พันธนโมกขชาดก ชาดกว่าด้วยการหลุดพ้นจากเครื่องผูกมัด

อดีตกาลอันไกลออกไป ยังมีอัครเหสีผู้สมบูรณ์พร้อมในอิตถีลักษณ์ ชวนหลงไหล บำรุงบำเรอสุขแก่พระเจ้ากาสี อยู่ในพาราณสีนครหลวง “ หญิงสวยอย่างเรา แม้แต่พระเจ้ากาสีก็ยังหลงไหล ฮึ แล้วมีรึ ชายหนุ่มอื่นใดจะไม่ต้องการ https://dmc.tv/a25897

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 5 มี.ค. 2563 ] - [ ผู้อ่าน : 18275 ]

ชาดก 500 ชาติ

พันธนโมกขชาดก-ชาดกว่าด้วยการหลุดพ้นจากเครื่องผูกมัด

เหล่าภิกษุในพุทธกาลสมัย

เหล่าภิกษุในพุทธกาลสมัย
  
        ในพุทธกาลสมัยนั้น ยังมีสตรีที่มีคุณยิ่งต่อการกำเนิดเป็นพุทธะ อันแปลว่ารู้ สิริมหามายา ปชาบดี ยโสธรา พิมพา หรือวิสาขา ล้วนเป็นที่บูชานับเนื่องมากว่า 2,500 ปี
แต่ยังมีอีกสตรีหนึ่งที่ชาวพุทธเราเชื่อกันว่าแม้วันนี้นางยังตกนรกหมกไหม้อยู่ หญิงนางนี้ก่อบาปมหันต์ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
พระแม่ธรณีได้สูบร่างของนางจิญจมาณวิกาลงสู่โลกันต์
 
พระแม่ธรณีได้สูบร่างของนางจิญจมาณวิกาลงสู่โลกันต์
 
       จิญจมาณวิกานางนี้ เคยบังอาจกล่าวอ้างยกความสัมพันธ์เป็นเท็จ ใส่ร้ายพระพุทธองค์ต่อหน้าพุทธบริษัท แล้ว ณ เวลานั้น จิญจมาณวิกาก็ลงโลกันต์ ตกนรก
ด้วยพระแม่ธรณีสูบหายไปจากโลกมนุษย์ เหลือไว้แต่มหันตบาปที่ก่อไว้ เป็นข้อปรารภเตือนสติสืบมาแต่นั้น
 
นางจิญจมาณวิกาถูกทรมานอย่างแสนสาหัสในโลกันต์นรก
 
นางจิญจมาณวิกาถูกทรมานอย่างแสนสาหัสในโลกันต์นรก
 
       “ โอ้ย โอ้ยร้อน ร้อน ร้อนเหลือเกิน โอ้ย ร้อย ร้อนมากเลย ” ดังในพระธรรมเทศนาครั้งหนึ่ง ณ พระเชตวันมหาวิหาร กลางสังฆมณฑลคราวนั้น
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปรารภนางบาปผู้นี้เป็นข้อธรรมขึ้นด้วย พันธนโมกขชาดก ดังนี้ 

พระเชตวันมหาวิหาร
 
พระเชตวันมหาวิหาร
 
       อดีตกาลอันไกลออกไป ยังมีอัครเหสีผู้สมบูรณ์พร้อมในอิตถีลักษณ์ ชวนหลงไหล บำรุงบำเรอสุขแก่พระเจ้ากาสี อยู่ในพาราณสีนครหลวง “ หญิงสวยอย่างเรา
แม้แต่พระเจ้ากาสีก็ยังหลงไหล ฮึ แล้วมีรึ ชายหนุ่มอื่นใดจะไม่ต้องการ ”
 
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปรารภนางบาปขึ้นด้วยหัวข้อธรรมด้วย พันธนโมกขชาดก
 
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปรารภนางบาปขึ้นด้วยหัวข้อธรรมด้วย พันธนโมกขชาดก
 
       เมื่อถึงคราวสวามีผู้เฒ่าจะต้องออกทัพไปปราบกบฏยังปัจจันตคามห่างไกล ก็ถูกนางนั้นบังคับมิให้ข้องแวะสตรีอื่น “ แหม พี่จะมีใจให้กับหญิงอื่นได้อย่างไรกัน
ในเมื่อพี่มีอัครมเหสีที่สวยงามอย่างเจ้าอยู่แล้ว รอพี่อยู่ที่วังเถอะน้องหญิง อย่าวุ่นวายใจไปเลย พี่นี้รักเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ”
 
