พฤติกรรมลดเสน่ห์

พฤติกรรมลดเสน่ห์

พฤติกรรมที่ลดทอนเสน่ห์นั้นมีอะไรบ้าง

 

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN

 

พฤติการณ์ที่ทำให้คนอื่นอยากอยู่ห่างไกล มีอะไรบ้าง?

 

          ประกอบด้วย เรื่องกายภาพ กับลักษณะนิสัย

          เรื่องกายภาพ มีดังนี้ 1.ไม่ใส่ใจดูแลความสะอาดของร่างกาย เนื่องจากการไม่ดูแลตัวเองไม่ดี ทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่อยากเข้าใกล้ 

 

          2.การอดนอน มีงานวิจัย จากสวีเดนและเนเธอร์แลนด์ โดยนักวิจัยได้ทำการทดลองให้กับคนที่ลองอดนอนติดต่อกัน 30 ชั่วโมง หลังจากอดนอนแล้วทำให้มีถุงใต้ตาเกิดขึ้นตาดำคล้ำ หน้าตาดูโทรมทำให้คนไม่อยากเข้าใกล้

 

พฤติกรรมทางนิสัยที่ลดสเสน่ห์มีอะไรบ้าง?

 

          1.การหลงตัวเอง บางคนนึกว่าตัวเองเป็นเซ็นเตอร์ของทุกเรื่อง เวลาคุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ก็ดึงกลับมาเรื่องตัวเอง ทุกอย่างเข้าหาตัวตลอดทำให้คนคุยด้วยรู้สึกรำคาญ

 

          2.แสดงอาการหยาบคายโดยไม่รู้ตัว บางทีอาจคุ้นเคยกับพฤติกรรมบางอย่าง ซึ่งอาจจะใช้ได้กับสังคมใดสังคมหนึ่ง แต่เมื่อไปอยู่ในอีกที่หนึ่งอาจไม่เหมาะสมที่จะใช้พฤติกรรมแบบนั้น เนื่องจากอยู่ในสังคมจะเอาแต่ใจของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองตลอดเวลาโดยไม่คำนึงความรู้สึกของคนอื่นไม่ได้ 

 

          3.บางคนชอบขัดคอ ไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไรก็จะขัดไปทุกเรื่อง การแสดงความไม่เห็นด้วยสามารถแสดงได้ แต่ควรแสดงให้ราบรื่น อย่าไปขัดคอผู้พูดเสมอไป 

 

          4.พฤติกรรมชอบดราม่า หรือโอเวอร์รีแอค เมื่ออะไรเกิดขึ้นก็ตีโพยตีพาย ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เพื่อเรียกร้องความสนใจ บางทีคนรอบข้างจะเบื่อกับพฤติกรรมแบบนี้

 

          5.การจู้จี้ขี้บ่นซึ่งการขี้บ่นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ลักษณะแรกอาจบ่นเรื่องทั่วไป รอบตัว เช่น วันนี้ร้อนจังเลย บ่นเล็กน้อยไม่เป็นไรแต่บ่นบ่อยๆ คนรำคาญ เพราะบ่นไปก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ลักษณะที่ 2 เป็นการบ่นเกี่ยวกับเรื่องราวของตัวเองว่าทำไมตัวเองโชคร้าย น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง คนรอบข้างก็จะรำคาญเหมือนกันว่าบ่นแต่เรื่องของตัวเอง แทนที่จะเอาเวลาไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น

 

          6.พฤติกรรมที่เรียกว่าหน้าไม่รับแขก ดูเคร่งเครียดจริงจังอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงกันข้ามกับคนที่มีอารมณ์ขันจะทำให้คนอยากเข้าใกล้ รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สบาย

 

 

          7.การมองโลกในแง่ร้าย อะไรก็เป็นปัญหาไปหมด ทำให้ไม่อยากคุยด้วย คุยไปจิตใจห่อเหี่ยวไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร

 

          8.การแสดงความมั่นใจมากเกินไป ความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าไปแสดงให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาด้อยไป บางคนมีอีกโก้สูง แล้วไปแสดงพฤติกรรมบางอย่างทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาไม่มีคุณค่า ทั้งๆ ที่คนนั้นก็เก่งเหมือนกัน เราควรจะเสริมซึ่งกันและกัน เรามั่นใจได้แล้วเราก็เสริมความมั่นใจให้กับอีกคนหนึ่งได้เหมือนกัน

คนที่มีเสน่ห์น่าเข้าใกล้ควรเป็นคนอย่างไร?

