เด็กดี V-Star เมืองหริภุญชัย สร้างบวรปลอดสิ่งมึนเมานับถอยหลังกันแล้ว กับอีก 6 วัน ของการส่งผลงานโครงการบอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน โครงการดีๆที่สร้างสรรค์สังคมโลก ในดำริของคุณครูไม่ใหญ่ ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่เหล่าเด็กดี V-Star ทั่วประเทศไป ขอความรู้เรื่องโทษภัยของสิ่งมึนเมาจากผู้ใหญ่ใจดีและได้สร้างความมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นมากมายทั้งในบ้าน วัด โรงเรียน และชุมชนข่าวสว่างวันนี้ เป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนอนุบาลลำพูน จ.ลำพูนเจ๊า เพราะเหล่าเด็กดี V-Starของโรงเรียนนี้ รวมพลังเป็นผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก ดีจริง ตัวจริง นำนักเรียนทั้งโรงเรียน ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ป.6 จำนวน 1,400 คน ทำโครงการบอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน กันอย่างตั้งอกตั้งใจ เรียกได้ว่าบุกตะลุยไปทุกสถานที่ ทุกงานของชุมชน เพื่อขอความรู้เรื่องโทษภัยของสิ่งมึนเมาจากผู้ใหญ่ใจดี และได้ส่งผลงานเข้ามารวมจำนวน 5 เล่ม หนากว่า 4,000 หน้า แถมได้จำนวนข้อของโทษภัยอย่างท่วมท้นมากมายถึงหมื่นกว่าข้อ ผลที่เกิดขึ้นก็ได้สร้างความชื่นใจให้กับทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นอย่างดีคุณครูพิสมัย ยงพานิชย์ คุณครูผู้ประสานงานโครงการ V-Starร.ร.อนุบาลลำพูน
คุณครูพิสมัย ยงพานิชย์ คุณครูผู้ประสานงานโครงการ V-Starร.ร.อนุบาลลำพูน
เปิดเผยว่า “เด็กๆเขาได้ข้อมูลโทษของสิ่งมึนเมา จากการไปขอความรู้จากผู้ใหญ่ ทั้งที่บ้าน วัด และชุมชนทั้งใกล้และไกลโรงเรียนค่ะ ไม่ว่ามีงานที่ไหนในชุมชน ดิฉันก็จะพาเด็กไปหมดค่ะ ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่ได้มาจากผู้ปกครอง คนในชุมชน และหน่วยงานราชการต่างๆกว่า 70 แห่ง ทั้งในจ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการจัดกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดที่โรงเรียน ซึ่งเมื่อเอาข้อมูลมารวมกัน เราก็ได้ข้อมูลดิบกว่า 10,000 ข้อค่ะ และเมื่อรวมเล่มแล้วก็ได้ความหนากว่า 4,000 หน้า รวมทั้งแนวทางแก้ไขและข้อเสนอแนะอีกกว่า 200 ข้อค่ะ ซึ่งวิธีการแก้ไขที่เสนอแนะกันมากที่สุด ก็คือ การยกเลิกการขายและผลิตเหล้าและบุหรี่ค่ะ โดยให้รัฐบาลเป็นผู้ออกกฎหมาย และการสร้างครอบครัวให้อบอุ่น ด้วยการพากันเข้าวัดปฏิบัติธรรมค่ะ ขนาดเด็กชั้น ป. 3 คนหนึ่งยังพูดเลยค่ะว่า “ถ้าไม่มีขาย เขาก็ไม่กินกันหรอกครับ ครูครับ ก็ในเมื่อผู้ใหญ่รู้ว่ามันไม่ดี แล้วรัฐบาลให้เขาผลิตออกมาขายทำไมล่ะครับ”จากการทำโครงการนี้ ทำให้มีผู้ปกครองของนักเรียนตัดสินใจเลิกสิ่งมึนเมาได้หลายครอบครัวค่ะ มีเด็กคนหนึ่ง มาเล่าให้ฟังว่า “ครูครับ พ่อผมเลิกเหล้าแล้ว” พร้อมกับทำท่าดีใจใหญ่เลยนะคะ เพราะเด็กคนนี้เคยเขียนในรายงานว่า “พ่อผมเมาเหล้ามาทีไร ชอบตีแม่ทุกที” ซึ่งตอนนี้พ่อของเขาไม่ดื่มเหล้าแล้ว เกิดจากการที่เด็กเข้าไปถามโทษ และก็ไปขอให้พ่อเลิกเหล้าค่ะ และก็มีผู้ปกครองบางคนนะคะ โทรมาหาดิฉันว่า “ทำไมคุณครูมาบอกลูกผม ให้ผมเลิกกินเหล้าล่ะครับ ลูกมาบอกกับผมว่าพ่อครับ กินเหล้ามันไม่ดี โทษมันเยอะ ผมไม่อยากให้พ่อกินเหล้าครับ” ดิฉันตอบว่า “ที่ลูกพูดแบบนั้น