อัครมเหสีแห่งพระเจ้ากาสีผู้มีสิริโฉมงดงาม
 
อัครมเหสีแห่งพระเจ้ากาสีผู้มีสิริโฉมงดงาม
 
      อัครมเหสีขอให้พระเจ้ากาสีพระสวามี บอกกล่าวรายงานทุกข์สุขมาเป็นระยะ มิให้ขาด “ เสด็จพี่ต้องส่งทหารนำสารส่งข่าวมาทุกระยะ 1 โยชน์นะเพค่ะ หม่อมฉัน
จึงจะคลายคิดถึงพระองค์ได้บ้าง ” “ จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ พี่จะส่งม้าเร็วกลับมาทั้งขาไปและขากลับทุก ๆ โยชน์ ตามที่น้องต้องการเลยล่ะจ๊ะ ” 
 
พระเจ้ากาสีผู้ปกครองเมืองพาราณสี
 
พระเจ้ากาสีผู้ปกครองเมืองพาราณสี
 
       ครั้นได้เวลาเมื่อโยธาทัพรอพร้อมอยู่นอกกำแพงพระนคร และทรงฝากราชกิจต่าง ๆ ให้ปุโรหิตหนุ่มดูแลต่างพระเนตรพระกรรณ์แล้ว พระเจ้ากรุงพาราณสีก็อำลามเหสี
ไปศึกด้วยความอาลัย “ รักษาพระวรกายด้วยนะเพค่ะ น้องจะรอเสด็จพี่กลับมา….ฮึ ๆ ไปให้นาน ๆ เลยนะ คราวนี้ก็จะถึงเวลาที่เราจะมีความสุขอย่างเต็มที่สะที ”
 
พระเจ้ากาสีได้ร่ำลาอัครมเหสีไปปราบกบฏยังปัจจันตคามด้วยความอาลัย
 
พระเจ้ากาสีได้ร่ำลาอัครมเหสีไปปราบกบฏยังปัจจันตคามด้วยความอาลัย
     
       ปุโรหิตหนุ่มผู้สำเร็จราชการเป็นบัณฑิตรักษาทาน ศีลภาวนาอยู่เนืองนิตย์ รู้จิตสตรีเช่นมเหสี ด้วยญาณสัมผัสก็ปลีกตัวออกห่าง มิข้องแวะข้องราชการด้วย
“ ใจหญิงนี่ ยากแท้จะหยั่งถึง ทางที่ดีเราควรอยู่ห่างจากอัครมเหสีไว้เป็นดี ” 

อัครมเหสีทรงกำชับพระเจ้ากาสีให้ส่งม้าเร็วกลับมาแจ้งข่าวในทุกๆ 1 โยชน์
 
อัครมเหสีทรงกำชับพระเจ้ากาสีให้ส่งม้าเร็วกลับมาแจ้งข่าวในทุกๆ 1 โยชน์
 
       2 ราตรีผ่านไปพระราชาเดินทัพได้ครบทางไกล 1 โยชน์ ก็ส่งม้าเร็วนำข่าวมาส่งแก่อัครมเหสีตามนัดหมาย “ อิจฉาพระเจ้ากาสีจริง ๆ ที่อัครมเหสี
ที่ทั้งสวยและสาวอย่างนั้น ดีใจจริง ๆ ที่ครั้งนี้เราจะได้มีโอกาสทอดพระเนตรพระนางใกล้ ๆ อย่างนี้ ”
 
กองทัพในเมืองพาราณสีเตรีอมพร้อมในการออกเดินทางไปยังปัจจันตคาม
 
กองทัพในเมืองพาราณสีเตรีอมพร้อมในการออกเดินทางไปยังปัจจันตคาม
 
       เมื่อถึงวังทหารผู้นำสารก็รีบเข้าเฝ้าอัครมเหสี “ ทุกข์สุขของมหาราชตรัสให้กระหม่อมถวายให้ถึงพระหัตถ์มเหสี ขอถวายสารนี้พะยะค่ะ ” “ ดีแล้วละ ถ้าอย่างนั้น
เจ้าก็ตามเราแล้วกัน เราไม่สะดวกจะรับสารที่นี่ มาสิจ๊ะ เข้ามาข้างในห้องโน่นเถอะ ”
 
