หลวงพ่อตอบปัญหาโดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: นมัสการหลวงพ่อที่เคารพยิ่ง มีคนในที่ทำงานของดิฉันรุมตั้งคำถามว่า ทำไมวัดพระธรรมกายจึงต้องโฆษณาว่า ปีนี้จะมีผู้บวชไม่สึก เขาวิจารณ์ว่า ตามปกติวิสัยแล้วคนทั่วไปจะไม่พูดว่าบวชไม่สึก เพราะคำนี้เป็นลักษณะของการโอ้อวด มีพระหลายองค์ที่บวชแล้วไม่สึก แต่ไม่เห็นท่านโฆษณาให้ชาวบ้านรู้ เพราะว่าอันที่จริงแล้วจะสึกหรือไม่สึกเป็นเรื่องของอนาคต ไม่มีใครสามารถรู้ได้ แต่ที่บอกว่าจะบวชไม่สึก หากเกิดสึกขึ้นมาละก็จะมิเป็นเรื่องน่าอับอายหรือ? (ดิฉันถอดคำพูดจากของเขามาเลยนะคะ)
คำตอบ: เป็นคำถามที่ดีมาก เมื่อตอนหลวงพ่อจะบวช หลวงพ่อก็ไม่ได้บวชทันที ก็คิดอยู่หลายปีจนกระทั่งมั่นใจแล้วจึงบวช ก่อนหน้านั้นก็ทดสอบตัวเองหลายอย่าง ตั้งแต่เอ..เราจะวัดใจตัวเราเองได้อย่างไรว่าถ้าเราบวชแล้วจะไม่สึก ก็ลงมือวัดใจตั้งแต่ถือศีล 5 ไม่ขาดเลยเป็นปีพอทำได้จะถือว่าใช้ได้หรือยัง ยัง นั่นยังไม่ใช่ชีวิตพระ จึงเริ่มสวดมนต์ไม่ขาดเลยเป็นปี นั่งสมาธิไม่ขาดเลยเป็นปีธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นพิเศษ เข้าพิธีตัดปอยผม ภายในอุโบสถวัดพระธรรมกายถามตัวเองว่ากำลังใจเราขนาดนี้ บวชแล้วยังจะสึกไหมนี่ ได้คำตอบว่ายังไม่แน่นะ ก็ทดสอบใจต่อไปอีก เออ..ผู้หญิงที่สวยๆ แบบที่แต่ก่อนเราว่าสวย เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร เอ๊ะ..ไม่สวย มันชักจะเป็นยายแร้งทึ้งเสียแล้ว คิดได้อย่างนี้ เออ...ชักเข้าท่าแล้วสิเรา ถามว่ามั่นใจหรือยังว่าบวชแล้วจะไม่สึก ไม่แน่ ลองดูไปอีกสักปีก่อน นั่งสมาธิมากเข้าๆ จนมองเห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นภัย ของการอยู่ครองเรือนอย่างแท้จริงด้วยใจจริงพิธีตัดปอยผมธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นพิเศษ
หลวงพ่อมั่นใจเต็มที่แล้วจึงตัดสินใจบวช ยังจำได้เมื่อวันบวชพอโกนผมปอยแรกขาดตกลงถึงพื้น หลวงพ่อก็หยิบขึ้นมาแล้วอธิษฐานซ้ำอีกว่า ถ้าผมปอยนี้ไม่กลับมาติดบนหัวละก็ ชาตินี้ไม่สึกหรอก แต่แหม ถ้าผมที่ตกถึงพื้นแล้วกลับลอยขึ้นมาติดใหม่ได้ คงไม่ใช่ปาฏิหาริย์ธรรมดาๆ แน่ถามว่าที่หลวงพ่อทำอย่างนี้ได้อะไร? ได้สิ ได้อธิษฐานบารมี