี้ ท่านได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ และถือเป็นหนึ่งในพระอสีติมหาสาวกในยุคสมัยของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อท่านมีอายุครบ 120-ปีพอดี ท่านก็ได้ตรวจดูอายุสังขารด้วยญาณทัศนะของตัวท่านเอง แล้วก็พบว่า...อายุสังขารของท่าน เหลืออีกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ดังนั้น พอถึงรุ่งเช้า พระมหากัสสปะจึงได้บอกแก่เหล่าพระภิกษุสงฆ์ที่พำนักอยู่ในวัดเวฬุวันว่า “เราจะปรินิพพานที่กุกกุฏสัมปาตบรรพตในเวลาเย็นของวันนี้”ครั้นถึงเวลาเย็น พระมหากัสสปเถระก็ได้เดินทางมาที่กุกกุฏสัมปาตบรรพต ซึ่งเป็นสถานที่ที่ท่านจะปรินิพพานเมื่อพระมหากัสสปะเดินทางมาถึงแล้ว ท่านก็ได้แสดงพระธรรมเทศนาโปรดมหาชนเป็นครั้งสุดท้าย ครั้นพอท่านแสดงพระธรรมเทศนาจบแล้ว ท่านก็ได้เดินเข้าไปในซอกของกุกกุฏสัมปาตบรรพตซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสามลูกในทันทีหลังจากนั้น พระมหากัสสปเถระก็ได้นั่งสมาธิ(Meditation)เข้าฌานสมาบัติ แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “หากเราสิ้นอายุสังขารเข้านิพพานเมื่อใด ขอให้ภูเขาทั้งสามลูกนี้...จงมารวมกันเป็นภูเขาลูกเดียวเพื่อบรรจุร่างของเราเอาไว้อยู่ภายใน และเพื่อรอวันเวลาที่พระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จเดินทางมาสลายร่างของเรา บนฝ่าพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์”มาถึงจุดนี้ พวกเราหลายๆคนคงแอบสงสัยว่า ทำไม...พระมหากัสสปเถระจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานลงไปเช่นนั้น ทั้งๆที่ท่านสามารถปรินิพพานด้วยอาการปกติอย่างที่พระอสีติมหาสาวกรูปอื่นๆทำกัน แต่ท่านกลับไม่ทำ และเลือกที่จะให้พระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จเดินทางมาสลายร่างให้กับตัวท่านด้วยฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์ถ้าเรามองให้ลึกลงไปกว่านั้น เราจะพบว่า...จริงๆแล้ว พระมหากัสสปเถระไม่ได้มีความคิดที่จะไปรบกวนให้พระศรีอริยเมตไตรย์ ซึ่งเป็นถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์สุดท้ายของภัทรกัปนี้ เสด็จมาสลายร่างของท่านแต่อย่างใด แต่ที่ท่านต้องอธิษฐานจิตลงไปเช่นนั้น ก็เป็นเพราะท่านได้เห็นถึงบุพกรรมในอดีตที่ตัวท่านและพระศรีอริยเมตไตรย์ ได้เคยกระทำกรรมร่วมกันมา กล่าวคือ ในสมัยที่ตัวท่านเกิดเป็นช้างมงคลพระที่นั่ง ส่วนพระศรีอริยเมตไตรย์ทรงเกิดเป็นนายหัตถาจารย์ ดังนั้น เมื่อเรื่องราวทั้งหมดยังตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม จึงไม่มีผู้ใดที่จะสามารถรื้อผังแห่งวิบากกรรมตรงนี้ไปได้ แม้แต่ผู้ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถที่จะรื้อผังแห่งวิบากกรรมในอดีตที่แต่ละพระองค์ทรงเคยกระทำผิดพลาดเอาไว้ได้ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 48
http://goo.gl/nNtUj