อัครมเหสีและปุโรหิตได้เดินทางมาส่งกองทัพที่กำลังเดินทางไปยังปัจจันตคาม
 
อัครมเหสีและปุโรหิตได้เดินทางมาส่งกองทัพที่กำลังเดินทางไปยังปัจจันตคาม
  
       “ โอ๊ะ นี่เราจะมีวาสนาถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่ ไม่ไปก็โง่แล้ว ” ความจริงก็คือ การให้ทหารกลับมาส่งข่าวเป็นเพียงแผนการความต้องการล่วงละเมิดข้อกาเม
ของอัครมเหสีนั่นเอง “ คลังกรมกองของเจ้าไปได้แล้วล่ะ เจ้าหมดหน้าที่แล้ว และหากไม่อยากตายก็จงหุบปากให้เงียบไว้ ” 
 
ปุโรหิตหนุ่มผู้ได้รับหน้าที่ให้ดูแลราชการบ้านเมืองจากพระเจ้ากาสี    

ปุโรหิตหนุ่มผู้ได้รับหน้าที่ให้ดูแลราชการบ้านเมืองจากพระเจ้ากาสี
 
       “ ผู้หญิงอะไร ได้แล้วก็ไล่กลับ ช่างน่ากลัวจริง ๆ ” ในทุก ๆ โยชน์ที่ทัพกษัตริย์เดินทางไป ก็จะมีผู้ชายล่ำสันมาเป็นเหยื่อแก่พระมเหสี 1 คน “ กลับไปได้แล้วละ
แล้วอย่าปากโป้งล่ะ ไม่งั้นหัวเจ้าไม่ได้วางอยู่บนบ่าเหมือนเดิมแน่ ๆ ”

ม้าเร็วได้นำข่าวสารจากพระเจ้ากาสีมาส่งยังเมืองพาราณสีในทุก ๆ 1 โยชน์
 
ม้าเร็วได้นำข่าวสารจากพระเจ้ากาสีมาส่งยังเมืองพาราณสีในทุก ๆ 1 โยชน์
  
       “…มีความสุขจังเลย ผ่านมาตั้ง 32 คนแล้วสินะ นี่ถ้าพระเจ้ากาสีไปนาน ๆ แบบนี้ก็ดีสินะ ช่วยไม่ได้ผู้หญิงสาวสวยอย่างเราให้มีความสุขอยู่แค่ผู้ชายแก่ ๆ ได้ยังไงกัน ”
พระเจ้ากรุงพาราณสีเมื่อทรงปราบกบฏได้ชัยชนะแล้วก็เสด็จกลับพระนคร

ม้าเร็วได้นำข่าวสารจากพระเจ้ากาสีมาส่งยังอัครมเหสี
 
ม้าเร็วได้นำข่าวสารจากพระเจ้ากาสีมาส่งยังอัครมเหสี
 
       และในระหว่างทางกลับทัพนั้นพระองค์ก็ทรงส่งทหารไปส่งสารให้อัครมเหสีดังเดิมเหมือนตอนขาไป “ ทหารสื่อสาร เจ้าจงนำความรักของเราในขากลับ 1 โยชน์แรก
ไปส่งแก่ยอดดวงใจของเราด้วย อย่าช้าละ เดี๋ยวนางจะคิดถึงเราจนขาดใจสะก่อน ”
 
อัครมเหสีบังคับให้ม้าเร็วทุกคนที่มาส่งข่าวปรนเปรอความสุขแก่แก่ตนก่อนที่จะถูกส่งกลับไป
 
อัครมเหสีบังคับให้ม้าเร็วทุกคนที่มาส่งข่าวปรนเปรอความสุขแก่แก่ตนก่อนที่จะถูกส่งกลับไป
 
       เมื่อราชสารแสดงความรักมาถึง พระมเหสีผู้มักมากกามคุณก็เริ่มนับระยะทางกลับเช่นเดียวกับที่กระทำไปแล้ว “ รีบเข้ามาเร็วเข้า หากขัดขืนข้าจะทูลเท็จว่า
เจ้าปลุกปล้ำทำร้ายร่างกายเรา ” “ โอ้ ถึงตายเชียวนะ พะยะค่ะ ” อีก 32 คนอันเป็นระยะทางโยชน์สุดท้ายผ่านไป

ม้าเร็วทุกคนถูกสั่งให้ปิดบังความลับในเรื่องการผิล<a href=http://www.dmc.tv/search/ศีลธรรม title='ศีลธรรม' target=_blank><font color=#333333>ศีลธรรม</font></a>ของอัครมเหสี
 
