สุวรรณกักกฏชาดก ชาดกว่าด้วยปูทองผู้ฉลาด
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการ เสียสละชีพของพระอานนทเถระเพื่อพระองค์ ดังนี้แล้วพระองค์จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาสาทกดังต่อไปนี้...กาลครั้งหนึ่งนานพระโพธิ์สัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีอาชีพกสิกรรม
มโนชชาดก-ชาดกว่าด้วยคบคนชั่วไม่ได้ความสุขที่ยั่งยืน
สมัยนั้นมีสหายสองคนผู้เป็นชาวเมืองราชคฤห์ ในสองสหายนั้น คนหนึ่งบวชในสำนักของพระศาสดาอีกคนหนึ่งบวชในสำนักของพระเทวทัต สหายทั้งสองนั้นย่อมได้พบเห็นกันและกันอยู่เสมอ แม้ไปวิหารก็ยังได้พบเห็นกัน ภิกษุที่ออกบวชในสำนักพระศาสดาต้องปฏิบัติกิจสงฆ์ออกบิณฑบาต ปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ ส่วนภิกษุที่บวชในสำนักของพระเทวทัตนั้นไม่ต้องออกไปบิณฑบาต เพราะจะมีคนจัดสำรับไว้ให้ในโรงฉันเรียบร้อย
ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 3
การทำอธิมุตกาลกิริยา (อะ-ธิ-มุต-ตะ-กา-ละ-กิ-ริ-ยา) คือการอธิษฐานจิตดับชีพของตนลงมาเกิดสร้างบารมีในโลกมนุษย์นี้ จะทำได้ก็เฉพาะพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายที่สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตเท่า นั้น
สัตตปัตตชาดก ชาดกว่าด้วยความสำคัญผิด
ข้อวินัยให้สงฆ์สาวกปฏิบัติแต่ละบทนั้น มักเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องไม่เหมาะสมเป็นกรณีๆ ไป พุทธกาลครั้งหนึ่งก็เป็นดังนั้น พุทธวินัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะพระฉัพพัคคีย์ 2 รูปล่วงพระวินัยข้อยึดถือในทรัพย์ มิได้ปล่อยวาง ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับกิเลส ภิกษุผู้ก่อเหตุที่ว่านี้ชื่อ พระปัณฑกะ และพระโลหิถกะ
ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 9
ในตอนนี้จะกล่าวถึง มาตลีเทพบุตรได้อธิบายเหตุที่สัตว์นรกต้องโดนทุกทรมานในขุมนรก เช่น ในอดีตตอนที่เป็นมนุษย์ ได้เรี่ยไรทรัพย์ของคนอื่นโดย อ้างว่าจะนำไปทำบุญทำทานสร้างวิหารเป็นต้น แต่กลับนำทรัพย์นั้นไปใช้จ่ายตามความพอใจ ไม่ได้ทำบุญดังที่กล่าวไว้ ตายไปตกอังคารกาสุนรก (อัง-คา-ระ-กา-สุ-นะ-รก) อุสสุทนรกขุมที่ ๔ ซึ่งเป็นนรกที่มีนายนิรยบาลกำลังเอาอาวุธมีหอก ดาบ ค้อนเหล็กเป็นต้นที่ไฟกรดลามเลียอยู่ทิ่มแทงสัตว์นรก ไล่ตีสัตว์นรกให้ตกไปในหลุมถ่านเพลิง