 

          เวลาพบปะผู้คนถ้าเขาแสดงความเป็นมิตร เราจะรู้สึกอยากเข้าใกล้ หากไปเจอคนหน้าตายิ้มแย้มมีความเป็นมิตร ทำให้คนอยากเข้าใกล้อยากทำความรู้จัก เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของความมีน้ำใจ เมื่อเรารู้จักกันแล้วแต่ถ้าเขาไม่เคยมีน้ำใจ ไม่เคยช่วยเหลือคนอื่น เวลาคนอื่นมีทุกข์ร้อนอะไร เราจะรู้สึกว่าคนนี้เห็นแก่ตัว เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเข้าใกล้ คนที่น่าเข้าใกล้คือคนที่มีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องของความจริงใจถ้ามีความจริงใจต่อกันแล้ว ก็จะเป็นมิตรกันยาว เป็นพฤติกรรมที่ทุกคนอยากเข้าใกล้ อยู่แล้วสบายใจ ทำให้รู้สึกมีคุณค่าด้วย

ทันธรรม...โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ

 

คนมีเสน่ห์ต้องทำอย่างไร

 

          1.งามกาย งามกายขอให้สะอาด ไม่ให้มีกลิ่นตัว ไม่ต้องไปใส่น้ำหอม แต่ขอให้สะอาดเป็นหลัก เล็บตัดให้ดี ผมทำให้ดูเรียบร้อย แล้วแปรงฟัน ตั้งแต่เส้นผมถึงปลายเท้าให้สะอาดสเป็นปกติ นี่คืองามกาย  หากได้ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นคนขี้โรคกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วมีชีวิตชีวา เท่านี้ก็เป็นต้นทุนงามกายที่ดีมากแล้ว

 

          2.งามมารยาท ฝึกมารยาท โดยหลักคืออย่าไปทำอะไรที่กระทบน้ำใจ ให้คนอื่นลำบากใจ ให้เขารู้สึกเสียใจ จะทำอะไรคำนึงถึงความรู้สึกคนอื่นไม่ถือเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง จะทำอะไรเอาใจเขามาใส่ใจเรา คือหัวใจของมีมารยาท ให้คิดก่อนพูดว่าจะกระทบเขาไหม แม้กระทั่งเรามีของ โชว์ไปแล้วเขาจะรู้สึกว่าไม่สบายใจสู้เราไม่ได้หรือเปล่า ไม่อวด แต่เชียร์ชมยกคนอื่น เมื่อทำอย่างนี้คนอื่นกลับรู้สึกว่าคนนี้มีเสน่ห์ อยู่ใกล้แล้วสบายใจ เราทำให้คนอื่นสบายใจ เขาก็จะรู้สึกดีกับเรา แล้วเราก็กลายเป็นคนมีเสน่ห์ เราจะมีความสบายใจที่ยังยืนยิ่งกว่าเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง 

 

          3.งามใจ ไม่ใช่แค่มารยาทที่เปลือกนอก แต่งามใจ คืองามไปถึงจิตใจ คนอย่างนี้มีเสน่ห์ โดยคนที่งามใจ ประกอบด้วย

 

                1.การให้ทาน เป็นคนที่มีน้ำใจแบ่งปันเอื้อเฟื้อ 

 

                2.ปิยวาจา คือคำพูดที่ออกมาไม่ข่มใคร แต่พูดแล้วยกใจผู้ฟังให้สูงขึ้น ซึ่งจะไปซ้ำกับเรื่องมารยาทเป็นการแสดงออก แต่ใจคืออยู่ภายใน จะเสริมกัน จากใจอย่างนี้แสดงออกเป็นมารยาททางการพูด

 

                3.อัตถจริยา ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์คนอื่น เมื่อเกิดอะไรขึ้นเราเป็นคนหนึ่งที่พร้อมจะช่วยเขา มีศัพท์ว่า “ใจถึงพึ่งได้” มีอะไรแล้วเดือดร้อนพึ่งได้ หากอยากจะมีเสน่ห์ ต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนมีความรู้ความสามารถเป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้ แล้วทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นเสน่ห์ก็จะมา

 

                4.สมานัตตา คือการวางตัวสมฐานะ และมีความสม่ำเสมอ เป็นผู้ใหญ่วางตัวสมผู้ใหญ่เป็นผู้น้อยวางตัวสมผู้น้อย ต้องวางตัวให้สมกับฐานะตัวเอง แล้วมีพฤติกรรมที่สม่ำเสมอคาดการณ์ได้คนอื่นคบกับเราก็รู้สึกสบายใจ  รู้ว่าควรจะปฏิบัติกับเราอย่างไร รู้นิสัยรู้ท่าทีของเรา เพราะเรามีความสม่ำเสมอ 

 

          โดยหลัก คือ หลักสังคหวัตถุ 4 ได้แก่ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตา ทำให้เป็นคนมีใจงาม ถ้างามครบทั้งกาย งามทั้งมารยาท  แล้วงามทั้งใจอย่างนี้ จะเป็นคนมีเสน่ห์ในตัวเองแน่นอน เสน่ห์จะมาเพราะฝึกให้งามทั้งกาย ทั้งมารยาท และทางใจ อย่างนี้

 

รับชมคลิปวิดีโอพฤติกรรมลดเสน่ห์ : ทันโลกทันธรรม