ถ้าจะเปรียบเทียบระหว่างคนที่รักษาศีล 5 เพราะว่าตั้งใจไว้ก่อนว่าวันนี้จะรักษาศีล 5 กับคนที่ยังไม่ได้ตั้งใจรักษา แต่ว่าเมื่อไปเจอเหตุอะไรเฉพาะหน้า ที่จะมีโอกาสให้ผิดศีล กลับรักษาศีล 5 ไว้ได้ ถามว่า คน 2 คนนี้ที่รักษาศีลมาตลอดวันเหมือนกันจะได้บุญเท่ากันไหม ตอบว่าไม่เท่ากันนะคนที่ตั้งใจรักษาศีลตั้งแต่เช้าว่า หัวเด็ดตีนขาดจะรักษาศีลให้ได้ แล้วก็รักษาได้จริง คนนี้ได้บุญมากกว่า คนที่ไม่ตั้งใจรักษาศีล แต่พอไปประสบเหตุเฉพาะหน้าเข้ายังสามารถรักษาศีลเอาไว้ได้ การที่คนหลังนี้ได้บุญหย่อนหน่อย เพราะเขาขาดอธิษฐานบารมี ขาดความตั้งใจจริงลูกศิษย์ของหลวงพ่อ 4 รูปที่นั่งอยู่นี่ หลวงพ่อปั้นอยู่ 13 ปี กว่าจะได้มาบวช เริ่มจากเมื่อหลวงพ่อบวชได้ 3-4 เดือน ยังไม่ครบพรรษาแรกเลย บวชวันที่ 19 ธันวาคม 2514 พอประมาณวันที่ 27-28 เมษายน 2515 หลวงพ่อเปิดอบรมธรรมทายาทเป็นปีที่หนึ่งลูกศิษย์รุ่นแรกนั่งอยู่นี่ เพราะฉะนั้นได้เคี่ยวเข็ญอบรมมานานพอดู หลวงพ่อเชื่อว่าท่านมั่นใจตัวเองว่าบวชแล้วจะไม่สึกพระที่อธิษฐานบวชไม่สึก ท่านจะได้อธิษฐานบารมี ถ้ารักษาได้อย่างนี้คือบวชไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตลอดชีวิต คือไม่ได้สึก พวกที่ตั้งแต่วันบวช ไม่ได้ตั้งใจว่าชาตินี้จะบวชไม่สึก 2 รูปนี้ได้บุญไม่เท่ากัน เหมือนกับคนตั้งใจถือศีลกับไม่ตั้งใจนั่นแหละพระที่อธิษฐานบวชไม่สึก ท่านจะได้อธิษฐานบารมีตั้งใจตั้งแต่วันแรกว่าจะบวชไม่สึก กับคนที่อยู่ไปเรื่อยๆ คิดว่าถ้าไม่สบายก็จะสึก บังเอิญสบายก็บวชตลอดไป คนที่ตั้งใจตั้งสัจจะไว้แต่แรกจะได้บุญมากกว่า เพราะเข็มชีวิตของเราเที่ยงตรง ไม่มีวอกแวกระหว่างทาง แต่ว่าถ้าไปเสียสัจจะเข้า คนพวกนี้ไปตกนรก ไม่ต้องโผล่เลยนะ เรื่องนี้เดิมพันยิ่งกว่าเล่นเกม เพราะเอาบุญที่ทำมา เป็นอสงไขยๆ ชาติ เป็นเดิมพัน ประกาศออกไปว่าจะบวชตลอดชีวิต ถ้ารักษาสัจจะได้ ท่านก็ได้บุญมหาศาล แต่ถ้าเสียสัจจะ อื้อฮือ..