ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2554สู่ชีวิตเลอค่าอมตะนิรันดร์กาล
ตอน สู่ชีวิตเลอค่าอมตะนิรันดร์กาลเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงกระผม พระถนอม สนฺตินนฺโท อายุ 57 ปี ปัจจุบันเป็นพระธรรมทายาทอยู่ ณ ศูนย์อบรมเขาแก้วเสด็จ จังหวัดปราจีนบุรี ขอรายงานตัวครับ กระผมเป็นคนขอนแก่นที่มีความอดทนเป็นเลิศครับ กระผมเป็นคนซื่อประกอบกับไม่รู้หนังสือและมีฐานะยากจน จึงทำให้มีทางเลือกในชีวิตไม่มากนัก กระผมจึงต้องใช้แรงกายเข้าแลก รับจ้างหว่านๆไถๆอยู่ในท้องนาท้องไร่ เพื่อหาเงินเลี้ยงชีวิตมาตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งชีวิตของกระผมนั้นพูดได้ว่า สุดแสนลำเค็ญ กล่าวคือ มันลำเค็ญแบบสุดๆ เพราะกระผมทำงานได้ค่าจ้างแค่วันละ13 บาท ตกปีละ 400 บาทเท่านั้นครับ ทำให้กระผมต้องกินอยู่แบบจำกัดจำเขี่ย กระผมต้องจับกบจับเขียดตะปาดในนาข้าวเอามาคั่วกินครับ ส่วนที่หลับที่นอนนั้น นายจ้างให้กระผมนอนในฉางข้าวโพดครับ ซึ่งกระผมก็อดทนทำงานอยู่ที่นั่นมาได้ 4 ปี จนกระทั่งญาติผู้พี่ของกระผมได้มาชวนให้ไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯครับ เพราะเขาบอกว่าจะได้ค่าจ้างมากกว่า พระถนอม สนฺตินนฺโทกระผมได้ตะลอนไปหางานทำอยู่หลายที่ จนมีอยู่ที่หนึ่งครับ คือ ที่โรงสีข้าวแถวเจริญผล เขาจ้างกระผมทอกระสอบใส่ข้าว และให้ค่าจ้างกระผมวันละ 5 บาทครับ ได้เงินน้อยกว่าเดิมอีกครับ แต่ยังดีนะครับที่เขาให้ที่พัก ให้ข้าวให้น้ำกระผมได้ดื่มกิน กระผมจึงมีชีวิตรอดอยู่ได้ กระผมได้ทำงานอยู่กับเขาเกือบสิบปีเลยครับ และในช่วงนั้นเอง กระผมได้เจอกับอดีตภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ต่อมาเราได้มีลูกด้วยกันถึง 5 คน ทำให้รายได้วันละ 5 บาทไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครับ กระผมจึงต้องหางานใหม่และไปได้งานเป็นกรรมกรก่อสร้าง ซึ่งเถ้าแก่ได้ให้ค่าจ้างกระผมวันละ 130 บาท ซึ่งถือเป็นเงินค่าจ้างที่กระผมหาได้มากที่สุดในชีวิตเลยครับ ตอนนั้นกระผมก็รู้สึกเริ่มๆจะมีความสุข แต่ทำมาทำไป ก็โดนโกงครับ เถ้าแก่เบี้ยวค่าแรงของกระผมอยู่เรื่อย ตอนนั้นกระผมโกรธมากจึงขอลาออกหลังจากลาออกแล้ว กระผมได้ไปกู้เงินจากนายทุนมาลงทุนทำไร่อ้อยอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งขณะที่กระผมกำลังทำไร่อยู่ เพื่อนบ้านได้นำข่าวดีที่สุดในโลกมาบอกให้กระผมทราบว่า “ตอนนี้มีโครงการบวชพระรุ่นเข้าพรรษาแสนรูปทั่วประเทศ แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นโครงการของวัดพระธรรมกาย” โดยเขาได้ชวนกระผมให้ไปบวชด้วยกันที่ศูนย์การศึกษาเขาแก้วเสด็จ จังหวัดปราจีนบุรีครับ กระผมต้องขอสารภาพว่า ตอนนั้นพอกระผมรู้ว่าเป็นโครงการของวัดพระธรรมกาย กระผมก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะมาบวช เพราะเคยรู้มาว่า คนที่จะบวชที่นี่ได้ ต้องเป็นคนที่มีความรู้สูงและฐานะดีเท่านั้น กระผมจึงได้แต่อาสาขับรถมาส่งเพื่อนที่ศูนย์การศึกษาเขาแก้วเสด็จครับ แต่พอมาถึงแล้ว กระผมก็ได้เจอกับพระอาจารย์ ซึ่งท่านได้เมตตาเทศนาให้กระผมฟังเรื่องอานิสงส์ของการบวช ทำให้กระผมคิดได้ว่า “ที่ชีวิตของเราทุกข์ลำเค็ญเช่นนี้ เพราะเราขาดบุญ” กระผมจึงเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้า ขอสมัครบวชกับพระอาจารย์ทันที และได้ตรวจร่างกายในวันนั้นเลยครับ ซึ่งปรากฏว่ากระผมผ่านเกณฑ์ทุกอย่าง แต่น่าเสียดายที่เพื่อนของกระผมตรวจร่างกายไม่ผ่าน เขาจึงไม่ได้บวชในโครงการนี้ ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระถนอม สนฺตินนฺโทกระผมดีใจมากครับที่ได้บวช ถ้าหากไม่มีโครงการนี้ กระผมก็คงไม่ได้บวช เพราะกระผมจนและไม่รู้หนังสือด้วยครับ ซึ่งพอเข้าโครงการวันแรก กระผมดีใจมากครับที่จะได้สั่งสมบุญใหญ่ ดังนั้นเวลาพระอาจารย์บอกให้ทำอะไร กระผมจะทำตามทุกอย่างเลยครับ เพราะกระผมอยากเป็นคนมีคุณภาพ เป็นพระมีคุณภาพ แบบคนอื่นเขาบ้าง และพอได้ฝึกนั่งสมาธิ(Meditation) กระผมก็รู้สึกปวดเมื่อยตามแขนขาและปวดหลังมากๆ แต่กระผมก็อดทนครับ โดยกระผมได้นึกอธิษฐานกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯอยู่ตลอดเวลาว่า “ขอให้กระผมนั่งสมาธิได้” ซึ่งพอเข้าวันที่สาม ขณะที่กระผมกำลังนั่งหลับตาภาวนา “สัมมาอะระหัง” อยู่นั้น กระผมก็รู้สึกว่าตัวของกระผมเบาขึ้น แล้วสักพักก็มีแสงสว่างวาบขึ้นในกลางท้องของกระผมครับ ตอนนั้นกระผมรู้สึกว่าตัวเองโปร่งใสมากจนมองทะลุได้ แล้วก็รู้สึกวูบเหมือนกำลังตกเหว จากนั้นกระผมก็เห็นดวงแก้วดวงเล็กๆใสๆบางๆอยู่ในศูนย์กลางกาย ซึ่งพอมองเข้าไปกลางดวงแก้ว ก็เห็นว่ามีองค์พระสีทองอยู่ข้างใน แล้วก็รู้สึกเหมือนมีองค์พระครอบคลุมตัวกระผมอยู่ จนรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัวครับ แม้ขณะลืมตา พอกระผมใช้ใจมองลงไปในกลางท้อง ก็จะเห็นว่ามีดวงแก้วและองค์พระผุดซ้อนอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลาด้วยครับพระถนอม สนฺตินนฺโทตอนนี้ชีวิตของกระผมพบความสุขที่แท้แล้วครับ หลังจากที่เสียเวลาไปลำเค็ญอยู่ทางโลกตั้งนาน กระผมอยากบวชต่อ อยากอยู่กับหลวงพ่อไปนานๆแบบชาติต่อชาติครับ กระผมอยากจะช่วยงานพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ครับ ทุกวันนี้กระผมได้แต่ขอพรจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และคุณยายอาจารย์ ให้ท่านช่วยคุมบุญให้กระผมได้บวชอย่างราบรื่น กระผมไม่ห่วงที่บ้านแล้วครับ เพราะกระผมส่งบุญให้แล้ว กระผมขอกราบเรียนหลวงพ่อว่า “เรื่องเดินธุดงค์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ไม่ว่าหลวงพ่อจะส่งกระผมไปเดิน ณ เส้นทางไหน กระผมก็จะไป ขอเพียงแต่ให้กระผมได้อยู่รับใช้หลวงพ่อในฐานะพระลูกชาย เท่านี้ก็พอครับ”กราบคารวะด้วยความเคารพอย่างสูงพระถนอม สนฺตินนฺโทหมายเหตุ: จดหมายฉบับนี้เขียนจากคำบอกเล่าของพระถนอม สนฺตินนฺโทบทความที่เกี่ยวข้องกับสู่ชีวิตเลอค่าอมตะนิรันดร์กาลรับชมมิวสิควีดีโอ ชีวิตสมณะ
http://goo.gl/zkDi7