Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 15 มีนาคม 2556Case Study ของคุณโมนิค มูนอฟ ตอนที่ 12
เพื่อต้องการที่จะสอนเทคนิควิธีการต่างๆ ในการล่าสัตว์
ต่อจากตอนที่แล้ว.....สำหรับเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของกุลบุตรหนุ่มผู้มีจิตใจงดงามในภพชาตินั้น เกิดการพลิกผัน นั่นก็คือมีอยู่วันหนึ่งคุณพ่อในภพชาตินั้นซึ่งเป็นนายพรานที่มีความเก่งกาจทางด้านการล่าสัตว์เป็นอย่างมาก ก็ได้ชักชวนให้กุลบุตรหนุ่มเข้าป่าไปล่าสัตว์ด้วยกันเพื่อต้องการที่จะสอนเทคนิควิธีการต่างๆ ในการล่าสัตว์ให้กับคุณไอวี่อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การยิงธนู หรือการแกะรอยเท้าสัตว์ป่าเป็นต้น
แม้ว่ากุลบุตรหนุ่มจะไม่อยากติดตามคุณพ่อของเขาไปเลย
แต่ด้วยความรู้สึกเคารพรักและไม่อยากที่จะขัดใจคุณพ่อจึงได้จำใจออกเดินทางเข้าป่าไป
เมื่อคุณไอวี่ หรือกุลบุตรหนุ่มผู้มีจิตใจงดงามในภพชาตินั้น ถูกคุณพ่อของเขาชักชวนให้เข้าป่าไปล่าสัตว์ด้วยกันเช่นนั้น แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่อยากติดตามคุณพ่อของเขาไปเลยก็ตาม แต่ด้วยความรู้สึกเคารพรักและไม่อยากที่จะขัดใจคุณพ่อ ตัวเขาจึงได้จำใจออกเดินทางเข้าป่าไปพร้อมกับคุณพ่อของเขา และก่อนที่ตัวคุณไอวี่ กับคุณพ่อของเขาจะเดินทางเข้าไปถึงในป่าลึก ซึ่งเป็นจุดหมายที่คุณพ่อของเขาได้กำหนดเอาไว้นั้น ทั้งสองก็ได้แวะพักค้างแรมอยู่ที่บริเวณกลางป่า
ในขณะที่คุณไอวี่ กับคุณพ่อของเขากำลังตระเตรียมที่พักกันอยู่ที่บริเวณกลางป่านั้น ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเมฆครึ้มแล้วก็มีเสียงฟ้าร้อง ฟ้าแลบอยู่เป็นระยะๆ และอีกสักพักหนึ่งไม่นานสายฝนก็เริ่มโปรยปรายแล้วก็เริ่มตกหนักขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ทั้งตัวคุณไอวี่กับคุณพ่อของเขา ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่พอทั้งสองได้เข้าไปหลบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ได้สักพักหนึ่งน้ำป่าที่เชี่ยวกรากก็ได้ไหล่บ่ามายังบริเวณที่ทั้งสองยืนอยู่อย่างรวดเร็ว
ก็ได้รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศคนละทาง
ทันทีที่ตัวคุณไอวี่ กับคุณพ่อของเขาได้เห็นน้ำป่าไหลบ่าและประเดประดังมาอย่างรวดเร็ว เช่นนั้น ทั้งสองก็เกิดความรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แล้วทั้งสองก็ได้รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศคนละทางอย่างฉับพลันทันที
และด้วยความที่ ณ ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่พลบค่ำ อีกทั้ง ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยสายฝนและเมฆครึ้ม ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ทั้งตัวคุณไอวี่ และคุณพ่อของเขาต่างก็มองไม่เห็นซึ่งกันและกัน แล้วในที่สุด ตัวคุณไอวี่ก็ได้พลัดหลงกับคุณพ่อของเขาอยู่ในป่าแห่งนั้นนั่นเอง
และด้วยความที่คุณไอวี่ ไม่มีความรู้ในเรื่องการเดินป่าเลย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ยิ่งตัวเขาวิ่งหนีน้ำป่ามากเท่าไหร่ ตัวเขาก็ยิ่งหลงเข้าไปในป่าลึกมากขึ้นเท่านั้น เมื่อคุณไอวี่ ได้เดินหลงเข้าไปอยู่ในป่าลึกที่ห่างไกลจากน้ำป่าที่ไหลบ่ามามากพอสมควรแล้ว ด้วยความเหนื่อยอ่อนจึงทำให้ตัวเขาได้นอนพักอยู่ภายในป่าแห่งนั้นจนถึงรุ่งเช้า
ทันทีที่รุ่งอรุณของวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น คุณไอวี่ก็ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับคิดหาวิธีการที่จะออกไปจากป่าแห่งนี้ให้ได้แต่ด้วยความที่ตัวคุณไอวี่ในภพชาตินั้น ยังไม่ได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการเดินป่ามาจากคุณพ่อของเขาอย่างจริงๆ จังๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้คุณไอวี่ไม่รู้ว่าตัวเขาจะออกไปจากป่าแห่งนี้ได้อย่างไร
เมื่อเป็นเช่นนี้คุณไอวี่ จึงได้ลองเสี่ยงเดินไปตามเส้นทางที่ตัวเขาคิดว่า น่าจะใช่เส้นทางที่จะนำพาตัวเขาให้ออกไปจากป่านี้ได้
ด้วยการกล่าวสัจจะวาจาคำอธิษฐานนั้นก็จะเป็นผลสำเร็จ
แต่เมื่อคุณไอวี่ ได้ลองเดินไปตามเส้นทางดังกล่าวแล้ว ตัวเขาก็กลับพบว่า “ ตัวเขาเหมือนกับเดินวนไปวนมาอยู่ที่จุดเดิมๆ ” เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ตัวเขารู้สึกสับสนและไม่รู้หนทางว่าตัวเขาจะออกไปจากป่าแห่งนี้ได้อย่างไร
และในขณะที่ตัวคุณไอวี่ กำลังรู้สึกสับสนและหาหนทางที่จะออกจากป่าแห่งนี้ไม่เจออยู่นั้น ทันใดนั้นเอง ตัวเขาก็พลันนึกขึ้นมาได้ว่า ตัวเขาได้เคยอ่านตำรับตำราทางพระพุทธศาสนา ซึ่งตำรับตำราเหล่านั้นได้สอนเอาไว้ว่า “ ถ้าหากบุคคลใดตั้งจิตอธิษฐาน ด้วยการกล่าวสัจจะวาจา คำอธิษฐานจิตที่เป็นสัจจะวาจาของบุคคลนั้นก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์และสามารถเป็นผลสำเร็จได้อย่างเป็นอัศจรรย์ ”
ถ้าออกไปตัวเขาจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ทันทีที่คุณไอวี่ นึกถึงคำสอนที่อยู่ในตำรับตำราที่ตัวเขาเคยศึกษาร่ำเรียนมาได้เช่นนั้น ตัวเขาจึงไม่รอช้าได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า........