พระพุทธเจ้ามาบังเกิดกี่อสงไขยพระองค์ ก็ยังขึ้นมาพบไม่ได้ นี่ลึกกว่าเทวทัตอีก ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเสี่ยงกันยิ่งกว่าการพนันการพนัน อย่างมากก็แค่เทหมดกระเป๋าลงไปเล่น ถ้าแพ้มันก็หมดแค่ทรัพย์ แต่มันยังไม่หมดบุญ แต่ถ้าตั้งสัจจอธิษฐานว่าบวชไม่สึก แล้วไปสึกเข้านี่ บุญที่ทำมากี่อสงไขยชาติกี่อสงไขยกัปหมดคราวนี้เองต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ ซึ่งไม่คุ้มเลย แต่ว่าถ้าผ่านกันได้ตลอด บุญก็มหึมาเป็นภูเขาเลย อะไรก็ขวางไม่ได้ ภพชาติต่อไปเพียงอธิษฐานต้องการอะไร มันจะเกิดพรึบขึ้นมาทันที เพราะกำลังใจดี ของทุกอย่างในโลกนี้มันเกิดขึ้นด้วยอำนาจใจนะคุณนะ ยกตัวอย่าง สมมติว่าเราอยากจะมีบ้าน บ้านที่เราจะมีหลังนี้เกิดด้วยอำนาจจิตนะ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเราจะต้องคิดก่อนว่าเราจะมีบ้าน คิดหนักเข้าๆ มันก็เกิดเป็นภาพบ้านขึ้นมาในใจว่า เราจะเอาบ้านลักษณะนี้ จากภาพในใจก็เขียนออกมาเป็นแบบแปลนในพิมพ์เขียวจากแปลนในกระดาษพิมพ์เขียวเราก็ให้ช่างก่อสร้างขึ้น ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าบ้านหลังนี้มันเริ่มมาจากความคิด คิดจะสร้างบ้านแต่กว่าจะได้บ้านนี่คิดตั้งค่อนชีวิตจึงได้ บางคนคิด 5 ปี 10 ปีจึงจะได้ บางคนคิดวันนี้อีก 3 เดือนได้แล้วเหตุที่ได้ช้าได้เร็วต่างกัน เพราะอำนาจจิตมันต่างกัน อำนาจจิตต่างกันเพราะสั่งสมอธิษฐานบารมีมาไม่เท่ากัน บางคนนึกอยากจะได้อะไรก็นึกวาดเป็นมโนภาพขึ้นมาได้ แต่บางคนวาดไม่ออกต้องไปตามดูที่เขาวาดแล้ว ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอธิษฐานบารมีมากน้อยต่างกันอธิษฐานบารมีที่บุคคลทำขึ้น จะได้บุญมากเป็นพิเศษเฉพาะตัวอธิษฐานบารมีที่บุคคลทำขึ้น นอกจากจะได้บุญมากเป็นพิเศษเฉพาะตัวแล้ว ยังได้ผลต่อไปถึงคนอื่นอีก ได้ผลคือคนที่มีใจเด็ดเดี่ยวอย่างนี้น่ะหายาก เดี๋ยวนี้อยู่มุมไหนของโลกบ้างก็ไม่รู้ คนที่ตั้งใจบวชไม่สึกหลวงพ่อเคยอ่านพบในพระไตรปิฎกว่า ในสมัยพุทธกาล มีการตั้งใจบวชไม่สึกกันจริงๆ จังๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เคยได้ข่าวเลย อ่านหนังสือพิมพ์กี่ฉบับๆ เจอแต่พาดหัวตัวเป้งว่า ไอ้นี่ข่มขืนแล้วฆ่า ไอ้นั่น ค้าเฮโรอีนข้ามประเทศ ถูกจับได้พันล้าน ไอ้โน่นกำลังเดินขบวน ข่าวหนังสือพิมพ์มีแต่เรื่องร้อนใจประเภทนี้อ่านหนังสือพิมพ์มากๆ เข้าแล้วจะมีความรู้สึกว่า ตายจริงเมืองไทยนี่กำลังจะลุกเป็นไฟแล้ว คนชั่วคงเต็มเมือง คนดีคงไม่มีเลย ตอนที่หลวงพ่อกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ พรรคพวกจากเมืองไทยส่งหนังสือพิมพ์ไปให้อ่าน ตอนนั้นมีความรู้สึกว่า โอ้โฮ..