ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 25 กันยายน พ.ศ.2555
ปรโลกนิวส์ ตอน คุณพ่อถนอมละโลกแล้วไปไหนปรโลกนิวส์ ตอน คุณพ่อถนอมละโลกแล้วไปไหน ตอนที่ 2
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปราคำถามข้อที่ 2 ในภพชาติที่ผ่านมานั้น ตัวลูกเคยสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะมาหรือไม่ อย่างไรคะคำตอบ...สำหรับเรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น ตัวลูกก็เคยได้เกิดมาสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะด้วยเหมือนกันคุณพ่อของลูกในภพชาตินั้นทำหน้าที่ให้ความรู้แก่ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองแห่งนั้นเรื่องก็มีอยู่ว่า...ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็น “กุลธิดาสุดสวยผู้มากพร้อมไปด้วยความรู้ความสามารถ” อยู่ในตระกูลของนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักของชาวเมืองแห่งหนึ่งในแคว้นของพระราชาองค์ที่บวช โดยคุณพ่อของลูก(ในภพชาตินั้น) จะทำหน้าที่ให้ความรู้แก่พวกชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองแห่งนั้นและด้วยความที่ตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เกิดอยู่ในตระกูลของนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากนี้เอง จึงทำให้ตัวลูกในภพชาตินั้น ได้รับการเคี่ยวเข็ญและปลูกฝังให้ศึกษาเรียนรู้ในวิชาความรู้ต่างๆ ตั้งแต่ตัวลูกยังเป็นเด็ก ซึ่งก็เป็นผลทำให้ตัวลูกเติบโตมาพร้อมกับความรู้ความสามารถที่หลากหลาย จนตัวลูกได้กลายเป็นเด็กอัจฉริยะที่มีความเฉลียวฉลาดรอบรู้มากกว่าเด็กในวัยเดียวกันตัวลูก (ในพุทธันดรที่ผ่านมา) เติบโตมาพร้อมกับความรู้ความสามารถที่หลากหลายเมื่อตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) เติบโตมาพร้อมกับความรู้ความสามารถที่หลากหลาย กอปรกับตัวลูกเองก็มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวของนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับนับถือของชาวเมืองทั้งหลาย ด้วยเหตุดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้เอง จึงทำให้ตัวลูกได้กลายเป็น “สาวมั่นที่มีความเซลฟ์(มีความเชื่อมั่นในตัวเอง) อย่างสุดๆ” และไม่ว่าตัวลูกจะไปอยู่ที่ไหน ตัวลูกก็มักจะทำหน้าที่เป็นหัวโจก(เป็นหัวหน้ากลุ่ม) ของเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันทุกครั้งไปอย่างในช่วงวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ถ้าหากตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น) เกิดความรู้สึกไม่พอใจใครขึ้นมา ตัวลูกก็มักจะชอบพูดจาในทำนองที่ว่า “คนอย่างเธอน่ะ ไม่ฉลาดและไม่เก่งเหมือนอย่างฉันหรอก เพราะฉะนั้น ไม่มีทางที่จะเรียนเรื่องนี้ได้หรอก” หรือ “คนอย่างเธอน่ะ ไม่มีวันที่จะทำสิ่งที่ยากๆ อย่างนี้ได้หรอก” เป็นต้นเมื่อตัวลูก เกิดความรู้สึกไม่พอใจใครขึ้นมาตัวลูกก็มักจะชอบพูดจาดูถูกเขาซึ่งถ้าหากดูโดยภาพรวมแล้ว ตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) ก็แลดูเหมือนกับเป็นสาวสวยที่เพอร์เฟคท์ หรือเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง(คือเป็นทั้งคนสวย คนรวย คนเก่ง และมีชื่อเสียง แถมยังแวดล้อมไปด้วยเพื่อนพ้องบริวารอีกมากมายอีกด้วย) แต่ถึงกระนั้น ในส่วนลึกๆ ของหัวใจของตัวลูก ตัวลูกกลับรู้สึกว้าเหว่และขาดคนที่จะมาคอยดูแลหัวใจของตัวลูกตัวลูกเป็นสาวมั่นที่มีความเซลฟ์อย่างสุดๆจึงมีแต่เพื่อนข้างกาย แต่ไม่มีเพื่อนข้างใจส่วนสาเหตุที่ทำให้ไม่มีหนุ่มๆ กล้าที่จะเข้ามาขายขนมจีบ หรือมาสมัครเป็นคนในดวงใจของตัวลูกเลยแม้แต่คนเดียวนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ตัวลูกเป็นหญิงสาวที่มีความเซลฟ์อย่างสุดๆ กอปรกับตัวลูกเองก็มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวแสนสวยของนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงก้องเมือง ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้ตัวลูกต้องเป็นสาวมั่นที่มีแต่เพื่อนข้างกาย แต่ไม่มีเพื่อนข้างใจนั่นเอง
