โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: หลวงพ่อเจ้าคะ ในชนบทของเรามีความเชื่อว่า ถ้าลูกชายได้บวช พ่อแม่ก็จะได้อาศัยเกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์ จึงพยายามจูงใจให้ลูกชายอยากบวชทุกวิถีทาง มีการจัดงานใหญ่โต ล้มวัว ล้มควาย บางทีก็มีการแสดงมหรสพต่างๆ เช่น มีรำวง ลำตัด สตริง บางครอบครัวไม่สามารถจัดงานใหญ่ได้ เพราะทุนทรัพย์ไม่พอ ถึงกับเอาลูกสาวไปขาย เพื่อจะเอาเงินไปบวชลูกชาย อย่างนี้จะได้บุญไหมคะ?
คำตอบ: ตรงนี้ เป็นความเข้าใจผิดของกลุ่มชาวพุทธของเรา ก็ว่าได้ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อจะเอาไปทำบุญคิดว่าจะได้บุญ เอาเถอะอย่าว่าแต่เพื่อเอาไปบวชลูกชายเลย ฆ่าเป็ดฆ่าไก่ที่บ้านแต่เช้ามืด แกงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอาไปถวายให้พระท่านฉันกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารเพื่อจะเอาไปทำบุญถวายพระมันไม่คุ้มกันเลยถามว่าได้บุญไหม? ก็ต้องบอกว่าได้บาปเสียก่อนเรียบร้อยแล้ว บาปตั้งแต่คิดจะฆ่าไก่ พอลงมือฆ่าไก่ก็ได้บาปเพิ่มขึ้นอีก ครั้นแกงไปเสร็จเรียบร้อยเอาไปถวายพระ เข้าใจว่าจะได้บุญมาก แต่ความจริงแล้วได้บุญอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ว่าไม่คุ้มกับบาปที่ได้ บางคนยังสงสัยว่าทำไมได้บุญน้อย ระหว่างชีวิตไก่กับชีวิตพระ ชีวิตพระน่าจะมีค่ามากกว่า เพราะพระทำประโยชน์ทำความดีมากว่าคิดอย่างนั้นก็ถูก แต่สมมติก็แล้วกันว่า มีใครสักคนหนึ่งมาขอเนื้อคุณ บอกว่าจะเอาไปถวายให้พระฉัน พระธุดงค์ท่านเพิ่งออกจากป่ามา ท่าทางน่าเลื่อมใส ถามว่าคุณยินดีให้เฉือนเนื้อคุณไหม? คุณก็ไม่ยินดีให้ ทำนองเดียวกัน ไก่มันไม่รู้เรื่องอะไรกับคุณ ถึงรู้มันก็ไม่อนุโมทนากับความคิดของคุณหรอก มันไม่อยากให้ใครมาฆ่ามัน แต่มันหนีไม่พ้นจึงจำยอม ก่อนตายมันคงอาฆาตคนฆ่ามันแน่ๆ เลย ก็มันทั้งดิ้นทั้งร้อง จนไม่เป็นภาษาไก่อย่างนั้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อคิดจะเอาไปทำบุญฆ่าไก่เอาไปแกงถวายพระ คุณเอ๋ย...บาปมันกองสูงท่วมภูเขา ถ้าจะมีบุญเกิดขึ้นมันก็แค่จอมปลวก เพราะฉะนั้นอย่าไปทำเลยมันไม่คุ้มกันหรอก บาปก็ส่วนบาป บุญก็ส่วนบุญ ทดแทนกันไม่ได้ คนที่บงการหรือลงมือฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สิ่งที่จะต้องตามมาแน่ๆ เลยคือ ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติไหนข้างหน้าอายุจะสั้น ส่วนที่ไปตักบาตรทำบุญให้ทานก็ได้บุญติดตัวไป ไม่ว่าชาตินี้ ชาติไหน จะทำมาหากินอะไร ก็มีรายได้ดีไปเสียทั้งนั้นถ้าบุญกับบาป ทั้งสองอย่างนี้ส่งผลในชาติเดียวกัน ผลจะเป็นอย่างไร? เราลองคิดว่าถ้าเอาไปชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบกันดูมันจะสมดุลกันไหม? คือเกิดไปชาติหน้าทำมาหากินคล่องหยิบจับอะไรขึ้นมา ทำสำเร็จทุกอย่าง มีเงินทองมากมาย แต่ว่าอายุสั้น รวยอยู่ไม่เท่าไรก็ตายหรือไม่ตายง่ายๆ ก็เป็นอัมพาต นั่งกินนอนกินอยู่ในคฤหาสน์เป็นสิบปีจะเอาไหม?