แฉกลโกงร้านโทรศัพท์ ย้อมแมวเพียบ

 แฉกลโกงร้านโทรศัพท์ ถ้าซื้อตามร้านทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในศูนย์เสี่ยงโดนย้อมแมว เดี๋ยวนี้มีหลายวิธีมาก ทั้งบิวท์ใหม่ ยำเครื่อง ชักของ หรือแม้แต่ห่อกล่องใหม่ แนะก่อนซื้อควรตรวจสอบเลขอีมี่ และศึกษาเครื่องรุ่นที่จะซื้อ แต่ดีสุดคือซื้อในศูนย์ที่มีรับประกันถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอไอเอส ฟิวเจอร์ เวิลด์ ศูนย์รวมนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย ได้เปิดเวทีจัดกิจกรรมเวิร์กช็อป ในหัวข้อ "ด้านมืดวงการมือถือ X-ray Mobile Workshop" ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยได้เชิญกูรูด้านมือถือชื่อดังจาก X-ray Mobile.com และ pantip.com ผู้คลุกคลีและอยู่ในแวดวงมือถือและเว็บไซต์กว่า 10 ปี และเป็นเจ้าของนามปากกาดัง Cookie Company หรือมิสเตอร์คุกกี้-ชัยวัฒน์ ฉันทสกุลเดช มาเปิดโปงไขความลับกลโกงโทรศัพท์มือถือจากพ่อค้าหัวใสในภาวะสังคมไร้สาย หากไม่อยากเป็นเหยื่อภัยมืดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ในงานได้มีการกล่าวถึงกลโกงธุรกิจด้านมืดของวงการพ่อค้าและร้านขายมือถือหัวใสว่า ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่นิยมซื้อโทรศัพท์มือถือจากร้านตู้กระจกใกล้บ้าน ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง อาทิ ราคาถูกกว่าซื้อกับศูนย์หรือร้านตัวแทนจำหน่าย รู้จักคุ้นเคยกับร้านค้านั้นดี อยากได้รุ่นที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทย เป็นต้น ในขณะที่พ่อค้าหรือร้านค้าหลายแห่งก็สบช่องเห็นโอกาสในการโกงได้อย่างง่ายดายขึ้น โดยเหตุผลที่ทำให้ร้านค้ามือถือต้องทำการโกง อาจเป็นเพราะมือถือมีรุ่นเยอะขึ้น มีร้านคู่แข่งขันเพิ่มจำนวนขึ้นมากจึงแข่งขันกันสูงเรื่องราคา ส่งผลให้กำไรลดลง ดังนั้นเพื่อให้สามารถอยู่รอดในภาวะค่าครองชีพสูง บางร้านยังต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่เป็นเงินจำนวนมาก ก็เลยตัดสินใจโกง

ส่วนรูปแบบของการโกงนั้น เริ่มตั้งแต่ใช้วิธีการ "ย้อมแมว" เอาเครื่องเก่าที่ใช้แล้วมา "บิวท์" หรือเอาของเก่ามาทำใหม่ แล้วนำไปใส่กล่องซีลทับอีกครั้งด้วยพลาสติก จนดูประหนึ่งว่าเป็นเครื่องใหม่แกะกล่องจริงๆ "การถอด" หรือ "ยำ" โดยใช้วิธีถอดอุปกรณ์บางชิ้นออกเพื่อนำไปแยกขาย เช่น สลับหน้ากากแท้กับหน้ากากปลอม ในกรณีนี้ผู้ซื้อก็จะได้ของมือหนึ่งแบบครึ่งๆ หรือการ "ชักของ" คือนำอุปกรณ์บางชิ้นที่แถมมาให้ในกล่องไปแยกขาย เช่น สายคล้องมือ เป็นต้น หรืออาจเป็น "เครื่องนอก" ที่เป็นของใหม่ แต่หนีภาษีเข้ามาขายจึงไม่มีประกันในเมืองไทย และที่เด็ดอีกอย่างคือ "เครื่องนอกศูนย์" ที่พนักงาน

ของศูนย์หรือร้านตัวแทนจำหน่ายเองคิดไม่ซื่อ แอบไปซื้อเครื่องตามร้านตู้กระจกมาขายปะปะกับเครื่องในศูนย์ของตัวเองเพื่อฟันกำไรเสียเอง

วิธีการโกงในทุกวันนี้ค่อนข้างเนียนมากเสียจนจับผิดได้ยากมากๆ จึงต้องเป็นภาระของผู้ซื้อเองที่ต้องรู้จักหัดสังเกต และหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการโกง เพื่อที่จะได้ตรวจสอบและไม่ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ อาทิ ทุกครั้งที่ซื้อมือถือเครื่องใหม่ ต้องจำไว้ว่า "มือหนึ่งต้องมีกล่อง"

นอกจากนี้  ก่อนซื้อให้นำSIM card ใส่ เข้าไปในโทรศัพท์แล้วกด *#06# หน้าจอมือถือจะขึ้นเลขอีมี่ (IMEI Number) ขึ้นมา ให้ตรวจสอบทันทีว่าตัวเลขชุดนี้เหมือนกับตัวเลขที่อยู่หลังเครื่อง  โดยให้เปิดฝาหลังแล้วถอดแบตเตอรี่ออกก็จะเห็นเลขอีกชุดที่ว่า จากนั้นก็ให้ตรวจชุดตัวเลขที่อยู่บนกล่องอีกครั้ง หากตัวเลขที่อยู่ในทั้ง 3 ตำแหน่งที่ว่านี้เหมือนกันทุกประการ ก็เท่ากับลดความเสี่ยงที่จะโดนเครื่อง "ประกอบร่าง" ไปได้ระดับหนึ่ง

สำหรับผู้ที่มักดีใจหากตนได้ฉีกพลาสติกกล่องโทรศัพท์ด้วยตัวเอง เพราะรู้สึกว่าโทรศัพท์ที่ซื้อต้องเป็นมือหนึ่งแน่ๆ นั้น ความจริงแล้วพ่อค้าหลายร้านใช้เทคนิคเล่ห์กลอุบายอันแยบยลนี้กันมานานแล้ว โดยนำกล่องไปซีลพลาสติกใหม่ เสียค่าซีลกล่องแค่ 20 บาทต่อกล่องเท่านั้น

แม้กระทั่งการชักของออกกันดื้อๆ ขณะที่กำลังคุยกันเพลินหน้าร้าน จนไม่ทันสังเกตว่าพ่อค้าตัวดีที่เรารู้จักนี่เอง แอบ "ชักของ" ออกไปแล้วแกล้งทำเป็นลืม อีกเรื่องที่ควรศึกษาก่อนก็คือ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ มักมีของแถมในกล่องค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้พ่อค้าแอบชักของนำไปขายแยกต่างหาก ถ้าไม่สังเกตก็เท่ากับได้ของไม่ครบกับเงินที่จ่ายไป หรือบางครั้งอาจได้ครบ แต่กลายเป็นของปลอม ส่วนของแท้ถูกพ่อค้านำไปแยกขาย

มิสเตอร์คุกกี้ยังได้ฝากข้อคิดทิ้งท้ายว่า ควรคิดก่อนซื้อและควรซื้อจากร้านที่มีใบรับประกันตัวเครื่องของจริง ซึ่งไม่ใช่แค่สัญญาลมปาก.

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ 

http://goo.gl/5HoVJ