พลิกชีวิตด้วยบุญทอดกฐิน ตอน กลายเป็นเจ้าของกิจการแบบปุ้บปั้บ
หลังจากทำบุญไปแล้วปรากฏว่า เครื่องสำอางของผมขายดีอย่างเหลือเชื่อครับ และที่น่าอัศจรรย์ไปกว่านั้น ยอดขายได้พุ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง จนขายได้ถึงวันละ 1 แสนบาท ทำให้ผมมีกำไรมากถึง 3-5 หมื่นบาทต่อวัน รวมแล้วมียอดขายต่อเดือนเป็นเลข 7 หลักอย่างเหลือเชื่อครับ
จดหมายจากโครงการกล้าตะวันสันติภาพโลก ครั้งที่ 4 ตอน เมื่อเราสว่างโลกก็สว่างด้วย
โครงการนี้ได้มีผู้ช่วยพี่เลี้ยงหัวใจยอดกัลยาณมิตรจำนวน 5 ท่าน คือ หลิน ไต้หมิง และ โจว เว่ยอี (อาเชา) จากกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย, เซียวหลี่ เอี้ยนฟาง จากปีนัง มาเลเซีย, กง เจี้ยนหว่าน จากสิงคโปร์ และลวี๋ เจียหมิน จากไต้หวัน ได้เดินทางมาเมืองไทยล่วงหน้าก่อน 4 วัน (วันที่ 27-30 มิถุนายน 2558) เพื่อเข้าคอร์สฝึกอบรมเป็นผู้ช่วยพี่เลี้ยงแบบเข้มข้นและรับภารกิจที่เร่งด่วนต่อทันที
กัจจานิโคตตชาดก ชาดกว่าด้วยในการไหน ๆ ธรรมย่อมไม่ตาย
" ธรรมะคงตายไปจากโลกนี้แล้ว ไม่อย่างนั้นคนจิตใจชั่วอย่างสะใภ้ของเราคงไม่มีลูก และคงไม่มีความสุขเช่นนี้ ” วันหนึ่งหญิงชราได้นำข้าวของได้แก่ งา แป้ง ข้าวสาร ทัพพี ถาด และศีรษะมนุษย์ที่ตายแล้ว ๓ ศีรษะมาทำเตาไฟ เพื่อทำพิธีถวายมตกภัตแก่ธรรมในป่าช้า ด้วยเข้าใจว่าธรรมได้ตายไปแล้ว นางเริ่มก่อไฟแล้วลงน้ำสระผม บ้วนปาก สยายผม จากนั้นจึงเริ่มซาวข้าวเพื่อถวายมตกภัตแก่ธรรม
เนรุชาดก ชาดกว่าด้วยอานุภาพของเนรุบรรพต
หงส์สองพี่น้องได้บินท่องเที่ยวผ่านไปทางภูเขาเนรุบรรณพต ซึ่งเนรุบรรพตแห่งนี้เป็นภูเขาวิเศษสัตว์ใด ๆ ก็ตามเมื่อเข้ามาอยู่ที่นี่จะมีสีสันสวยงาม ดั่งทองทุกตัว “ น้องเอ๋ย สัตว์สกุลใดจิตและพฤติกรรมก็ย่อมเป็นไปตามสัญชาติญาณ ตนไม่อาจเปลี่ยนสีได้อย่างภายนอกหรอก ” หงส์ผู้พี่ได้กล่าวกับน้องของตน
การันทิยชาดก ชาดกว่าด้วยการทำที่เหลือวิสัย
“ พระคุณท่านคนเหล่านั้นเขาไม่ได้รักษาศีล ดังที่รับศีลไว้เลยนะขอรับ ” “ แต่นี้ต่อไปขอพระธรรมเสนาบดี จงหยุดให้ศีลแก่ผู้ไม่พอใจรับอีกเลย พวกพรานใจบาป นักเลงหัวขโมยพวกนั้น ไม่อาจขัดขืนถ้อยคำพระเถระเจ้า จึงรับศีลไป แต่จิตใจมิได้ยอมรับตามเลยแม้แต่น้อย ” ศิษย์ทั้งหลายของพระสารีบุตรกล่าวขอดังนี้อยู่หลายครั้ง แต่มิได้ทำให้การศีลหยุดลงแต่ประการใด “ ไม่เป็นไรหรอกรับศีลไปทุกวัน สักวันหนึ่งเขาก็คงประพฤติปฏิบัติศีลได้เอง