ยิ่งชนิดขายลูกสาวไปแล้วเอาเงินมาบวชลูกชาย ยิ่งทั้งผิดทั้งบาป ลูกสาวก็ลูกของเราแต่เอาไปขาย ก็เท่ากับส่งลูกสาวไปตกนรก รู้อยู่ว่าลูกสาว จะถูกเขาเอาไปขายต่อตามช่อง ตามบาร์ ตามไนต์คลับ ที่นั่นมันนรกแท้ๆ ยังทำได้ลงคอ ลูกสาวทั้งคนส่งไปตกนรกทั้งเป็นขายลูกสาวไปแล้วเอาเงินมาบวชลูกชายส่วนลูกชายที่บวชเป็นพระ จะตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมหรือไม่ ยังไม่แน่ บุญน่ะ ยังไม่แน่ว่าจะได้หรือเปล่า แต่บาปน่ะได้แน่ๆอยู่แล้ว หรือถึงแม้ว่า ลูกชายที่บวชตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม ทำให้พ่อแม่ได้บุญในฐานะส่งเสริมให้ลูกชายบวช แต่ก็ไม่คุ้มกับการที่ส่งลูกสาวไปลงนรกหรอก และถ้าลูกชายจะได้บุญที่บวชก็เป็นเรื่องของลูกชาย แต่พ่อแม่ที่ส่งลูกสาวลงนรกนั้น ต้องแบกบาปไปเยอะเลย เพราะฉะนั้นอย่าทำนะถ้ารู้ว่าพรรคพวกคนใดคิดจะขายลูกสาว เพื่อเอาเงินไปบวชลูกชายละก็ รีบไปห้ามเขาทีนะ อย่าปล่อยผ่านเลย สงสารเถอะ สงสารทั้งลูกสาวที่จะตกนรกทั้งเป็น สงสารพ่อแม่ที่โง่งมงายเรื่องบาปบุญ สงสารพระลูกชายที่จะต้องไปนอนเป็นทุกข์ทั้งผ้าเหลืองว่า น้องสาวของตนจะไปเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่ได้บุญกันทั้งบ้านแหละคุณเอ๋ย ยิ่งมีมหรสพมีการป่าวร้องเชิญกันมา เลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้ง นั่นก็เท่ากับแจกบาปกันทั่วหมู่บ้านเลยเพราะฉะนั้น ฝากบอกต่อๆ กันไปด้วย จะทำบุญอะไรก็ตามที ขอให้เป็นบุญล้วนๆ อย่าให้เป็นบุญปนบาปเลย มันจะแหนงใจตนเองข้ามภพข้ามชาติไปคำถาม: เวลาทอดกฐิน ทำไมจึงมีรูปจระเข้แห่นำหน้าไปด้วย ขอความกรุณาหลวงพ่อช่วยเล่าประวัติย่อๆ ให้หนูฟังหน่อยเถิดค่ะ?
คำตอบ: รูปจระเข้ามีติดไว้ที่ธงนำขบวนกฐินนี่ ในสมัยพุทธกาล ไม่มี มีแต่ในสมัยหลังๆ แล้วก็มีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น ความเป็นมาเกิดจากการเล่าขานต่อๆ กันมาเป็นเชิงนิทานปรัมปรา เอาจริงเอาแน่ไม่ได้กรณีที่ 1 เป็นปริศนาธรรม ให้ความหมายว่าเนื่องจากจระเข้มีลักษณะเฉพาะอยู่ว่า มันเป็นสัตว์ประเภทที่เห็นแก่กิน กินไม่รู้จักอิ่ม พอทอดกฐินเสร็จเรียบร้อยเขาก็เอาธงปักไว้ที่หน้าวัด เป็นธงรูปจระเข้ก็คือ ต้องการเตือนพระภิกษุว่าอย่าเห็นแก่กินให้ตั้งใจปฏิบัติธรรม กรณีที่หนึ่งเป็นอย่างนี้ธงรูปจระเข้นำขบวนกฐินกรณีที่ 2 มีนิยายปรัมปรา เล่าสืบต่อกันมาว่า หญิงหม้ายคนหนึ่งไปทอดกฐิน สามีที่ตายไปแล้วไปเกิดเป็นจระเข้ เวลาภรรยาเก่าไปทอดกฐินโดยทางเรือ จระเข้ตัวนั้นก็ว่ายน้ำนำเรือไป จนกระทั่งถึงวัดที่ทอดกฐิน ชาวบ้านรำลึกถึงความดีของจระเข้ที่อุตส่าห์มานำทาง วันหลังจึงให้มีรูปจระเข้มาทำเป็นธงติดนำขบวน อันนี้เป็นนิยายปรัมปรา เอาเรื่องเป็นจริงเป็นจังไม่ได้เรื่องธงรูปจระเข้นี้ ไม่ได้มีทุกวัด เท่าที่เห็นมีเฉพาะวัดที่อยู่ติดแม่น้ำลำคลอง ที่วัดพระธรรมกายทอดกฐินแล้ว ไม่เคยติดธงรูปจระเข้เลยนะ
http://goo.gl/v2duQ