“ ขอให้ตัวเขาได้พบกับหนทางที่จะออกไปจากป่าแห่งนี้ หรือไม่ ก็ขอให้ตัวเขาได้พบกับบุคคลที่สามารถจะนำพาตัวเขาให้ออกไปจากป่าแห่งนี้ได้ด้วยเถิด ซึ่งถ้าหากตัวเขาสามารถออกไปจากป่าแห่งนี้ไปได้แล้ว ตัวเขาก็จะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไปจนกระทั่งตัวเขาหมดอายุขัย ”
เมื่อคุณไอวี่ อธิษฐานจิตจบลง ตัวเขาก็เตรียมที่จะเดินเพื่อหาทางออกต่อไป แต่แล้ว ณ ช่วงจังหวะที่ตัวเขากำลังจะเริ่มเดินต่อไปนั้น จู่ๆ ตัวเขาก็ได้หันไปเห็นบรรณศาลาหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ตัวเขายืนอยู่ ทันทีที่ตัวเขาได้เห็นเช่นนั้น ตัวเขาก็เกิดความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แล้วตัวเขาก็ไม่รอช้า ได้รีบเดินเข้าไปยังบรรณศาลาแห่งนั้น ด้วยความหวังว่า “ ตัวเขาจะได้พบกับบุคคลที่สามารถจะพาตัวเขาออกไปจากป่าแห่งนี้ได้ ” ในทันที
เมื่อคุณไอวี่ ได้เดินเข้าไปในบรรณศาลาหลังนั้นแล้ว ตัวเขาก็ได้พบกับพระภิกษุหนุ่มรูปงามท่านหนึ่งที่กำลังนั่งเจริญสมาธิภาวนาอยู่
ซึ่งอยู่ในแคว้นข้างเคียงกับแคว้นที่คุณไอวี่ในภพชาตินั้นอาศัยอยู่
สำหรับตัวพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ ท่านก็เป็นพระภิกษุที่ออกบวชอยู่ในวัดของพระเถระ ในยุคนั้นซึ่งอยู่ในแคว้นข้างเคียงกับแคว้นที่คุณไอวี่ในภพชาตินั้นอาศัยอยู่
และหลังจากที่ตัวท่านบวชแล้ว ตัวท่านก็ได้ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่เต็มกำลังจนสามารถหยุดใจและเข้าถึงพระธรรมกายภายในที่ชัดใสสว่างได้ในที่สุด และเมื่อพระภิกษุหนุ่มรูปงามท่านนี้ได้เข้าถึงพระธรรมกายภายในแล้ว ตัวท่านก็ได้มีโอกาสมาศึกษาวิชชาธรรมกายกับพระเถระ อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
จนกระทั่งในเวลาต่อมาตัวท่าน ก็ได้รับมอบหมายจากพระเถระ ให้เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายภายในแคว้นที่คุณไอวี่ หรือกุลบุตรหนุ่มผู้มีจิตใจงดงามในภพชาตินั้น อาศัยอยู่
และทันทีที่พระภิกษุหนุ่มรูปงามท่านนี้ได้เดินทางมาถึงที่แคว้นที่คุณไอวี่ อาศัยอยู่แล้ว ตัวท่านก็ได้ตั้งใจเดินธุดงค์เข้ามาอยู่ในป่าแห่งนี้ เพื่อต้องการจะปลีกวิเวกและบำเพ็ญสมณธรรมให้เต็มที่ก่อนที่ตัวท่านจะออกไปเผยแผ่ธรรมะให้กับมหาชนทั้งหลายที่อยู่ในแคว้นแห่งนี้ต่อไป
ส่วนว่า หลังจากที่คุณไอวี่ ได้พบเจอกับพระภิกษุหนุ่มรูปนั้นแล้ว เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร แล้วคุณไอวี่จะได้ออกจากป่าแห่งนี้หรือไม่อย่างไรนั้น เราก็คงจะต้องอดใจรอมารับฟังกันต่อในวัดถัดไป
รับชมวิดีโอ
http://goo.gl/QYcUX
พิมพ์บทความนี้