ม้าเร็วทุกคนถูกสั่งให้ปิดบังความลับในเรื่องการผิลศีลธรรมของอัครมเหสี
 
       ข่าวการกลับมาของพระราชาก็แพร่ออกไป “ หมดกัน ผู้ชายคนที่ 64 เป็นคนสุดท้ายของเราแล้วหรือนี่ โห้ แย่จริง ๆ เนี่ยจะหมดเวลาแห่งความสุขของเราแล้วเหรอ
เมื่อไหร่กันนะที่พระเจ้ากาสีจะออกไปทำศึกสงครามอีก ” ในวันที่ต้องตกแต่งปราสาทเป็นพระราชนิเวศน์รอรับเสด็จนั้น
 
พระเจ้ากาสีเตรียมสารส่งให้ม้าเร็วในระยะทาง 1 โยชน์สุดท้ายในขากลับ
 
พระเจ้ากาสีเตรียมสารส่งให้ม้าเร็วในระยะทาง 1 โยชน์สุดท้ายในขากลับ
 
       ปุโรหิตหนุ่มต้องเข้าไปตรวจตราความเรียบร้อย “ ปุโรหิต เข้ามารับใช้เราสักเรื่องหนึ่งเถอะ มาสิ เข้ามาข้างในนี้หน่อย อือหือ ทหารทั้ง 64 นาย จะหารูปงามล่ำสัน
สู้ท่านสักคนไม่ได้ รีบเข้ามาเถอะ ก่อนที่พระสวามีของเราจะมาถึง ” “ หยุดก่อนพระเทวี หม่อมฉันไม่อาจทำตามพระประสงค์ของพระเทวีได้หรอก
 
ม้าเร็วคนที่ 64 คนสุดท้ายที่อักครมเหสีบังคับให้ปรนเปรอความสุขแก่ตน
 
ม้าเร็วคนที่ 64 คนสุดท้ายที่อักครมเหสีบังคับให้ปรนเปรอความสุขแก่ตน
 
       ทหารทั้ง 64 นายนั้น อาจจะกลัวพระนาง แต่พวกเขาช่างไม่กลัวอกุศลกรรมเลย ” “ เจ้าพูดอย่างนี้แสดงว่าเจ้าไม่กลัวเราอย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นก็ลองดู หากเจ้า
ไม่ทำตามความประสงค์ของเรา เราก็จะให้พระเจ้ากาสีตัดหัวเจ้าเสีย ” “ กระหม่อมไม่ยอมทำผิด แม้ว่าจะถูกตัดหัวก็เพียงชาติเดียว

ปุโรหิตหนุ่มได้เข้ามาตรวจตราความเรียบร้อยภายในพระราชวัง
 
ปุโรหิตหนุ่มได้เข้ามาตรวจตราความเรียบร้อยภายในพระราชวัง
 
       ดีกว่าก่อกรรมแล้วถูกตัดหัวชดใช้ไปพันชาติ ” “ เจ้าปุโรหิตโง่ บังอาจมาปฏิเสธหญิงงามอย่างเรา ดีละ แล้วเจ้าจะรู้พิษสงของเราบ้าง ”อัครมเหสีโกรธมาก
เมื่อถูกขัดใจ พระนางกรีดร้องแล้วโผเข้าฝากรอยเล็บไว้บนร่างกายของปุโรหิตคนดี ก่อนปล่อยให้กลับไป
 
อัครมเหสีได้ยั่วยวนปุโรหิตให้ปรนเปรอความสุขให้แก่นาง
 
อัครมเหสีได้ยั่วยวนปุโรหิตให้ปรนเปรอความสุขให้แก่นาง
 
       และเมื่อพระเจ้ากาสีกลับมายังพระที่บรรทม ความเท็จเพ็จทูลก็พรั่งพรูออกมา พร้อมน้ำตาของนางผู้งดงาม “ เสด็จพี่ กลับมาก็ดีแล้วเพค่ะ เจ้าปุโรหิตนั่น มันทำร้ายน้อง
มันย่ำยีน้อง ฮือ ๆ ๆ ” “ บังอาจมากเจ้าปุโรหิตตัวดี ข้าอุตส่าห์ไว้ใจ มันบังอาจมาทำลายดวงใจของข้าเพียงนี้เชียวรึ
 
อัครมเหสีได้ทูลความเท็จต่อพระเจ้ากาสีว่าปุโรหิตปลุกปล้ำทำร้ายนาง
 
อัครมเหสีได้ทูลความเท็จต่อพระเจ้ากาสีว่าปุโรหิตปลุกปล้ำทำร้ายนาง
 
       ทหารนำตัวมันมาเดี๋ยวนี้ ข้าจะตัดหัวมันเอง ” ดังกล่าวไว้ ปุโรหิตหนุ่มนั้นเป็นบัณฑิตตระกูลพราหมณ์โสตถิยอันซื่อสัตย์คู่พระราชวงศ์ เมื่อยกข้อนี้ขึ้นถวาย
พระสติความคับขันชีวิตก็บรรเทาลง “ ในเมื่อเจ้าเป็นผู้อยู่ในศีลธรรม หากเจ้าไม่ได้เป็นผู้ผิด 