วันหนึ่ง ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีจิตใจหาญกล้าเดินเข้ามาเคาะประตูหัวใจของตัวลูกจนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ก็ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีจิตใจหาญกล้าได้เดินเข้ามาเคาะประตูหัวใจของตัวลูก (ในพุทธันดรที่ผ่านมา) ซึ่งชายหนุ่มคนนี้ก็ได้มาพร้อมกับความน่ารัก ใจดี และเยือกเย็น แถมยังคอยเอาอกเอาใจตัวลูกในทุกๆ อย่าง(เรียกได้ว่า ยอมทำทุกอย่างเพื่อตัวลูกเลยคนเดียว)ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนน่ารัก ใจดี และเยือกเย็นแถมยังคอยเอาอกเอาใจตัวลูกในทุกๆ อย่างเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ตัวลูกเกิดความใจอ่อน แล้วก็ยอมเปิดรับชายหนุ่มคนนี้เข้ามาอยู่ในหัวใจของตัวลูก แบบจัดเต็มในทุกพื้นที่ของหัวใจเลยทีเดียวและด้วยคุณงามความดีที่ชายหนุ่มคนนี้ได้มอบให้กับตัวลูก (ในพุทธันดรที่ผ่านมา) อย่างเสมอต้นเสมอปลายและไม่เคยเสื่อมคลายนี้เอง จึงทำให้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของตัวลูกเกิดความไว้วางใจ และยินยอมให้ตัวลูกแต่งงานกับชายหนุ่มคนนี้ได้ในที่สุด
ในที่สุด ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของตัวลูกก็เกิดความไว้วางใจและยินยอมให้ตัวลูกแต่งงานกับชายหนุ่มคนนี้ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสาวมั่นที่มีความเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน และมีดีกรีเป็นถึงลูกสาวของนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงก้องเมือง) ยอมที่จะเปิดรับรักที่มาจากชายหนุ่มธรรมดาๆ คนนี้ จนถึงขั้นยอมแต่งงานด้วยในที่สุดนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ บุพเพสันนิวาสที่ตัวลูกกับชายหนุ่มคนนี้ได้เคยอยู่ร่วมกันมาในภพชาติก่อนๆ นู้น(ซึ่งเป็นภพชาติก่อนหน้าพุทธันดรที่ผ่านมา) มารวมส่งผลร่วมกับผลของความเกื้อกูลระหว่างตัวลูกและชายหนุ่ม ที่มีให้แก่กันและกันในพุทธันดรที่ผ่านมา เรื่องก็มีอยู่ว่าในภพชาติก่อนๆ นู้น(ซึ่งเป็นภพชาติก่อนหน้าพุทธันดรที่ผ่านมา) ตัวลูกก็ได้เกิดเป็น “กุลธิดาสาวแสนสวยที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี” อยู่ในตระกูลของเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวย ส่วนตัวชายหนุ่ม(ในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น) ก็ได้ไปเกิดเป็น “กุลบุตรหนุ่ม” อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะมีอันจะกินน้อย(ค่อนข้างที่จะยากจน) และด้วยความที่ตัวเขาเกิดอยู่ในครอบครัวที่มีอันจะกินน้อยนี้เอง จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครเข้ามาคบหาสมาคมกับเขาสักเท่าไหร่แต่เมื่อตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ได้มาพบกับชายหนุ่มคนนี้เข้าแล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้สึกที่สงสารตัวเขาขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจ และด้วยความรู้สึกที่สงสารนี้เอง จึงทำให้ตัวลูกมักจะชอบเข้าไปทักทาย พูดคุย และแบ่งปันสิ่งของให้กับชายหนุ่มคนนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งก็เป็นผลทำให้ชายหนุ่มคนนี้เกิดความรู้สึกประทับใจ และซาบซึ้งใจในคุณงามความดีของตัวลูกมากขึ้นไปเรื่อยๆ(เพราะตัวลูกในภพชาตินั้นเปรียบประดุจดั่งเทพธิดา ที่มาหลั่งทิพย์ธาราลงบนหัวใจอันแห้งผากของเขา