คงเป็นเพราะว่าเขาได้เรียนรู้โทษภัยของสิ่งมึนเมา เขาคงเป็นห่วงคุณพ่อ ไม่อยากให้คุณพ่อเป็นแบบนั้น เด็กเขาเรียนรู้ไปแล้ว เขาก็คงอยากจะคุยให้ผู้ปกครองทราบน่ะค่ะว่าโทษภัยของสิ่งมึนเมานั้นมีมากมายขนาดไหน” ผู้ปกครองคนนั้นเขาก็อึ้งไปเลยค่ะตั้งแต่ทำโครงการนี้ ก็ทำให้เกิดเป็นกระแสกันเรื่องเลิกดื่มน้ำเมาหรือเสพสิ่งมึนเมาในชุมชนมากขึ้น โดยเฉพาะในวัด จะงานวัด งานศพ งานบวช ก็ปลอดสิ่งมึนเมาหมดค่ะ ซึ่งเกิดจากการที่เราไปสร้างเครือข่ายกับวัด ในโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก เรื่อยมาจนถึงโครงการบอกโทษเกินร้อย ทั้งการจัดกิจกรรมในโรงเรียน การออกไปขอความรู้ในชุมชน และการเทศน์สอนของพระเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ มีผลต่อกันหมดเลยค่ะ แต่ที่ปลื้มใจมากเลยนะคะ ก็คือปีนี้งานโรงเรียนไม่มีเหล้าเลยค่ะ เพราะว่าเด็กดี V-Star ชั้น ป.5 และ ป.6 ได้เสนอความคิดเห็น ไม่ให้นำสิ่งมึนเมามาขายในงานของโรงเรียน ทำให้ปีนี้งานวันดอกบัวบานของโรงเรียน จึงไม่มีสิ่งมึนเมาเลยค่ะเหล่าเด็กดี V-Star ชั้น ป. 3 กราบขอความรู้จากพระอาจารย์ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย
เด็กดี V-Star กำลังขอความรู้จากคุณครูที่โรงเรียน
คุณลุงมาส่งนมที่โรงเรียนพอดี เด็กดี V-Star ก็ไม่พลาดไปขอความรู้ด้วย
พี่สาวคนสวย แม่ครัวที่โรงอาหารของโรงเรียน ก็ยินดีบอกโทษภัยของสิ่งมึนเมา
ท่านสมาชิกสภาเทศบาล พวกเราก็ไปถามโทษของสิ่งมึนเมาจากท่านด้วย
พวกเราไปมาทุกสถานที่ แม้แต่ร้านค้าในชุมชน ก็ร่วมบอกโทษภัยของสิ่งมึนเมา
ทุกงานในชุมชน ที่มีคนรวมตัวกันเยอะๆ พวกเราก็บุกตลุยไปขอความรู้มาหมดเลย
ตัวแทนของโรงเรียน ได้ไปพูดออกอากาศ เรื่องวัยรุ่นกับปัญหายาเสพติด
ที่สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย
และนี่ก็คือ ผลงานการบอกโทษสิ่งมึนเมาของพวกเรากว่า 4,000 หน้า
โครงการนี้ได้ช่วยทำให้สังคมของเราดีขึ้นจริงๆค่ะ ไม่น่าเชื่อนะคะว่าจากวิธีการง่ายๆ แค่เด็กไปถาม แต่ทำให้อะไรดีขึ้นเยอะ ความคิดของหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ ช่างวิเศษจริงๆเลยนะคะ”กิจกรรมเหล่านี้จะสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าขาดการสนับสนุนจากผู้บริหารโรงเรียน โดยคุณครูณรงค์ฤทธิ์ สมศรีดา รองผู้อำนวยการ ร.ร.อนุบาลลำพูน กล่าวว่า “พอได้รับหนังสือแจ้งโครงการบอกโทษเกินร้อยจากทางชมรมพุทธศาสตร์สากล มันก็ใช่เลย เราเริ่มจากการให้เด็กไปขอความรู้จากผู้ใหญ่ทั้งในครอบครัว ชุมชน และตามด้วยกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนให้เด็กนักเรียนได้เข้าร่วม ผมยอมรับว่าก่อนเข้าร่วมโครงการ อาจจะเป็นจุดอ่อนในการสอนของครู ซึ่งจะเน้นหนักไปในด้านทักษะมากกว่า ทำให้เมื่อถามถึงโทษภัยของสิ่งมึนเมา ก็บอกได้แคบๆ แต่หลังจากผ่านกิจกรรมนี้ ทำให้เด็กๆมองได้ลึกขึ้นและรู้จักการวิเคราะห์ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปในระดับสังคมและประเทศชาติได้ครับกราบนมัสการขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ ที่ได้จัดทำโครงการเหล่านี้ขึ้นมา ทำให้เยาวชนได้ตระหนักถึงโทษและพิษภัยของสิ่งมึนเมา เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะร่วมมือกันและเห็นความสำคัญจริงๆครับ”คุณครูณรงค์ฤทธิ์ สมศรีดา รองผู้อำนวยการ ร.ร.อนุบาลลำพูน
http://goo.gl/vHLYb