Mobile VersionCase Studyทำไม ผมบวชทีหลังน้องชายเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงโยมพ่อ เป็นคนรักครอบครัวมาก เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ มักจะช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่เสมอๆ ท่านเป็นคนชอบสังสรรค์ จึงมักจะดื่มเหล้าเป็นประจำ แต่ได้เลิกเมื่อสองปีที่ผ่านมานี้เองโยมพ่อตื่นตอนตี 3 สวดมนต์ ทำวัตรทุกวัน มาทำบุญที่วัดพระธรรมกายในวันอาทิตย์ต้นเดือน และงานบุญใหญ่เสมอ เคยร่วมสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว สององค์ และองค์พระธรรมกายแกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์จารึกชื่อ หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ หนึ่งองค์ และร่วมทำบุญทุกๆ บุญตามกำลัง และท่านมักจะไปทำบุญทอดกฐิน ผ้าป่า ตามวัดต่างๆ ในแถบอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่อยู่เสมอๆ เนื่องจาก พระน้องชาย บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดสาขาที่นั่นเมื่อวันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ.2547 ที่ผ่านมา โยมพ่อเป็นลมหน้ามืดขณะที่กำลังจะข้ามถนน และมีคนนำตัวโยมพ่อส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้วินิจฉัยว่า โยมพ่อมีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว โยมพ่อก็ยังไม่รู้สึกตัว หมอบอกว่า สมองของโยมพ่อตายแล้ว ในระหว่างที่ท่านยังไม่สิ้นลม ผมได้นำซีดี สวดมนต์ เสียงนำนั่งสมาธิ(Meditation)ของคุณครูไม่ใหญ่ ไปเปิดให้ท่านฟัง และคอยกระซิบที่ข้างหูให้ท่านนึกถึงบุญที่ท่านได้กระทำมา จนกระทั่งโยมพ่อเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2547 ที่ผ่านมา รวมอายุได้ 68 ปีตลอดเวลา ผมหมั่นชักชวนให้ท่านมาร่วมบุญใหญ่อยู่เสมอ และสำหรับบุญกฐินจักรพรรดิ ผมก็บอกให้ท่านทราบบ้าง แต่ท่านยังไม่ได้ทำด้วยตัวเอง ก็มาด่วนไปเสียก่อน ผมจึงได้แต่ตั้งกองกฐินให้กับท่านในภายหลังที่ท่านละโลกไปแล้วโยมแม่ เข้าวัดเมื่อปี พ.ศ.2529 และได้ชวนผมให้มาเป็นสารถีขับรถให้ท่าน มาวัดเป็นประจำทุกสัปดาห์ เมื่อมาถึงวัดแล้วโยมแม่ท่านก็จะขึ้นไปปฏิบัติธรรม ตัวผมเองก็ไม่ได้ขึ้นไปนั่งสมาธิกับโยมแม่ แต่จะนอนหลับอยู่ในรถเพื่อรอโยมแม่ จนกระทั่งผมไปเรียนต่างประเทศ โยมแม่ท่านก็จะขึ้นรถบัส ที่ทางวัดจัดมารับเป็นประจำทุกสัปดาห์เมื่อ ผม อายุประมาณ 30 ปี โยมพ่อก็ได้ไปมีภรรยาอีกคนหนึ่งเมื่อโยมแม่รู้เรื่อง จึงตัดสินใจแยกทางกับโยมพ่อแล้วก็ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่แม้โยมแม่จะย้ายไปอยู่เชียงใหม่แล้ว ท่านก็ยังไม่ขาดที่จะมาวัดปฏิบัติธรรมร่วมงานบุญกับที่วัดเสมอจนกระทั่งถึงปัจจุบันตัวผมเอง เมื่อกลับมาจากเรียนที่ต่างประเทศแล้ว ก็ได้มีครอบครัวและมีลูกสาวหนึ่งคน แต่ทั้งสองคนได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่จังหวัดลำพูน โดยมีผมเป็นคนขับรถ อดีตภรรยาของผม คอหักเสียชีวิตทันที ส่วน ลูกสาว ศีรษะฟาดกับประตูรถจนสมองร้าว และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ส่วนตัวผมเองก็ได้รับบาดเจ็บ ไหปลาร้าหัก ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในระหว่างนั้นผมเศร้าเสียใจมาก โยมพ่อท่านก็ได้พูดให้สติกับผมว่า “ทั้งสองคนเขาหมดบุญแล้วจึงต้องไปก่อน ส่วนตัวเราเองยังพอมีบุญอยู่ ต้องรีบสั่งสมเพิ่มเติมบุญให้มากๆ” โยมพ่อจึงชวนผมบวชพระ ผมจึงตกลงรับปากโยมพ่อทันที ในขณะที่อยู่โรงพยาบาล พระน้องชายซึ่งบวชอยู่ที่วัดพระธรรมกายท่านก็รีบนำใบสมัครบวชธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษา ปี พ.ศ.2540 มาให้ผมกรอกทันที ผมจึงได้บวชตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันโยมตา เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนรูปหล่อ ไม่ค่อยพูด ใจดี มีแฟนเยอะ แต่ก็ไม่คิดไปอยู่กับคนอื่นนอกจาก โยมยาย ในวัยเด็กโยมตาใช้ชีวิตเป็นเด็กวัด และได้บวชเป็นพระเมื่ออายุครบ 20 ปี ท่านเป็นคนใจบุญ มักจะทำบุญตามประเพณี โยมตาสูบบุหรี่เป็นประจำ แต่ไม่กินเหล้า ชอบเล่นไพ่ทุกชนิด เสียชีวิตด้วยโรคถุงลมโป่งพอง เมื่อปี พ.