เอเจนซีส์ -เตือนความคิดสร้างสรรค์ของเด็กถูกบั่นทอนจากอานุภาพของอาหารขยะ ที่ผนึกกำลังมากับเป้าหมายและความคาดหวังของโรงเรียน การตลาดแบบเหวี่ยงแห ทีวี และวิดีโอเกม และสารพิษเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตใจของเยาวชน
ครู นักเขียน นักวิชาการ และนักจิตวิทยากว่าร้อยร่วมกันทำจดหมายส่งถึงหนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟ เพื่อเน้นย้ำปัญหาความซึมเศร้าที่ลุกลามในหมู่เยาวชน พร้อมเรียกร้องให้ทางการเร่งหามาตรการแก้ไข
ในจดหมายที่ตั้งชื่อโดนใจว่า 'เราลืมวิธีเลี้ยงลูกกันแล้วหรือไร?' ซู ปาล์มเมอร์ ผู้แต่งหนังสือ 'วัยเด็กที่ถูกวางยา' และอดีตครูใหญ่ โจมตีว่ารัฐบาลล้มเหลวในการทำความเข้าใจพัฒนาการของเด็ก และเตือนว่า โภชนาการด้อยคุณภาพ และการออกกำลังกายที่ถูกจำกัด ผลักดันให้เยาวชนกลายเป็น 'ไอพ่นวิชาการ' แต่งตัวแก่แดดแก่ลม และถูกบ่อนทำลายความคิดสร้างสรรค์และความลุ่มลึก
"ขณะที่สมองของเด็กยังพัฒนาไม่สมบูรณ์เต็มที่ พวกเขาจึงไม่สามารถปรับตัวรับมือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและสังคม"
กลุ่มเคลื่อนไหวกลุ่มนี้เสริมว่า ความต้องการของเด็กยังเหมือนเดิม ขณะที่โลกรอบตัวหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว และคนรอบข้างคาดหวังความสำเร็จทางวิชาการและด้านสังคมกับเด็กมากขึ้น
"เด็กยังคงต้องการสิ่งที่จำเป็นต่อพัฒนาการมนุษย์ เช่น อาหารจริงๆ (ไม่ใช่อาหารขยะ) การเล่นจริงๆ (ไม่ใช่การเล่นวิดีโอเกม) ประสบการณ์ตรงในโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่อย่างสม่ำเสมอ"
จดหมายโทษว่า พลังการตลาดแบบมวลชนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เด็กแต่งตัวและมีพฤติกรรมแก่แดด ขณะที่ทีวีและวิดีโอเกมชักนำเยาวชนไปสู่สิ่งที่ไม่เหมาะสมในอนาคต นอกจากนั้นวัฒนธรรมยุคใหม่ที่อุดมด้วยการแก่งแย่งแข่งขัน ยังทำให้เด็กต้องหมกมุ่นกับการเรียนการสอบมากเกินไปและตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งหมายถึงการบ่อนทำลายจินตนาการและความลุ่มลึกของเยาวชน
เนื้อความในจดหมายได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ไมเคิล เชเยอร์ จากคิงส์ คอลเลจ ที่ระบุว่า ทักษะในการคิดของเด็กอายุ 11 ปีล้าหลังเด็กวัยเดียวกันเมื่อ 15 ปีก่อนถึง 2-3 ปี
จดหมายลงท้ายว่า "สังคมของเราพยายามยิ่งยวดในการปกป้องเด็กจากอันตรายทางกายภาพ แต่กลับมองข้ามความต้องการทางอารมณ์และสังคมของพวกเขา ทว่า ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ปัญหาทางจิตใจของเด็กจำนวนมากมายเกินกว่าระดับที่ยอมรับได้ถูกเพิกเฉยโดยไม่จำเป็น และนี่เกือบจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ปัญหาการใช้สารเสพติดบานปลาย เช่นเดียวกับความรุนแรง และการทำร้ายตัวเองในหมู่วัยรุ่น"
จากข้อมูลล่าสุดของอังกฤษระบุว่า ในแต่ละปีมีเด็กราว 1% ของกลุ่มอายุ 5-11 ปี และ 3% ของวัยรุ่นอายุ 11-18 ปี มีอาการซึมเศร้า และเด็กอายุ 5-16 ปีประมาณ 80,000 คนมีอาการซึมเศร้ารุนแรง
นอกจากนั้น 1 ใน 4 ของเด็กอายุ 11-15 ปียังเข้าข่ายเป็นโรคอ้วน และเกือบครึ่งของเด็กหญิงถูกระบุว่าเป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
กลุ่มนี้ยังเรียกร้องให้มีการทำประชาพิจารณ์ในหัวข้อ 'การเลี้ยงดูลูกหลานในศตวรรษที่ 21' เพื่อนำไปใช้เป็นประเด็นหลักในการกำหนดนโยบายสาธารณะในอนาคต
อนึ่ง ผู้ร่วมลงชื่อในจดหมายฉบับนี้มีอาทิ บารอนเนส กรีนฟิลด์ ผู้อำนวยการรอยัล อินสติติวชัน, เพเนโลป ลีช ผู้เชี่ยวชาญการดูแลเด็ก, ดร. ริชาร์ด เฮาส์ อาจารย์อาวุโสของศูนย์วิจัยเพื่อการศึกษาด้านการบำบัดของมหาวิทยาลัยโรแฮมป์ตัน รวมถึงอดีตรัฐมนตรีศึกษา 3 คนที่มา-
http://goo.gl/yQwlJ