สิคาลชาดก ชาดกว่าด้วยพราหมณ์เชื่อสุนัข
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เข้ามากินอาหารซึ่งชาวเมืองนำมาบวงสรวงแก่ยักษ์ไว้ตามทางแพร่งและริมกำแพงเมือง มันกินอาหารและเผลอหลับไป ตื่นมาตอนเช้ามันก็ไม่สามารถออกไปนอกเมืองได้ และมันก็ได้ใช้อุบายหลอกพราหมณ์ผู้โลภมากให้พามันออกไปจากที่หลบซ่อนได้ในที่สุด
วลาหกัสสชาดก ชาดกว่าด้วยความสวัสดี
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากเหล่าภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาผู้ใดไม่ทำตามคำสั่งสอน ที่เราตถาคต แสดงไว้ดีแล้ว ผู้นั้นย่อมจะต้องถึงความพินาศ ย่อมถึงความทุกข์ใหญ่ในอบาย ๔ (คือได้นรก ดิรัจฉาน เปรต อสุรกาย) เปรียบเสมือนพวกพ่อค้า ที่ถูกนางยักษิณี หลอกลวงให้ตกอยู่ในอำนาจ ต้องสิ้นชีวิตไป ฉะนั้น
สุวรรณกักกฏชาดก ชาดกว่าด้วยปูทองผู้ฉลาด
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการ เสียสละชีพของพระอานนทเถระเพื่อพระองค์ ดังนี้แล้วพระองค์จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาสาทกดังต่อไปนี้...กาลครั้งหนึ่งนานพระโพธิ์สัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีอาชีพกสิกรรม
อกาลราวิชาดก ชาดกว่าด้วยไก่ขันไม่ถูกเวลา
ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้ท่องบ่นไม่เป็นเวลารูปหนึ่ง คราวนั้นมีภิกษุบวชใหม่เป็นกุลบุตรชาวพระนครสาวัตถี บรรพชาในพระศาสนาแล้ว มีความมุ่งมั่นที่จะ...
บุปผรัตตชาดก ชาดกว่าด้วยเป็นทุกข์เพราะภรรยาไม่ได้ผ้าย้อมดอกคำ
เมื่อทหารพาตัวชายผู้เป็นสามีมาถึงที่ ก็พาเขาไปเสียบที่หลาว เขาได้รับเวทนาแสนสาหัส ฝูงกาพากันไปเกาะที่ศีรษะ จิกนัยน์ตาด้วยจะงอยปากอันคมเหมือนปลายคีม ชายผู้นี้ไม่ได้ใส่ใจทุกขเวทนาที่ได้รับแม้แต่น้อย เขายังคงเฝ้าคิดถึงแต่หญิงอันเป็นที่รักเท่านั้น
ปัณณิกชาดก ชาดกว่าด้วยที่พึงให้โทษ
ครั้งนั้นในนครพาราณสีมีพ่อค้าผักคนหนึ่งใคร่จะทดสอบกุมาริกาธรรมในบุตรีก่อนจะส่งตัวไปสู่ตระกูลสามี จึงชักชวนบุตรีเข้าไปเก็บผักในป่า “ ลูกพ่อบัดนี้เจ้าเติบโตเป็นสาวงาม จนพ่อไม่อาจหักห้ามราคะในใจได้ มาเถอะขอให้พ่อได้สัมผัสกายของเจ้าสักหน่อยเถอะนะ ” “ พ่อจ๋า พ่อที่ประเสริฐของฉัน ทำไมพ่อทำอย่างนี้ละ พ่อปล่อยมือลูกเถิดนะจ๊ะ
ฉวชาดก ชาดกว่าด้วยการนั่งที่ไม่สมควร
ครั้งหนึ่งพวกภิกษุฉัพพัคคีย์นั้นได้รับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน ครั้นเมื่อไปถึงเรือนของผู้นิมนต์แล้วก็นั่งอยู่ในที่ต่ำแสดงธรรมแก่ฆราวาสซึ่งนั่งอยู่ในที่สูงกว่า ด้วยเห็นว่าพวกตนได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าของบ้าน ภิกษุรูปหนึ่งเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั้น จึงนำความไปกราบทูลพระพุทธองค์ทรงทราบ
ทิปิชาดก ชาดกว่าด้วยแพะกับเสือเหลือง
วันนี้ชีวิตเราไม่รอดแน่ จะต่อสู้กับเสือ ก็คงจะสู้แรงไม่ไหว มีทางเดียวเราต้องพูดขอความเห็นใจให้เสือใจอ่อน เราถึงจะมีโอกาสรอด ” แม่แพะทำใจดีสู้เสือ พยายามคิดหาคำพูดที่จะพูดหว่านล้อมให้เสือเหลืองใจอ่อนและปล่อยตัวเองไป
การันทิยชาดก ชาดกว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย
“ พระคุณท่านคนเหล่านั้นเขาไม่ได้รักษาศีล ดังที่รับศีลไว้เลยนะขอรับ ” “ แต่นี้ต่อไปขอพระธรรมเสนาบดี จงหยุดให้ศีลแก่ผู้ไม่พอใจรับอีกเลย พวกพรานใจบาป นักเลงหัวขโมยพวกนั้น ไม่อาจขัดขืนถ้อยคำพระเถระเจ้า จึงรับศีลไป แต่จิตใจมิได้ยอมรับตามเลยแม้แต่น้อย ” ศิษย์ทั้งหลายของพระสารีบุตรกล่าวขอดังนี้อยู่หลายครั้ง แต่มิได้ทำให้การศีลหยุดลงแต่ประการใด “ ไม่เป็นไรหรอกรับศีลไปทุกวัน สักวันหนึ่งเขาก็คงประพฤติปฏิบัติศีลได้เอง
สุขวิหารีชาดก ชาดกว่าด้วยสุขอันเกิดจากการบรรพชา
สมเด็จพระภัททิยะตัดสินพระทัยออกผนวชในพระพุทธศาสนา ได้บำเพ็ญเพียรจนหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ เดินทางภิกขาจารไปทุกหนทุกแห่งโดยลำพัง พระองค์ได้พบกับความสุขอย่างแท้จริง ด้วยไม่ข้องอยู่กับอิสริยยศและอันตราย จึงเปล่งอุทานขึ้นว่า “ เฮ้อ สุขจริงหนอ สุขจริง ”