ศ.2532 อายุ 78 ปีโยมยาย เป็นคนปากร้ายแต่ใจดี เป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญบวชพระ ลูกหลานผู้ชายโยมยายจะร่วมสนับสนุนให้ได้บวช ลูกชายบ้านไหนไม่มีเงินบวชหรือไม่มีพ่อแม่ โยมยายก็จะช่วยเป็นเจ้าภาพบวชให้ โยมยายเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อปี พ.ศ.2539 อายุ 87 ปีโยมปู่ เป็นหมออยู่สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา โยมปู่แต่งงานแล้วกับญาติของโยมย่า แต่พอมาเจอโยมย่าก็ได้อยู่กินกับโยมย่าในฐานะภรรยาอีกคนหนึ่ง ต่อมาโยมย่าคลอดลูกคือโยมพ่อของผมแล้ว ท่านก็เลิกกับโยมปู่ และเลี้ยงโยมพ่อมาเพียงลำพัง โยมปู่เสียชีวิตด้วยวัณโรค ที่ติดเชื้อมาจากผู้ป่วยโยมย่า เป็นลูกชาวสวนมีอาชีพเป็นแม่ค้า มีศักดิ์เป็นน้องสาวของคุณยายมหารัตนอุบาสิกา ทองสุก สำแดงปั้น เวลาวันพระโยมย่าจะไปถือศีล และนำอาหารไปทำบุญที่วัดปากน้ำ และไปหาคุณยายทองสุก โยมย่าเคยร่วมบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติฯกับ พระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ สด จนฺทสโร และยังได้รับพระผงรุ่นหนึ่งมาด้วย (ซึ่งขณะนี้พระผงก็เป็นมรดกตกทอดมาถึงพระน้องชาย) บั้นปลายชีวิตของโยมย่าท่านเป็นคนหลงๆ ลืมๆ และเสียชีวิตเมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ.2526คำถาม1.ด้วยบุพกรรมใด ที่ทำให้โยมพ่อเสียชีวิตด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองแตก2.ตอนที่โยมพ่ออยู่ที่โรงพยาบาล หมอบอกว่า สมองตายแล้ว ผมได้ไปพูดข้างหูให้โยมพ่อนึกถึงบุญ และเปิดบทสวดมนต์และนำนั่งสมาธิ ให้ท่านฟัง ไม่ทราบว่าท่านรับรู้หรือไม่ครับ3.โยมพ่อตายแล้วไปไหน ได้มาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์หรือไม่ครับ และได้รับบุญที่โยมแม่และลูกๆ ทำอุทิศไปให้หรือไม่ มีข้อความอะไรฝากถึงพระลูกชายทั้งสอง ภรรยา และญาติๆ หรือไม่ ท่านรู้สึกอย่างไรกับกฐินจักรพรรดิที่ทำให้ท่านในภายหลังครับ4.อดีตภรรยาและลูกสาวของผม ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่ผมได้อุทิศไปให้หรือไม่5.ผม และอดีตภรรยาและลูกสาวทำบุญร่วมกันมาอย่างไร จึงได้มาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน และทำไมทั้งสองคนจึงมาเสียชีวิตในเวลาเดียวกันก่อนวัยอันควร ทำไมผมจึงรอดมาเพียงคนเดียว และได้มาบวชสร้างบารมีกับหมู่คณะจนกระทั่งถึงปัจจุบันครับ6.กรรมอะไรทำให้โยมปู่ติดเชื้อวัณโรคมาจากผู้ป่วยจนเสียชีวิต7.โยมตา,โยมยาย,โยมปู่,โยมย่า ตายแล้วไปไหน ตอนนี้มีสภาพความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง8.บุญที่ชอบสนับสนุนคนให้บวช เป็นเจ้าภาพบวชพระ เหมือนที่โยมยายทำในชาตินี้ จะส่งผลอย่างไรในอนาคตบ้างครับ9.ผมทำบุพกรรมอะไรมาครับจึงได้มาบวชช้ากว่าพระน้องชาย ทั้งๆที่ผมก็เข้าวัดก่อน10.ในปัจจุบันนี้ ผมจะบวชได้ตลอดชีวิตหรือไม่ครับ ผม พระน้องชาย และโยมแม่ สร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรครับฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ1.โยมพ่อเสียชีวิตด้วยเส้นโลหิตในสมองแตก เพราะกรรมในอดีตและปัจจุบัน ท่านฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มและดื่มสุราเป็นประจำ2.ตอนที่อยู่โรงพยาบาลหมอบอกว่า สมองท่านตายแล้ว ลูกได้ไปพูดข้างหูให้ท่านนึกถึงบุญและเปิดเทปบทสวดมนต์และนำท่านทำสมาธินั้น ช่วงแรกท่านรับรู้ได้ แต่ต่อมาท่านหลับไปจึงรับรู้ไม่ได้3.โยมพ่อตายแล้วไปเป็นเทพบุตรสายพญานาคชั้นจาตุมหาราชิกา มีวิมานเป็นทองขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก เพราะบุญที่พระลูกชายบวช บุญที่ทำตามประเพณีและบุญที่พระลูกชายแนะนำให้ทำ บวกกับเศษกรรมสุรา
http://goo.gl/KJwWf
พิมพ์บทความนี้
