![](https://images.dmc.tv/www/images/news_picture/blood.jpg)
เด็กหญิง 10 ขวบ เมืองนนท์ ป่วยด้วยโรคประหลาด มีเลือดไหลออกตามตัวคล้ายรอยถูกเฆี่ยน แม่พารักษาหลายที่ แต่ยังหาสาเหตุไม่พบ หันพึ่งไสยศาสตร์ ชี้เป็นกรรมเวรแต่ชาติก่อน ด้าน ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ สันนิษฐานอาจเป็นโรคลมพิษชนิดพิเศษ หรือเป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรง
เด็กหญิงวัย 10 ขวบป่วยด้วยโรคประหลาดทุกข์ทรมานรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นางวนิดา คงสวัสดิ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/6 หมู่ 5 ซอยแสงเทียน ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี แจ้งว่า ด.ญ.อารดา หรือน้องฟิล์ม บุตรสาววัย 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนเทพประทานพร ป่วยเป็นโรคประหลาดมีเลือดไหลซึมออกทั่วร่างกาย ปวดแสบปวดร้อน โดยรอยเลือดมีลักษณะเป็นริ้วคล้ายรอยถูกเฆี่ยนตี ขึ้นตามใบหน้า และแขน-ขา
นางวนิดา กล่าวว่า น้องฟิล์มเริ่มป่วยเป็นโรคประหลาดมาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 4 ตุลาคม 2549 โดยขณะนั้นระหว่างนอนดูทีวีอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ลูกสาวบอกว่า มีเลือดไหลออกจากมุมปาก จึงรีบเอาผ้าเช็ดออกให้ ตอนแรกคิดว่าเป็นเลือดกำเดา หรือเลือดออกตามไรฟัน แต่หลังจากซับเลือดไม่นานก็มีเลือดไหลออกมาอีก จึงตรวจดูในช่องปากกับจมูก ก็ไม่พบแผลอะไร
นางวนิดา กล่าวว่า ต่อมาลูกสาวบอกอีกว่ามีเลือดไหล จึงพยายามสังเกต พบว่าเลือดซึมออกมาเป็นจุดเหมือนเหงื่อ จึงตัดสินใจพาลูกสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลบางโพ หมอเจาะเลือดไปตรวจแล้วก็แสดงอาการประหลาดใจ โดยแนะนำให้พาลูกสาวไปหาหมอทางเลือดโดยตรงที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อไปถึงแพทย์เจาะเลือดลูกไปตรวจ ผลออกมาระบุว่าเป็นปกติ และไม่พบสาเหตุที่มีเลือดออก หมอสันนิษฐานว่า เด็กอาจจะถูกเล็บข่วน หรือถูกของแหลมทิ่มแทง ทำให้เกิดเลือดไหลซึม
"แต่จากการสังเกตอาการลูกพบว่า แม้แต่เวลานั่งเฉยๆ ไม่ได้ลุกไปไหน สักพักก็จะมีเลือดไหลซึมออกมาตามตัว แขน-ขา โดยเริ่มจากบริเวณใบหน้าก่อน จากนั้นก็ลุกลามไปทั่วจนกลายเป็นริ้วรอยคล้ายถูกเฆี่ยน พอหลายวันเข้าก็เริ่มมีอาการปวดแสบปวดร้อนตรงจุดที่มีเลือดไหล" นางวนิดา กล่าว
หลังจากนั้นได้พาลูกสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลบำราศนราดูรเพื่อให้ตรวจรักษาอีกครั้ง แพทย์เจาะเลือดไปตรวจดูแล้วพบว่า มีเลือดตัวหนึ่งในร่างกายผิดปกติอยู่ แต่ยังตรวจสอบไม่รู้ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด จนเริ่มท้อใจ ไม่รู้จะพาลูกไปรักษาโรคประหลาดนี้ที่ไหนดี กระทั่งวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากเริ่มมีอาการนานเกือบ 1 สัปดาห์ ก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ มีเลือดไหลซึมออกตามลำตัว ร่างกาย แขน-ขา และเริ่มมีอาการปวดมากขึ้น น้ำลายในปากตอนบ้วนออกมาเป็นเหมือนเลือดสดๆ