ให้กลับมาชุ่มชื่นและเบิกบานอยู่ตลอดเวลา) แล้วในที่สุด ชายหนุ่มคนนี้ก็ได้ตกหลุมรักตัวลูกเข้าอย่างจังและเมื่อความรักได้เบ่งบานอยู่ในใจของชายหนุ่มคนนี้อย่างเต็มที่แล้ว ตัวเขาก็ไม่อาจที่จะเก็บความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อตัวลูกเอาไว้คนเดียวได้อีกต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวเขาจึงได้สารภาพรักต่อตัวลูกแบบตรงๆ อีกทั้งยังให้คำมั่นสัญญากับตัวลูกในทำนองที่ว่า “ตัวเขาจะรักและซื่อตรงต่อตัวลูกเพียงคนเดียว และตัวลูกจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของตัวเขาเท่านั้น และเขาจะขอเป็นคนของตัวลูกตลอดไป ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ”เขาได้สารภาพรักต่อลูก และให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักและซื่อตรงต่อตัวลูกเพียงคนเดียว ตัวลูกจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของเขาเท่านั้น และเขาจะขอเป็นคนของตัวลูกตลอดไปและเมื่อชายหนุ่มคนนี้ได้ให้คำมั่นสัญญากับตัวลูก(ในภพชาตินั้น) บ่อยเข้า บ่อยเข้า ตัวลูกก็เกิดความใจอ่อนและยินยอมให้ชายหนุ่มคนนี้มาเป็นคนข้างกาย ที่จะอยู่เคียงข้างตัวลูกไปจนตลอดชีวิตและด้วยบุพเพสันนิวาสที่ตัวลูกกับชายหนุ่มคนนี้ได้เคยอยู่ร่วมกันมาในภพชาติดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกและชายหนุ่มคนนี้จึงได้เกิดมาเจอกัน แล้วก็ได้มารู้จักกันอีกครั้ง และเมื่อชายหนุ่มคนนี้ได้มาเจอกับตัวลูกแล้ว ตัวเขาก็ได้มอบความรักให้กับตัวลูกด้วยความจริงใจ พร้อมกับยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวลูกมีความสุข เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ตัวลูกเกิดความรู้สึกรักในตัวชายหนุ่มคนนี้ แล้วก็ได้ตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกับชายหนุ่มคนนี้ในที่สุด(ซึ่งชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เพราะเขาก็คือ เทพบุตรข้างกายหรือสามีของตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้นั่นเอง)สมดังพุทธพจน์ที่ว่า ความรักนั้นเกิดจากเหตุ 2 ประการ คือ การอยู่ร่วมกันในกาลก่อน และการเกื้อกูลกันในภพชาติปัจจุบัน เหมือนดั่งดอกบัวเมื่อเกิดในน้ำ ย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยเหตุ 2 ประการ คือ น้ำและเปลือกตม ฉะนั้นและหลังจากที่ตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) ได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่แสนดีคนนี้แล้ว ตัวเขาก็ได้ทำหน้าที่เป็นยอดกัลยาณมิตรแนะนำตัวลูกให้รู้จักกับหมู่คณะ แล้วก็ได้ชักชวนตัวลูกให้มาฟังธรรมและสั่งสมบุญที่วัดใหม่ของพระเถระเมื่อตัวลูกได้มาฟังธรรมและสั่งสมบุญที่วัดใหม่ของพระเถระแล้วตัวลูกก็เกิดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตและเมื่อตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) ได้มาฟังธรรมและสั่งสมบุญที่วัดใหม่ของพระเถระแล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต(ไม่ว่าจะเป็น เรื่องบุญ-บาป, เรื่องนรก-สวรรค์ หรือเรื่องกฎแห่งกรรม เป็นต้น)และเมื่อตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตแล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้สึกกลัวต่อผลของวจีกรรม ที่ตัวลูกได้เคยไปพูดจาตัดรอนกำลังใจคนอื่นเอาไว้ ในสมัยที่ตัวลูกยังเป็นเด็กจนถึงช่วงวัยรุ่น(ในทำนองที่ว่า คนอื่นไม่ฉลาดและไม่เก่งเหมือนอย่างกับตัวลูกเอง)ด้วยความรู้สึกกลัวต่อผลของวจีกรรมทำให้ตัวลูกได้ตั้งใจทุ่มเทสั่งสมบุญทุกๆ บุญอย่างเต็มที่เต็มกำลังและด้วยความรู้สึกที่กลัวต่อผลของวจีกรรม(ที่จะส่งผลทำให้ในภพชาติต่อๆ ไป ตัวลูกจะต้องเกิดมาเป็นคนไม่ฉลาด) นี้เอง