เมืองไทยนี่กลียุคแล้ว คนดีคงไม่มีเลยพอเรียนจบปุ๊บก็รีบกลับมาดู โถ...ไม่มีอะไร แต่ว่าถ้าปล่อยเหตุการณ์ให้คนชั่ว ทำความชั่วหนักเข้าๆ แล้วก็เขียนให้มันเป็นข่าวลือลั่นไปทั่วเมือง บางทีอาจทำให้คนที่จะทำความดีนึกว่า เมืองไทยนี่คงจะไม่มีคนดีเหลืออยู่แล้ว ใครๆ ก็ทำความชั่วกันทั้งนั้น ถ้าเราจะทำความชั่วเพิ่มอีกสักคนคงจะไม่หนักหนาอะไร ถ้าบังเอิญมีคนคิดอย่างนี้มากๆ บ้านเมืองคงจะลุกเป็นไฟเร็วขึ้น แต่ถ้าสื่อมวลชนเปลี่ยนวิธีการเสียใหม่ คือพอได้ข่าวว่ามีคนตั้งใจจะบวช ตามอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามอย่างพระอรหันต์ หนังสือพิมพ์ก็ประโคมข่าวชวนกันไปอนุโมทนาเป็นการใหญ่ เราอ่านข่าวแล้วก็ตามไปอนุโมทนาด้วย ไปแล้วมีกำลังใจที่จะทำความดีตาม ถ้าเป็นอย่างนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ1. ผู้ที่คิดจะทำความดี ก็มีกำลังใจลงมือทำความดีเร็วขึ้น2. ผู้ที่เห็นผิดเป็นชอบว่าคนทำดีในโลกนี้หมดแล้ว เขาก็จะได้กลับใจว่า คนดียังมีอยู่ ที่คิดชั่วๆ ไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือทำกับใจไม่ทำ ถามว่าถ้าเป็นอย่างนี้ใครเป็นต้นบุญ ก็ผู้ที่ประกาศนั่นแหละเป็นต้นบุญ ได้บุญเพิ่มขึ้นอีกตั้งหลายเท่า นี่เป็นวิธีการที่ฉลาดหาบุญอีกประการหนึ่ง คนหาบุญนี่ขอให้ฉลาดเถอะหาได้ง่ายๆ เขียนหนังสือไม่กี่ตัว แต่หาบุญให้คนอนุโมทนาได้ทั้งประเทศเมื่อมีโอกาสที่จะมีคนบวชไม่สึกก็ต้องประกาศกันเพื่อให้คนอื่นได้ร่วมอนุโมทนาบุญคนฉลาด คนมีบุญเขาทำอย่างนี้ คือเอาบุญไปต่อบุญ ส่วนคนที่ไม่ฉลาดในเรื่องบุญ ฉลาดแต่ในเรื่องบาป พอเห็นพระไปสอนผู้พิทักษ์ป่าบนยอดเขาเพื่อจะให้ผู้พิทักษ์ป่ามีกำลังใจช่วยกันรักษาป่ากลับเขียนข่าว หรือเอาไปพูดว่าพระไปโค่นป่าเหลือแต่ตอไม้ อะไรทำนองนี้ ซึ่งต้องบอกว่า เขาหาบาปด้วยปากแท้ๆ คนมีปัญญาก็เอาบุญไปต่อบุญ คนกิเลสหนาปัญญาหยาบก็เอาบาปไปต่อบาป เมื่อมีโอกาสจะเอาบุญต่อบุญ จะมีคนบวชไม่สึกก็ต้องประกาศกัน ต้องโฆษณาให้ชาวบ้านรู้ ไม่ใช่อยากโอ้อวด อยากดังหรอกนะ
http://goo.gl/5bEJI