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม จึงตัดสินใจพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลเด็กอีกครั้ง แพทย์แนะนำให้กลับไปรักษากับหมอที่โรงพยาบาลรามาธิบดีตามเดิม แต่ในครั้งนี้อาการเลือดไหลออกมาเริ่มลุกลามไปทั่วตัว ทำให้แพทย์และพยาบาลต่างตกใจเมื่อเห็นอาการดังกล่าว พร้อมกับมีนักศึกษาแพทย์หลายคนสนใจมาดูและถ่ายรูปเก็บไว้ โดยหมอให้ยาบรรเทาอาการอักเสบมากิน แต่อาการก็ยังเป็นๆ หายๆ อยู่ตลอด
นางวนิดา กล่าวอีกว่า หลังจากหมดที่พึ่งจากแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว มีเพื่อนบ้านแนะนำให้พาลูกไปหาร่างทรงเจ้าแม่กาลี เพื่อให้ช่วยตรวจดูอาการ ร่างทรงเจ้าแม่กาลีบอกว่า เป็นวิบากกรรมเก่าที่ลูกสาวก่อไว้เมื่อชาติที่แล้ว และจะต้องรับกรรมด้วยโรคนี้ไปจนกว่าจะหมดเคราะห์ ขอให้ทำบุญกรวดน้ำ ถวายสังฆทานให้เจ้ากรรมนายเวรไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถช่วยยับยั้งไว้ได้ ดังนั้น จึงทำบุญบ้านเลี้ยงพระไปแล้วรอบหนึ่ง ซึ่งอาการของลูกสาวก็เริ่มทุเลา แม้ยังมีเลือดไหลอยู่แต่ไม่มากเท่าครั้งแรกๆ
"ทุกวันนี้ทุกข์ใจมาก ไม่รู้ว่าจะหาทางไหนช่วยรักษาโรคให้ลูกได้ เจาะเลือดตรวจมาแล้วเกือบ 20 ครั้ง ก็หาสาเหตุไม่พบ เวลาเกิดริ้วรอยคล้ายถูกเฆี่ยนในสมัยทาส รู้สึกสงสารลูกมาก ครอบครัวก็ไม่เคยมีประวัติป่วยด้วยโรคเลือดประหลาดนี้มาก่อน และตั้งใจจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลศิริราชเผื่อจะหาสาเหตุของโรคพบ ใจหนึ่งก็เชื่อว่าเป็นวิบากกรรม หรือกรรมเก่าในอดีต แต่อีกส่วนก็เชื่อว่าป่วยด้วยโรคประหลาด" นางวนิดา กล่าว
ด้าน น้องฟิล์ม กล่าวว่า เวลาที่เลือดจะไหลรู้สึกเจ็บแสบ เหมือนมีคนเอาไม้ตี แต่ไม่มากนัก สักพักก็หายไป บางครั้งเกิดอาการขณะเรียนหนังสืออยู่ แต่ไม่กล้าบอกเพื่อนเพราะกลัวถูกล้อเลียน อยากให้หมอช่วยรักษาให้หายจากโรคนี้ด้วย
ด้าน น.พ.จิโรจ สินธวานนท์ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับข้อมูลจากผู้ปกครองของเด็ก ตามหลักวิชาการแล้วยังไม่เคยพบโรคผิดปกติเช่นนี้มาก่อน ซึ่งต้องคงมีการตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดด้วยวิธีการตรวจชิ้นเนื้อ ตามข้อมูลที่ได้รับมาถือเป็นโรคประหลาด ที่ผิวหนังสามารถเปิด-ปิดได้เองอย่างผิดปกติ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นโรคลมพิษชนิดหนึ่ง เนื่องจากโรคลมพิษแบบธรรมดานั้นจะมีอาการแสบคันขึ้นตามผิวหนัง แต่ไม่ถึงกับมีเลือดซึมออกมา ซึ่งอาจป่วยเป็นโรคลมพิษชนิดพิเศษ หรือเกิดจากโรคเกล็ดเลือดต่ำ ที่ธรรมดาเลือดจะซึมไหลอยู่ใต้ผิวหนัง มีลักษณะเป็นจ้ำๆ แต่หากป่วยขั้นรุนแรงจะมีเลือดไหลซึมออกมา หากผู้ปกครองยินยอมให้สถาบันตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ยินดีที่จะตรวจวิเคราะห์รักษาโรคให้ เพราะถือว่าเป็นโรคที่ทางการแพทย์ในบ้านเรายังไม่เคยพบมาก่อน และคงต้องมีการสังเกตอาการของโรคให้ใกล้ชิดกว่านี้
พ.ญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา กุมารแพทย์ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเด็กคนดังกล่าวป่วยเป็นโรคอะไร เนื่องจากไม่ได้พบและตรวจคนไข้ แต่จากอาการที่ได้รับฟัง คาดว่าเด็กคนดังกล่าวน่าจะเป็นโรคผิวหนัง หรือโรคเลือด ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ทั้งสองกรณี ผู้ปกครองควรนำเด็กไปตรวจกับโรงพยาบาลเด็ก อย่าปล่อยไว้เพราะอาจจะเรื้อรัง
ที่มาจากหนังสือพิมพ์![]()
![](https://www.dmc.tv/qrcode/cache/qr-code-200-820.png)
http://goo.gl/yO5lN