Mobile Version
| ||
 |
ไชน่าเดลี่05/12/06 - ตู้ซีหมิน วัย 50 ปี 1 ใน 5 ผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยเพื่อสุขภาพ ซึ่งสนับสนุนให้คนในหมู่บ้านหันมาดื่มน้ำปัสสาวะเพื่อสุขภาพตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมา ปัจจุบันชาวหมู่บ้าน 400 คนจากทั้งสิ้น 1,600 คน หันมาดื่มน้ำปัสสาวะของตนเองเป็นทิวแถว ในจำนวนนี้ 2 ใน 3 เป็นผู้สูงอายุ
ตู้ อดีตผู้ใหญ่บ้านอู๋จวง ในเขตปาเฉียว เมืองซีอัน มณฑลส่านซี เริ่มดื่มปัสสาวะเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีรายงานว่า ปัจจุบันเขามีสุขภาพแข็งแรงมาก
เขาเล่าให้ฟังว่า แม่ให้เขาทานปัสสาวะของตัวเองตั้งแต่เขาอายุ 3 ขวบ ซึ่งแม่เขาเองก็เป็น 1 ในสมาชิกกลุ่มผู้สนับสนุนการกินฉี่เพื่อรักษาสุขภาพช่วงปี 30 โดยกลุ่มมีสมาชิกทั้งสิ้น 800 คน นอกจากนี้ ตู้ยังโน้มน้าวให้ภรรยาและลูกชาย 2 คนของตนเอง ซึ่งคนหนึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัย อีกคนเป็นแรงงานอพยพ มาเชื่อและปฏิบัติตามด้วย
“ฉันไม่สนับสนุนให้เขาดื่มมันเลย น่ารังเกียจจะตาย” ภรรยาของตู้ให้สัมภาษณ์กับซีซีทีวี “ครั้งแรกที่ฉันดื่ม รสชาติมันแย่มาก แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที ฉันก็รู้สึกว่าสามารถรับได้”
อย่างไรก็ตาม ไม่เฉพาะครอบครัวของตู้เท่านั้นที่ลองลิ้มชิมรส “ของเสีย” จากร่างกาย ครอบครัวของสมาชิกทุกคนล้วนดื่มมัน แต่ก็มีกฎในการดื่มปัสสาวะอยู่ว่า ควรดื่มเฉพาะของตัวเองเท่านั้น และไม่ควรดื่มมากเกิน พวกเขาจะดื่มเฉพาะปัสสาวะที่ออกมาหลังจากตื่นนอนเท่านั้น
ตู้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เด็กผู้ชายที่อายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้หญิงที่อายุไม่ถึง 16 ปี ไม่ควรดื่ม เพราะมันจะทำให้ความรู้สึกทางเพศมาเร็วก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ ผู้ดื่มควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของปัสสาวะในการรักษาสุขภาพ
เซียงเป่าหยิน ผู้เฒ่าวัย 75 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายแรงงานและความมั่นคงทางสังคมระดับมณฑลกล่าวว่า วิธีนี้ได้ช่วยรักษาโรคปอดของเขา ปัจจุบันเขาตีพิมพ์หนังสือที่ถ่ายทอดเกี่ยวกับวิธีดื่มฉี่ ที่เขาเขียนขึ้นเองมากกว่า 4,000 เล่มแล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีชาวจีนราว 10 ล้านคนดื่มปัสสาวะเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และรักษาโรคภัย ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในส่านซี เหลียวหนิง และกว่างตง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์แสดงความเคลือบแคลงต่อวิธีรักษาสุขภาพดังกล่าว โดยกัวเป่าเสียว์ ประธานโรงพยาบาลถงจี้ในซีอันแสดงความคิดเห็นว่า สุขภาพที่ดีของผู้ที่ดื่มปัสสาวะอาจเป็นความรู้สึกทางด้านจิตใจเท่านั้น
หมายเหตุ** ความเชื่อส่วนบุคคล ห้ามลอกเลียนแบบ
ที่มา-
http://goo.gl/kXzsM
พิมพ์บทความนี้