ปุโรหิตถูจับตัวมาสอบสวนโดยพระเจ้ากาสี
 
ปุโรหิตถูจับตัวมาสอบสวนโดยพระเจ้ากาสี
 
       ฉะนั้นเจ้าจงกล่าวมาว่าอัครมเหสีของเราผิดอย่างไร ” “ ข้าพระองค์ เราไม่อาจตามพระทัยนางผู้ประพฤติกามเป็นนิจได้ จึงต้องมัวหมองดังนี้ ขอสมมุติเทพ
โปรดสอบถามความจริงต่อทหารสื่อสารทั้ง 64 คน ที่ส่งมาหาพระมเหสีเถิด ”
 
อัครมเหสีต้องโทษประหารแต่ปุโรหิตก็ไม่เอาโทษแก่นาง
 
อัครมเหสีต้องโทษประหารแต่ปุโรหิตก็ไม่เอาโทษแก่นาง
 
       แล้วการไต่สวนดำเนินขึ้น เมื่อจบสิ้นปากคำของชายฉกรรจ์ทั้ง 64 คน ที่ยอมสารภาพตรงกัน พระมเหสีผู้ร้อนแรงก็มิอาจปฏิเสธได้ โทษนางนั้นถึงขั้นประหารชีวิต
“ ขอทรงโปรดอภัยโทษให้แก่พระนาง เป็นกุศลแก่ข้าพระองค์เถิดพระเจ้าค่ะ เพราะสตรีมีสภาธรรมให้กำเนิดบุตรย่อมไม่เมถุนเป็นธรรมดา ”
 
อัครมเหสีถูกลงโทษโดยการปลดพระยศเป็นสามัญชน
 
อัครมเหสีถูกลงโทษโดยการปลดพระยศเป็นสามัญชน
 
      “ ปุโรหิตบัณฑิตแห่งเราไม่เอาโทษประหารแก่นางผู้นี้ก็จริง แต่จะงดโทษทั้งหมดเหมือนอภัยโทษแก่เจ้าทั้ง 64 คนนั้นคงมิได้ ” พระมเหสีในรัชกาลนั้นถูกปลดพระยศเป็นสามัญ
ส่วนทหารทั้งปวงได้คืนกรมกองกินเบี้ยหวัดต่อไป สำหรับปุโรหิตบัณฑิตหนุ่มนั้น เบื่อหน่ายต่อชีวิตฆารวาส จึงออกบวชถือเพศบรรพชิตอำลาราชสำนักพาราณสีมุ่งสู่ป่าหิมวันต์
 
ปุโรหิตได้ออกบวชถือเพศบรรพชิดและมุ่งหน้าไปยังป่าหิมวันต์
 
ปุโรหิตได้ออกบวชถือเพศบรรพชิดและมุ่งหน้าไปยังป่าหิมวันต์
 
       “ ขอจงสำเร็จในญาณสู่พรหมโลกเถิดท่านบัณฑิต ” ในพระชาตินั้นบัณฑิตโพธิสัตว์บำเพ็ญเพียรสั่งสมพระบารมีเพื่อการตรัสรู้ในอนาคตกาล อยู่ในสับปายะสถานอันสงบ
จนถึงในญาณสมาบัติ
 
ปุโรหิตได้บำเพ็ญเพียรจนได้ญาณสมาบัติถึงกาลก็กลับสู่<a href=http://www.dmc.tv/index.php?module=articles&action=showarticles&group=latest_update&om=249 title='ปรโลก' target=_blank><font color=#333333>ปรโลก</font></a>ดังที่ปวารณาไว้
 
ปุโรหิตได้บำเพ็ญเพียรจนได้ญาณสมาบัติถึงกาลก็กลับสู่ปรโลกดังที่ปวารณาไว้
 
       ถึงกาละแล้วก็สู่ปรโลกดังปวารณา ถึงพระพุทธกาลสมัยทรงประชุมชาดกว่า
 
 
 
พระมเหสี กำเนิดเป็น นางจิญจมาณวิกา
พระเจ้าพาราณสี กำเนิดเป็น พระอานนท์
ปุโรหิต เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
 
 
 




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