จึงทำให้ตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) ได้ตั้งใจทุ่มเทสั่งสมบุญทุกๆ บุญอย่างเต็มที่เต็มกำลัง โดยเฉพาะบุญที่เกี่ยวเนื่องด้วยการส่งเสริมการศึกษา ตัวลูกก็จะทุ่มเททำเป็นพิเศษ ทั้งทำด้วยกำลังทรัพย์และให้ความรู้เป็นวิทยาทานอย่างเต็มที่เต็มกำลังบุญที่เกี่ยวเนื่องด้วยการส่งเสริมการศึกษา ตัวลูกก็จะทุ่มเททำเป็นพิเศษนอกจากตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) จะทุ่มเททำบุญที่เกี่ยวเนื่องด้วยการส่งเสริมการศึกษาเป็นพิเศษแล้ว ตัวลูกยังได้มีส่วนร่วมในการช่วยจัดเก็บรวบรวมหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา และคำสอนของพระเถระ(ผู้สืบทอดวิชชาฯ ต่อจากพระมหาเถระหรือคุณยายอาจารย์ของเรา) ให้เป็นหมวดหมู่และคงอยู่ไปถึงมหาชนผู้มีบุญรุ่นหลังๆ อีกด้วยส่วนผลการปฏิบัติธรรมของตัวลูกและดาร์ลิ้งที่แสนดี(ในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น) ตัวลูกทั้งสองก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี คือ ได้เข้าถึงความสว่างภายในที่มาพร้อมกับความสุขใจเป็นอย่างมากเมื่อตัวลูกทั้งสอง ในพุทธันดรที่ผ่านมา ละจากโลกนี้ไปแล้วตัวลูกทั้งสองก็ได้กลับไปแวะพักกลางทางที่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษเขตเสบียง ได้อย่างสง่างามและเมื่อถึงวันที่ตัวลูกทั้งสอง(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) กำลังจะละจากโลกนี้ไป ตัวลูกทั้งสองก็สามารถนึกทบทวนบุญทุกๆ บุญที่ตัวลูกทั้งสองได้เคยสั่งสมมาตลอดชีวิตได้อย่างชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นผลทำให้ใจของลูกทั้งสองเกิดความปลื้มปีติเบิกบานในบุญ และมีความผ่องใสสว่างไสวเป็นอย่างมากเมื่อตัวลูกทั้งสอง(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) ละจากโลกนี้ไปแล้ว ตัวลูกทั้งสองก็ได้กลับไปแวะพักกลางทางที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตเสบียงได้อย่างสง่างามจากเรื่องราวสะเก็ดข่าวสั้นทันปรโลกที่เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมานี้ ก็สอนให้เราได้รู้ว่า ทุกๆ ชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม และทุกๆ การกระทำของเรา(ไม่ว่าจะเป็น การกระทำทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ) ล้วนแล้วแต่มีผลต่อชีวิตของเราทั้งสิ้น คือ เมื่อเราทำกรรมใดไว้ เราก็จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น สมดังพุทธพจน์ที่ว่า กัมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมทุกๆ ชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมและทุกๆ การกระทำของเรา ล้วนแล้วแต่มีผลต่อชีวิตของเราทั้งสิ้นเพราะฉะนั้น เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรม(ซึ่งเป็นคำสอนที่มีสอนเฉพาะในพระพุทธศาสนา) ให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เพื่อที่เราจะได้ดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องและดีงามด้วยความไม่ประมาท อีกทั้ง จะได้ตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมีและประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส หรือ ทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนา เป็นต้นเราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมีและประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งถ้าหากเราทำได้เช่นนี้ ชีวิตการสร้างบารมีของเราจะได้อยู่รอดปลอดภัย และมีชัยชนะในเส้นทางการสร้างบารมีไปตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม”สำหรับเรื่องราวสะเก็ดข่าวสั้นทันปรโลกก็คงจะต้องจบลงพอสังเขปเพียงเท่านี้เอวํ ก็มีด้วยประการละฉะนี้
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/84WQG