Mobile Versionกรณีศึกษา คุณปู่กระจ่าง ใจวงศ์ ตอนที่ 8เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ที่ออกอากาศทางช่อง DMCภายหลังจากที่หลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา สำเร็จหลักสูตรการฝึกทหารชุดพิเศษแล้ว ตัวท่านก็ได้เข้ารับการบรรจุให้เป็นนายทหาร ที่อยู่ในหน่วยดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนภายในแคว้นของพระราชาองค์ที่จะออกบวช ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้น พระองค์ยังทรงเป็นพระราชโอรสและยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ตัวท่านได้เป็นนายทหารอยู่ในหน่วยดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเมื่อกาลเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป ทางส่วนกลางก็ได้มีการคัดเลือกนายทหารที่มีหน่วยก้านดี มีความรู้ความสามารถ และมีความจงรักภักดีต่อพระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่จะออกบวชขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เพื่อมาทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ความปลอดภัยให้กับพระราชโอรส ที่กำลังจะเตรียมเสด็จเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรี กับแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ ด้วยการฝึกทหารอย่างหนักกันเลยทีเดียวหลวงน้าของลูกทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ความปลอดภัยให้กับพระราชโอรสซึ่งหลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้มาทำหน้าที่เฉพาะกิจอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย และเมื่อทางส่วนกลางได้เตรียมการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขบวนเสด็จของพระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่จะออกบวช ที่เพียบพร้อมด้วยเหล่าองครักษ์ชั้นเยี่ยม ก็ได้ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือในทันทีและในขณะที่ขบวนเสด็จของพระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่จะออกบวช กำลังเข้าสู่บริเวณเขตชายแดนของแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือนั้น จู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิดขึ้น นั่นก็คือมีกลุ่มโจรปริศนาปรากฏตัวมาจากทุกทิศทาง แล้วก็กระจายกำลังเข้าจู่โจมขบวนเสด็จแบบรอบด้าน โดยมุ่งหมายที่จะโจมตีเข้าที่บริเวณจุดศูนย์กลางของขบวนเสด็จ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ประทับของพระราชโอรสนั่นเองมีกลุ่มโจรปริศนาปรากฏตัวมาจากทุกทิศทางแต่ด้วยความชาญฉลาดในการวางแผนระดับ “เซียนเหยียบเมฆยังเรียกป๋า” ของท่านมหาเสนาบดีนี้เอง จึงทำให้พระราชโอรสพร้อมด้วยองครักษ์จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีหลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมารวมอยู่ด้วย ได้เดินทางไปรออยู่ในจุดที่ปลอดภัยก่อนแล้วส่วนตัวท่านมหาเสนาบดีและกองกำลังทหารอีกส่วนหนึ่งนั้น ก็ได้ใช้แผนการล่อเสือออกจากถ้ำ ด้วยการปลอมตัวเป็นขบวนเสด็จจำแลง ซึ่งไม่มีพระราชโอรสประทับอยู่ แล้วก็มุ่งหน้าเดินทางเข้าไปในป่าทึบซึ่งเป็นจุดที่เสี่ยง และด้วยแผนการอันชาญฉลาดและสุขุมรอบคอบของท่านมหาเสนาบดีนี้เอง จึงทำให้ท่านมหาเสนาบดีสามารถจับกุมตัวกลุ่มโจร ที่มาดักลอบปลงพระชนม์พระราชโอรสได้ในที่สุดท่านมหาเสนาบดีสามารถจับกุมตัวกลุ่มโจรได้ในที่สุดทันทีที่พระราชาของทางแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือได้ทราบข่าวว่า “แผนการดักลอบปลงพระชนม์พระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่จะออกบวช ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า” เช่นนั้น พระองค์ก็ทรงเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองพระทัยเป็นอย่างมาก เหมือนมีใครมาสุมไฟอยู่ในพระทัย ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดเมื่อแผนการล้มเหลวพระราชาของแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือรู้สึกขุ่นเคืองพระทัยมากแล้วพระองค์ก็ทรงไม่รอช้า ได้ส่งนักฆ่ามือฉกาจคนหนึ่ง ให้รีบติดตามไปจัดการลอบปลงพระชนม์พระราชโอรส ซึ่งกำลังจะเสด็จเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรี กับแคว้นของพระราชาผู้มีศิลปะในหัวใจ ซ้ำอีกครั้งในทันทีแต่ในขณะที่นักฆ่ามือฉกาจ ซึ่งถูกส่งมาจากแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ หรือแคว้นของพระราชบิดาของพระราชาผู้เกะกะเกเร กำลังแอบดักซุ่มเพื่อเตรียมการที่จะลอบปลงพระชนม์พระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่จะออกบวชอยู่นั้น หลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ก็ได้มาเจอกับนักฆ่ามือฉกาจคนนั้นพอดีหลวงน้าของลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้มาเจอกับนักฆ่ามือฉกาจคนนั้นพอดีและด้วยความที่หลวงน้าของตัวลูกในภพชาตินั้น เป็นคนที่มีความละเอียดรอบคอบและช่างสังเกตไม่เป็นสองรองใคร กอปรกับตัวท่านเองก็ได้รับทราบข่าวมาจากทางหน่วยข่าวกรองก่อนแล้วว่า “ทางแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือจะส่งคนมาลอบปลงพระชนม์พระราชโอรสอีกครั้งหนึ่ง” ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เองจึงทำให้ตัวท่านรู้ได้ในทันทีว่า “นักฆ่ามือฉกาจคนนั้น จะต้องเป็นคนที่ทางแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือส่งมาอย่างแน่นอน”และเมื่อหลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา มีความมั่นใจเช่นนั้นแล้ว ตัวท่านจึงได้ลงมือจัดการกับนักฆ่ามือฉกาจคนนั้น เพื่อพิทักษ์ความปลอดภัยให้กับพระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่จะออกบวชในทันที และด้วยความที่ตัวท่านในภพชาตินั้น มีชั้นเชิงการต่อสู้ที่ฉับไวและแม่นยำเป็นอย่างมากนี้เอง จึงทำให้ตัวท่านสามารถใช้ดาบคู่กาย แทงไปที่ท้องของนักฆ่ามือฉกาจคนนั้นได้อย่างรวดเร็วตัวท่านใช้ดาบคู่กายแทงไปที่ท้องของนักฆ่ามือฉกาจคนนั้นทันทีที่นักฆ่ามือฉกาจคนนั้นเห็นว่า “ตนเองเป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำและถูกแทงเข้าที่ท้อง” เช่นนั้น ตัวเขาจึงได้รีบวิ่งหลบหนีแบบหัวซุกหัวซุนเข้าไปในป่า และหลังจากที่นักฆ่ามือฉกาจคนนั้น ถูกหลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาจัดการไปเรียบร้อยแล้ว ขบวนเสด็จของพระราชโอรส หรือพระราชาองค์ที่จะออกบวช ก็ได้มุ่งหน้าเดินทางต่อไป จนถึงแคว้นของพระราชาผู้มีศิลปะในหัวใจได้ในที่สุด เรียกได้ว่าหลวงน้าของตัวลูกในภพชาตินั้น เป็นองครักษ์ผู้พิทักษ์ความปลอดภัยให้กับพระราชโอรสได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียวขบวนเสด็จของพระราชาองค์ที่จะออกบวชจึงได้มุ่งหน้าเดินทางต่อไปภายหลังจากที่หลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เดินทางกลับมาจากแคว้นของพระราชาผู้มีศิลปะในหัวใจแล้ว ตัวท่านก็ได้มาประจำการเป็นนายทหาร อยู่ในหน่วยเดิม ที่ทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน ภายในแคว้นของพระราชาองค์ที่จะออกบวชตัวท่านมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้ามากขึ้นไปเรื่อยๆและเมื่อตัวท่านในภพชาตินั้น กลับมาประจำการเป็นนายทหารอยู่ในหน่วยเดิมแล้ว ตัวท่านก็ได้ตั้งใจทุ่มเททำหน้าที่ ที่ทางส่วนกลางมอบหมายให้ได้อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ตัวท่านมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้ามากขึ้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเมื่อถึงช่วงที่มหาสงครามระหว่างแคว้นของพระราชาองค์ที่จะออกบวช กับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้ กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของหลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมานี้เอง จึงทำให้ตัวท่านสามารถเล็งเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า “สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาจากภัยสงครามในครั้งนี้ นั่นก็คือปัญหาความอดอยากขาดแคลน ดังนั้น เพื่อความอยู่เป็นสุขของประชาชนทุกๆ คน และบรรดานายทหารทุกๆ นาย ตัวท่านจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดเตรียมเสบียงกรังให้เพียบพร้อมเอาไว้เสียก่อน”ตัวท่านต้องจัดเตรียมเสบียงกรังให้เพียบพร้อมเอาไว้และเมื่อหลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา เล็งเห็นเช่นนั้นแล้ว ตัวท่านจึงได้ดำเนินการติดต่อประสานงานไปตามหัวเมืองต่างๆ ภายในแคว้น จนกระทั่งไปถึงแคว้นพันธมิตรทั้งหลาย เพื่อจัดหาเสบียงกรังมาเก็บเอาไว้สำหรับหล่อเลี้ยงประชาชน และกองทัพในช่วงภาวะสงครามตัวท่านได้ดำเนินการติดต่อประสานงานไปตามหัวเมืองต่างๆ ภายในแคว้นนอกจากตัวท่านในภพชาตินั้น จะเป็นนายทหารที่มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลแล้ว ตัวท่านยังเป็นยอดขุนพลที่คอยปลุกปลอบ และให้กำลังใจพวกชาวเมือง ไม่ให้เกิดความหวาดกลัว หรือตื่นตระหนกในยามที่เกิดศึกสงครามอีกด้วย โดยท่านจะบอกกับชาวเมืองนั้นว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง"และด้วยความที่หลวงน้าของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้คอยปลุกปลอบและให้กำลังใจพวกชาวเมืองอย่างตลอดต่อเนื่องนี้เอง จึงทำให้แม้ว่าจะมีข้าศึกบุกเข้ามาประชิดหัวเมือง หรือหัวเมืองถูกข้าศึกล้อมเอาไว้ก็ตาม แต่พวกชาวเมืองก็ยังคงอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข โดยไม่ได้หวาดกลัวหรือหวาดหวั่นต่อข้าศึกเลยแม้แต่น้อย ซึ่งตัวท่านในภพชาตินั้น ก็จะคอยทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องความเป็นอยู่ และขวัญกำลังใจของประชาชนอย่างนี้ แบบนี้ จนกระทั่งภาวะสงครามระหว่างแคว้นได้สงบลงตัวท่านจะคอยทำหน้าที่ดูแลเรื่องความเป็นอยู่และขวัญกำลังใจของประชาชนส่วนว่าหลังจากที่ภาวะสงครามระหว่างแคว้นได้สงบลงแล้ว เรื่องราวของตัวท่านในพุทธันดรที่ผ่านมา จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรต่อไปนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในวันถัดไป
http://goo.gl/BLcZi
พิมพ์บทความนี้
